ทษช.ยื่นศาล รธน.ขอสำเนาคำร้อง กกต. ปมยุบพรรค-ชี้เร่งรัด ไม่เปิดให้แก้ข้อกล่าวหา
ฝ่ายกฎหมาย ทษช. ยื่นศาล รธน. ขอคัดสำเนาคำร้อง กกต. ปมถูกยื่นให้วินิจฉัยยุบพรรค ชี้ที่ผ่านมา กกต. ปฏิบัติข้ามคำตอนกฎหมาย เร่งรัดไม่ยอมเปิดโอกาสให้ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาก่อน เผยใช้ความบริสุทธิ์-จริงใจเข้าสู้ ลั่นทำแบบนี้กลายเป็นการประหารชีวิตก่อนเลือกตั้ง เหมือนถูกล้างผลาญ ทำไมต้องเอาออกจากสนามก่อนเลือกตั้ง 24 มี.ค. 62
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อช่วงเย็น วันที่ 13 ก.พ. 2562 นายสุรชัย ชินชัย คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ทำหนังสือถึงศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญส่งนำเนาคำร้องให้ผู้ถูกร้อง
เอกสารของ ทษช. ที่นายสุรชัยเป็นผู้ร้อง ระบุว่า จากกรณีเมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. ปรากฎข่าวจากสื่อมวลชนว่า เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เพื่อให้มีคำสั่งยุบพรรค ทษช. ตามมาตรา 92 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 โดยศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยว่าจะรับคำร้องดังกล่าวหรือไม่ ในวันที่ 14 ก.พ. 2562 นั้น
พรรค ทษช. ในฐานะผู้ถูกกล่าวหา ขอกราบเรียนต่อศาลรัฐธรรมนูญว่า ด้วยในชั้นของ กกต. มิได้ปฏิบัติให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ กกต. กำหนดตาม พ.ร.บ.พรรคการเมืองฯ มาตรา 93 เพราะยังไม่ได้กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการไต่สวน ตามมาตรา 92 และ กกต. มิได้ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ. 2560 ในหมวดที่ 2 ว่าด้วยการสืบสวน ไต่สวน และการดำเนินคดีที่ กกต. หรือเจ้าหน้าที่ หรือเจ้าพนักงานต้องให้โอกาส ทษช. รับทราบข้อกล่าวหา ข้อเท็จจริง และพยานหลักฐานเพื่อให้สิทธิผู้ถูกกล่าวหาให้ถ้อยคำ หรือแสดงพยานหลักฐานในเวลาที่ กกต. หรือเจ้าพนักงานกำหนด รวมทั้งมีสิทธิที่จะให้ทนายความ หรือบุคคลที่ไว้ใจเข้ารับฟังการไต่สวนได้ ซึ่งเป็นสิทธิพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญและกฎหมาย การดำเนินการของ กกต. ในฐานะเจ้าหน้าที่ของรัฐ และหน่วยงานของรัฐ ในการรวบรวมข้อเท็จจริง และพยานหลักฐาน จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ประกอบกับ กกต. ในการพิจารณาและมีมติในการกล่าวหา ทษช. และนำไปสู่การยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญขอให้ยุบพรรค ถือว่ากระทำในฐานะหน่วยงานของรัฐในทางปกครอง อันมีผลกระทบต่อสถานภาพของสิทธิและหน้าที่ของ ทษช. กกต. จำเป็นต้องเปิดโอกาสให้ ทษช. ในฐานะคู่กรณีได้โต้แย้ง คัดค้าน และแสดงหลักฐานภายในเวลาอันสมควร
แต่ปรากฎว่า กกต. ในการมีมติและยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ได้ปฏิบัติให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.กกต. และวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองในการเปิดโอกาสให้ ทษช. มีโอกาสได้โต้แย้ง แสดงหลักฐาน เป็นเหตุให้ ทษช. ผู้ถูกกล่าวหาไม่มีโอกาสได้แก้ข้อกล่าวหา และชี้แจงแสดงพยานหลักฐานทั้งข้อเท็จจริง และข้อกฎหมาย อันเป็นการกระทบต่อสถานภาพสิทธิของ ทษช. ในฐานะผู้ถูกกล่าวหา
