มติคกก.วัตถุอันตราย ไม่เเบน 'พาราควอต' สั่งกรมวิชาการเกษตรหามาตรการทดเเทน-คาดเลิกถาวรใน 2 ปี
คกก.วัตถุอันตราย 16 เสียงข้างมาก ยืนยันมติเดิมไม่เเบน 'พาราควอต' สั่งกรมวิชาการเกษตรเข้มงวดมาตรการ เร่งพัฒนาสิ่งทดเเทน คาดภายใน 2 ปี เลิกใช้ถาวร เตรียมชี้เเจงผู้ตรวจการฯ ตามขั้นตอน
วันที่ 14 ก.พ. 2562 คณะกรรมการวัตถุอันตราย จัดประชุมครั้งที่ 34-2/2562 โดยมีวาระการพิจารณาทบทวนมติของคณะกรรมการวัตถุอันตรายเกี่ยวกับการควบคุมสารเคมีพาราควอต ณ สำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม
นายอภิจิณ โชติกเสถียร รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานในการประชุม เปิดเผยว่า ตามที่ผู้ตรวจการเเผ่นดินเสนอเเนะให้ห้ามใช้พาราควอตในวันที่ 1 ม.ค. 2563 เเละในระหว่างห้ามใช้พาราควอต ได้เสนอเเนะให้กรมวิชาการเกษตรมีมาตรการควบคุม กำกับดูเเล ให้การใช้สารอย่างถูกต้อง ปลอดภัย เพื่อป้องกัน ไม่ให้เกิดอันตรายกับเกษตรกร ประชาชน เเละสิ่งเเวดล้อม ซึ่งมาตรการเข้มงวดเหล่านี้ กรมวิชาการเกษตร ได้เสนอคณะกรรมการวัตถุอันตรายพิจารณาให้ความเห็นชอบ เเละให้กรมวิชาการเกษตรไปดำเนินการเเล้ว ตั้งเเต่ 30 ส.ค. 2561 โดยกต้องรายงานให้คณะกรรมการวัตถุอันตรายทราบผลการดำเนินการเพื่อทบทวนมาตรการเป็นระยะ
เมื่อผู้ตรวจการเเผ่นดินมีข้อเสนอเเนะ โดยเฉพาะกำหนดห้ามใช้ใน 1 ม.ค. 2563 คณะกรรมการวัตถุอันตรายได้พิจารณาข้อมูลที่กรมวิชาการเกษตรนำเสนอข้อมูลที่กระทรวงสาธารณสุขนำเสนอผู้ตรวจการเเผ่นดิน การพัฒนามาตรการทดเเทนที่กรมวิชาการเกษตรกำลังดำเนินการ ร่วมกับข้อมูลเเละความคิดเห็นของกลุ่มต่าง ๆ
คณะกรรมการวัตถุอันตราย ตระหนักเเละให้ความสำคัญถึงอันตรายต่อสุขภาพ รวมทั้งสิ่งเเวดล้อม ในการยกเลิกการใช้ จึงได้พิจารณาผลกระทบในมิติต่าง ๆ โดยเฉพาะการใช้มาตรการทดเเทน ซึ่งกรมวิชาการเกษตรให้ข้อมูลว่า ปัจจุบันยังไม่มีสารทดเเทนที่มีคุณสมบัติเทียบเท่าพาราควอต เเต่อาจใช้มาตรการหลาย ๆ ด้านร่วมด้วย ซึ่งปัจจุบันกรมวิชาการเกษตรอยู่ในระหว่างการพัฒนา ซึ่งยังต้องใช้ระยะเวลาระยะหนึ่ง
รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ระบุคณะกรรมการวัตถุอันตราย จึงเห็นว่ามาตรการเกี่ยวกับการจำกัดการใช้ที่กรมวิชาการเกษตรจะดำเนินการ เมื่อประกาศกระทรวงเกษตรเเละสหกรณ์เกี่ยวกับการจำกัดการใช้วัตถุอันตายทั้ง 5 ฉบับ มีผลบังคับใช้ จะต้องมีการทบทวนเป็นระยะ ๆ ทุก 3 เดือน ในขณะที่กำลังดำเนินการ เพื่อลดผลกระทบต่อภาคเกษตรกรรม จึงมีมติให้กรมวิชาการเกษตรดำเนินการมาตรการที่เข้มงวดเเละมีผลในการปฏิบัติอย่างจริงจัง เเละเร่งพัฒนามาตรการทดเเทนเพื่อเป็นทางออกให้เเก่เกษตรกร ทั้งนี้ ภายใน 2 ปี หากมีสารทดเเทนหรือวิธีการทดเเทนอื่น เเละอาจยกเลิกเร็วกว่านั้นก็ได้
