ป.ป.ช.ส่งเกณฑ์ชี้วัดการทุจริตให้ กกต. สอบนโยบายแต่ละพรรคเสี่ยงโกงหรือไม่
ป.ป.ช.ส่งหลักเกณฑ์ชี้วัดความเสี่ยงการทุจริตเชิงนโยบายให้ กกต.แล้ว เพื่อให้ตรวจสอบว่านโยบายแต่ละพรรค มีความสอดคล้องกับหลักเกณฑ์นี้หรือไม่ ชี้ขั้นตอนสำคัญที่ต้องจับตามากสุดคือช่วงนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติ
เมื่อวันที่ 15 ก.พ. 2562 นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงกรณีการจัดทำหลักเกณฑ์ชี้วัดความเสี่ยงต่อการทุจริตเชิงนโยบาย และคู่มือการใช้เกณฑ์ชี้วัดความเสี่ยงต่อการทุจริตเชิงนโยบายว่า เมื่อวันที่ 30 ม.ค. 2562 พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. ลงนามในหนังสือหลักเกณฑ์ดังกล่าวถึงประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อให้สำนักงาน กกต. ไปใช้เป็นหลักเกณฑ์ที่จะให้พรรคการเมืองใช้เป็นกรอบในการพัฒนาและกำหนดนโยบายของพรรคเพื่อลดความเสี่ยงต่อการทุจริตเชิงนโยบาย โดยให้พรรคการเมืองนำนโยบายของพรรคที่ใช้หาเสียงเลือกตั้ง ไปเทียบกับเกณฑ์ชี้วัดความเสี่ยงต่อการทุจริตเชิงนโยบาย ในขั้นตอนการพัฒนานโยบาย เพื่อตรวจสอบว่านโยบายดังกล่าวมีความสอดคล้อง และเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับหลักเกณฑ์นี้หรือไม่ และนอกจากนี้ขั้นตอนสำคัญอีกขั้นตอนที่พวกเราต้องจับตามองมากที่สุดคือขั้นตอนการนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติที่หน่วยงานของรัฐจะเป็นผู้ปฏิบัติตามเกณฑ์ในขั้นตอนนี้ ซึ่งจะเกิดขึ้นภายหลังจากที่ได้รับการเลือกตั้ง มีการจัดตั้งรัฐบาล และแถลงนโยบายต่อรัฐสภาแล้ว
นายวรวิทย์ กล่าวอีกว่า สำหรับเกณฑ์ชี้วัดความเสี่ยงต่อการทุจริตเชิงนโยบายดังกล่าว แบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่ เกณฑ์ชี้วัดความเสี่ยงต่อการทุจริตเชิงนโยบาย ในขั้นตอนการพัฒนานโยบาย กำหนดเป็นเกณฑ์ชี้วัดสำหรับการประเมิน 5 เกณฑ์ คือ 1.การแสดงความเชื่อมโยงกับแผนยุทธศาสตร์ชาติและแผนแม่บทตามยุทธศาสตร์ชาติ 2.การกำหนดวัตถุประสงค์ของนโยบาย 3.การประเมินความเสี่ยงต่อการทุจริตเชิงนโยบาย 4.มีกระบวนการวิเคราะห์ผลกระทบความคุ้มค่า ความเป็นไปได้ และความเสี่ยงของนโยบายด้วยการมีส่วนร่วมอย่างเป็นระบบ และ 5.การเสริมสร้างความโปร่งใสในการพัฒนานโยบายของพรรคการเมือง
ส่วนเกณฑ์ชี้วัดความเสี่ยงต่อการทุจริตเชิงนโยบายในขั้นตอนการนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติกำหนดเป็นเกณฑ์ชี้วัดสำหรับการประเมินได้ 4 เกณฑ์ คือ 1.มีการเตรียมการประเมินความเสี่ยงต่อการทุจริตในขั้นตอนการดำเนินการตามนโยบาย 2.มีการเตรียมการบริหารจัดการความเสี่ยงต่อการทุจริต และการติดตามการดำเนินการตามนโยบาย 3.มีการเตรียมการประเมินผลการบริหารัดการความเสี่ยงต่อการทุจริต 4.มีการเตรียมการสร้างความโปร่งใสในขั้นการนำนโยบายสู่การปฏิบัติด้วยการสื่อสารการบริหารจัดการความเสี่ยงต่อการทุจริต และการสร้างการเฝ้าระวัง
“อย่างไรก็ตามปัจจัยสำคัญที่จะทำให้หลักเกณฑ์นี้ประสบความสำเร็จได้คือ เราจะต้องได้รับความร่วมมือจากองค์กรต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องและนำหลักเกณฑ์นี้ไปใช้ นอกจากนี้ยังรวมถึงการให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการเฝ้าระวัง มอนิเตอร์ความผิดปกติ โดยเฉพาะขั้นตอนการนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติ เรื่องเหล่านี้เป็นปัจจัยสำคัญในการเข้าไปแก้ไขปัญหาในอนาคตด้วย” เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/