ด้วยเหตุดังกล่าว หากเป็นจริงตามที่ปรากฎเป็นข่าวว่า กกต. ได้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้พิจารณาวินิจฉัยยุบพรรค และหากศาลรัฐธรรมนูญสั่งรับคำร้องของ กกต. ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญได้โปรดส่งสำเนาคำร้องให้แก่ ทษช. เพื่อให้ได้มีโอกาสได้โต้แย้ง ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา ทั้งข้อเท็จจริง และข้อกฎหมาย รวมทั้งแสดงพยานเอกสาร บุคคล และพยานวัตถุ เพื่อประกอบการพิจารณา และวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ (ดูเอกสารประกอบ)
ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. วันเดียวกัน นายสุรชัยพร้อมด้วยคณะทำงาน เดินทางมาที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อขอให้ กกต. ปฏิบัติตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญและหลักนิติธรรม โดยนายสุรชัย กล่าวว่า จากกระแสข่าว กกต. เตรียมส่งคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรค ทษช. นั้น ตามบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญบทที่ 1 ยืนยันในเรื่องสิทธิเสรีภาพที่ประชาชนได้รับความคุ้มครอง ดังนั้นองค์กรอิสระต้องยึดถือ กรณีนี้ยืนยันว่า ทษช. จัดตั้งขึ้นมาตามรัฐธรรมนูญ ดังนั้นการที่ กกต. เร่งรัดส่งเรื่องโดยให้นายทะเบียนของพรรครวบรวมพยานหลักฐานเพียงฝ่ายเดียว ตามมาตรา 93 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 ขณะที่ ทษช. ยังไม่มีโอกาสต่อสู้ หรือแสดงหลักฐานอะไรเลยตามหลักนิติธรรม และความยุติธรรม ทั้งที่ต้องฟังผู้ถูกกล่าวหาก่อน เนื่องจากการถูกยุบพรรค ไม่ต่างอะไรกับถูกประหารชีวิตทางการเมือง กกต. ควรรับฟังทุกฝ่าย เพราะฝ่ายผู้ถูกกล่าวหามีสิทธิได้รับความคุ้มครอง
เมื่อถามว่า ได้ยื่นพยานหลักฐานอะไรเพิ่มเติม และจะส่งใครมาให้ถ้อยคำเพิ่มเติมหรือไม่ นายสุรชัย กล่าวว่า ได้รับมอบอำนาจจากคณะกรรมการบริหารพรรคให้มาดำเนินการยื่นคำร้อง และพยานหลักฐาน ส่วนจะส่งใครมาเป็นพยานต้องรอให้ฝ่ายกฎหมายวิเคราะห์กันก่อน
เมื่อถามว่า จะใช้อะไรต่อสู้ นายสุรชัย กล่าวว่า มีความบริสุทธิ์ใจ และเจตนาดี มีความจริงใจ เพราะพรรคปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ และกฎหมายทุกอย่าง อย่างไรก็ดีสุดแท้แต่การใช้อำนาจของ กกต.
“แต่เรื่องนี้กลับกลายเป็นการประหารชีวิตก่อนเลือกตั้ง ล้างผลาญชีวิตเรา ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งในวันที่ 24 มี.ค. 2562 ทั้งที่สมาชิกพรรคทั่วประเทศ และประชาชนยังรอลงคะแนนการเลือกตั้ง เหตุไฉนการเอาเราออกจากสนามไปประหารชีวิต” นายสุรชัย กล่าว
ทั้งนี้หนังสือคำร้องของ ทษช. ถึงประธาน กกต. ระบุว่า ทษช. และสมาชิกพรรคเห็นว่า กรณีที่ กกต. จะได้ดำเนินการพิจารณาและมีมติส่งศาลรัฐธรรมนูญยุบ ทษช. ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 92 โดยอ้างว่า กกต. มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า ทษช. มีการกระทำผิดกฎหมายดังกล่าว เห็นว่า การใช้อำนาจของ กกต. ต้องเป็นไปตามหลักนิติธรรม ตามที่รัฐธรรมนูญมาตรา 3 บัญญัติ และการยุบพรรคเป็นการกระทบต่อสิทธิของพรรค และสมาชิกพรรคที่รัฐธรรมนูญคุ้มครอง ตามที่มาตรา 4 บัญญัติ อันเป็นการละเมิดสิทธิของพรรคและสมาชิกพรรค การใช้อำนาจของ กกต. ดังกล่าวต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ และวิธีการที่คณะกรรมการกำหนด ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 93