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการวัตถุอันตรายมีมติเห็นด้วยกับมติเดิม 16 เสียง เห็นด้วยกับข้อเสนอของผู้ตรวจการเเผ่นดิน 5 เสียง เเละงดออกเสียง 5 เสียง เเละไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อผู้ลงมติได้ เนื่องจากคณะกรรมการวัตถุอันตรายกังวลจะได้รับผลกระทบ เเละหลังจากนี้จะชี้เเจงผู้ตรวจการเเผ่นดินตามขั้นตอนต่อไป
อนึ่ง ก่อนหน้าที่จะมีการประชุมของคณะกรรมการวัตถุอันตราย เครือข่ายสนับสนุนการแบนสารพิษที่มีอันตรายร้ายแรง ซึ่งเป็นเครือข่ายภาคประชาชน 686 องค์กร ได้ปราศรัยรอฟังคำตอบเเละยื่นหนังสือเรียกร้องไปยังคณะกรรมการวัตถุอันตรายดำเนินการ ณ สำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ดังต่อไปนี้
1.พิจารณาควบคุมพาราควอตเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 ภายในเดือนธันวาคม 2562 ตามมติและข้อเสนอของ 1) กระทรวงสาธารณสุข และคณะกรรมการขับเคลื่อนปัญหาสารเคมีกำจัดศัตรูพืชที่มีความเสี่ยงสูง 2) สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ 3) คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านสาธารณสุข 4) คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 5) ผู้ตรวจการแผ่นดิน 6) คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ 7) สภาเกษตรกรแห่งชาติ 8) สภาเภสัชกรรม 9) แพทยสภา 10) เครือข่าวประชาคมวิชาการ 11) เครือข่ายนักธุรกิจเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม 12) องค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) 13) เครือข่ายสนับสนุนการแบนสารพิษที่มีอันตรายร้ายแรง 686 องค์กร
2.ให้กรรมการวัตถุอันตรายที่ลงมติทั้งหมดต้องแสดงตัวว่าไม่มีส่วนได้เสียเกี่ยวข้องกับสารเคมีจำกัดศัตรูพืช ได้รับค่าตอบแทนหรือผลประโยชน์ในรูปอื่นใดจากบริษัทหรือสมาคมของบริษัทสารเคมีจำกัดศัตรูพืช โดยกรรมการผู้ที่มีส่วนได้เสียต้องถอนตัวจากการลงมติดังกล่าว
3.การลงมติต้องเป็นไปอย่างเปิดเผย โดยต้องบันทึกผลการลงมติของกรรมการแต่ละคมว่าผู้ใดลงมติให้มีการควบคุมพาราควอตเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 และผู้ใดลงมติให้เป็นอย่างอื่น รวมทั้งระยะเวลาการประกาศนั้นว่าประสงค์ให้มีผลบังคับใช้เมื่อใด เพื่อให้สามารถตรวจสอบได้ว่ากรรมการแต่ละคนได้ลงมติให้เป็นไปตามคำวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดิน ซึ่งกำหนดให้มีผลภายใน 1 ปีหรือไม่
กลุ่มสนับสนุนให้มีการยกเลิกนำเข้าเเละใช้สารเคมีพาราควอต
ผู้ได้รับผลกระทบจากการใช้สารเคมีอันตราย
ขณะเดียวกัน ได้มีกลุ่มคัดค้านการยกเลิกนำเข้าเเละใช้สารเคมีพาราควอตต่อไป รวมตัวกันที่โถงชั้น 1 สำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมอีกด้วย
กลุ่มคัดค้านการยกเลิกนำเข้าเเละใช้สารเคมีพาราควอต