กกพ.ถอยใช้เงินกองทุนพัฒนาไฟฟ้าสร้างตึก 100ล. หลัง สตง. ค้านขัดวัตถุประสงค์เบิกจ่ายไม่ได้
กกพ.ยอมถอยใช้เงินกองทุนพัฒนาไฟฟ้า ตั้งงบฯ สมทบค่าก่อสร้างอาคารสำนักงานวงเงิน 100 ล้าน หลังสตง.ค้านไม่เป็นตามวัตถุประสงค์จัดตั้ง-เบิกจ่ายไม่ได้ตามกม.
นายประจักษ์ บุญยัง ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 9 ม.ค.2562 ที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ได้ทำหนังสือถึงสตง. แจ้งให้รับทราบมติการขอยกเลิกการขอกันเงินกองทุนไว้เบิกเหลื่อมปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 ในรายการเงินสมทบโครงการก่อสร้างอาคารสำนักงาน กกพ. จำนวน 100 ล้านบาท ซึ่งถูกสตง.ตรวจสอบพบว่าเป็นการตั้งงบประมาณไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งกองทุนตามมาตรา 93 แล้ว
นายประจักษ์ กล่าวว่า เกี่ยวกับกรณีนี้ สตง.ได้ตรวจสอบประเมินผลการใช้จ่ายเงินและทรัพย์สินของกองทุนพัฒนาไฟฟ้า สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ประจำปี 2559 พบว่า คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้มีมติเห็นชอบงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 ของกองทุนเพื่อกิจการตามมาตรา 97 (6) แห่งพระราชบัญญัติการประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ. 2550 โดยมีรายการเงินสมทบโครงการก่อสร้างอาคารสำนักงาน กกพ. เพื่อรองรับการดำเนินงานของกองทุน จำนวน 100 ล้านบาท และได้อนุมัติกันเงินไว้เบิกเหลื่อมปี 2558 – 2559 นั้น
สตง. มีข้อสังเกตและความเห็นว่า กรณีดังกล่าวเป็นการตั้งงบประมาณไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งกองทุนตามมาตรา 93 ที่ต้องการให้เป็นทุนสนับสนุนการให้บริการไฟฟ้าไปยังท้องที่ต่าง ๆ หรือส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียน เป็นต้น และไม่อยู่ในข่ายที่สามารถเบิกจ่ายได้ตามมาตรา 97 (1) ถึง (6) แห่งพระราชบัญญัติประกอบกิจการพลังงานฯ เช่น การพัฒนาหรือฟื้นฟูท้องถิ่นที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินงานของโรงไฟฟ้า การส่งเสริมให้ประชาชนมีความรู้และมีส่วนร่วมทางด้านไฟฟ้า เป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารกองทุน
“งบประมาณดังกล่าวเป็นลักษณะการจ่ายเงินอุดหนุนสมทบให้หน่วยงานเพื่อจัดหาทรัพย์สิน แม้กองทุนจะได้รับประโยชน์จากการใช้อาคารสำนักงาน แต่ไม่อาจถือได้ว่าเป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารกองทุนตามมาตรา 97 (6) เนื่องจากผู้ได้รับประโยชน์อย่างแท้จริงคือ สำนักงาน กกพ. ดังนั้น การตั้งงบประมาณดังกล่าวจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย และเป็นการหาช่องทางเพื่อใช้จ่ายเงินของกองทุนเพื่อประโยชน์ของสำนักงาน กกพ. ซึ่งไม่มีกฎหมายอนุญาตให้กระทำได้ สตง. จึงมีหนังสือให้สำนักงาน กกพ. ทบทวนงบประมาณดังกล่าว” ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน กล่าว
นายประจักษ์ กล่าวต่อว่า ต่อมาสำนักงาน กกพ. ได้หารือประเด็นข้อสังเกตและความเห็นของ สตง. ดังกล่าวไปยังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ 12) ได้ประชุมเพื่อพิจารณาข้อกฎหมายดังกล่าว โดยมีผู้แทนจากสำนักงาน กกพ. และ สตง. เข้าร่วมชี้แจงข้อเท็จจริง ซึ่งผลการพิจารณาสรุปว่า การนำเงินกองทุนพัฒนาไฟฟ้าไปใช้เพื่อสมทบค่าก่อสร้างอาคารสำนักงาน กกพ. ไม่เข้าลักษณะการใช้จ่ายเงินตามวัตถุประสงค์ของกองทุนตามที่กำหนดในมาตรา 93 และไม่อาจถือได้ว่าเป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารกองทุนตามมาตรา 97 (6) ซึ่งสอดคล้องกับข้อสังเกตและความเห็นของ สตง.
ล่าสุดสำนักงาน กกพ. ได้มีหนังสือถึงผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2562 แจ้งว่าสำนักงาน กกพ. ได้นำเสนอ กกพ. เพื่อรับทราบความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาดังกล่าวแล้ว โดย กกพ. มีมติรับทราบผลการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา และเห็นชอบให้ยกเลิกการขอกันเงินกองทุนไว้เบิกเหลื่อมปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 ในรายการเงินสมทบโครงการก่อสร้างอาคารสำนักงาน กกพ. จำนวน 100 ล้านบาท (ปัจจุบันยังไม่มีการใช้จ่ายเงิน) และต่อมากรมบัญชีกลางได้แจ้งความเห็นในเรื่องดังกล่าวว่า สำนักงาน กกพ. ต้องถือปฏิบัติตามความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาข้างต้น
ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน กล่าวในตอนท้ายว่า การตรวจสอบกรณีดังกล่าวเป็นผลมาจากการตรวจสอบงบการเงินและประเมินผลการใช้จ่ายเงินและทรัพย์สินของกองทุนพัฒนาไฟฟ้า ซึ่งเป็นการตรวจสอบในเชิงวิเคราะห์ที่ถือเป็นกรณีศึกษาสำหรับหน่วยงานภาครัฐในการใช้จ่ายเงินให้เป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย ตลอดจนเป็นการรักษาวินัยการเงินการคลังของรัฐ
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/