ในเมื่อ กกต. ยังไม่ได้ดำเนินการมีมติกำหนดหลักเกณฑ์ และวิธีการในการไต่สวน สอบสวน พิจารณา ชี้ขาดกรณีการกระทำผิดของพรรคการเมือง มาตรา 92 ไว้ตามที่กฎหมายกำหนด ดังนั้นการดำเนินการใด ๆ ของ กกต. จึงไม่อาจชอบด้วยกฎหมาย เพราะนายทะเบียนพรรคการเมือง และ กกต. จะรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน โดยฟังความฝ่ายเดียวโดยไม่ให้โอกาสพรรคผู้ถูกกล่าวหาชี้แจง แสดงพยานหลักฐานไม่ได้ เพราะขัดต่อหลักนิติธรรม และหลักกฎหมายกำหนด
ทั้งนี้การที่ กกต. กำหนดระเบียบ กกต. ว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ.2561 ไว้ และเมื่อ กกต. ใช้อำนาจตามมาตรา 93 ให้นายทะเบียนรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานพร้อมทั้งเสนอความเห็นของ กกต. เพื่อพิจารณา จึงก่อให้เกิดสิทธิและหน้าที่ของผู้ถูกกล่าวหา ดังนั้นเพื่อให้การพิจารณาคดีของ กกต. เป็นไปตามหลักนิติรัฐและหลักนิติธรรม ประกอบกับบทบัญญัติรัฐธรรมนูญยังให้ความคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพแก่ ทษช. ได้มีโอกาสอันพึงมีในฐานะผู้ถูกกล่าวหา ดังนี้
1.ต้องให้โอกาส ทษช. ผู้ถูกกล่าวหาทราบข้อกล่าวหา ข้อเท็จจริง และพยานหลักฐานโดยสรุป ตามความมาตรา 43 วรรคแรก แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ.2560
2.ผู้ถูกกล่าวหามีสิทธิที่จะให้ถ้อยคำหรือแสดงพยานหลักฐานภายในระยะเวลาที่ กกต. หรือเจ้าพนักงานกำหนด และมีสิทธิที่จะให้ทนายความหรือบุคคลซึ่งไว้วางใจเข้าฟังการไต่สวนได้ ตามมาตรา 43 วรรคสอง แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ.2560
เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม และเป็นไปตามหลักฟังความทุกฝ่าย ซึ่งเป็นหลักยุติธรรมพื้นฐานของกระบวนการยุติธรรม คือ การเปิดโอกาสให้คู่กรณีได้โต้แย้งคัดค้าน และแสดงพยานหลักฐานภายในระยะเวลาอันสมควร จึงขอท่านได้ให้โอกาสแก่ ทษช. ตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ และหลักนิติธรรมด้วย ทั้งนี้จะยังประโยชน์สูงสุดแก่ปวงชนชาวไทย ที่จะได้ใช้สิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานอย่างเสมอกัน ในการออกเสียงคะแนนเลือกตั้ง วันที่ 24 มี.ค. 2562 ต่อไป (ดูเอกสารประกอบ)
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/
อ่านประกอบ :
สะพัด! ส่งศาล รธน.วินิจฉัยยุบ ทษช.-กกต.ยันยังพิจารณาไม่เสร็จ
กกต.ตั้ง กก.สอบปม ทษช.เสนอแคนดิเดตนายกฯ-เชิญคนนอกร่วม เหตุเป็นเรื่องละเอียดอ่อน
กกต.ประกาศ69แคนดิเดตนายกฯ ไม่มีพระนาม'ทูลกระหม่อมฯ'เหตุทรงอยู่เหนือการเมือง-ขัด รธน.
ตอนเขียน กม.ไม่มีใครรู้! ‘เรืองไกร’ พร้อมสู้ ทษช.ถูกร้องยุบ-ยื่น‘บิ๊กตู่ ’ขัดคุณสมบัติ
ไทยรักษาชาติโพสต์ยันจุดยืนเดิม เดินหน้าต่อในสนามเลือกตั้ง-ขอบคุณทุกกำลังใจ
ทษช.น้อมรับพระราชโองการสถาบันพระมหากษัตริย์ตามรธน.ด้วยความจงรักภักดี ร.10 -พระราชวงศ์
พระราชโองการฯพระบรมราชวงศ์ทุกพระองค์ทรงอยู่เหนือการเมือง-นำเกี่ยวข้องขัดราชประเพณี- รธน.
ทษช. เสนอพระนาม 'ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ' บัญชีรายชื่อนายกฯ-บิ๊กตู่ตอบรับ พปชร.
ฟังเหตุผล หัวหน้า ทษช. เสนอพระนาม 'ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ' เป็นนายกฯ
ราชกิจจาฯปี 2515 ประกาศ ลาออกจากฐานันดรศักดิ์ เจ้าฟ้าอุบลรัตนราชกัลยา
รวมคำราชาศัพท์ที่ใช้กับพระอิสริยยศ ‘ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ’