'แก้วสรร' ออกบทความ คำสารภาพสีแดง? เปิดบทสรุปทางกฎหมายยุบพรรค'ทษช.' ได้หรือไม่
“...ประชาชนต้องให้โอกาสพระองค์ท่านที่เสียสละ..ฝ่ายที่มอง ดร.ทักษิณ ชินวัตรเป็นปฏิปักษ์อย่างแรงกล้าจะไม่สามารถเอาเรื่องของราชวงศ์หรือสถาบันมาอ้างได้อีกแล้ว..นี่คือการเล่นไพ่หรือยุทธวิธีในการทำอย่างไรให้ฝ่ายประชาธิปไตยชนะ..ขณะนี้แคนดิเดตนายกฯ กลายเป็น พลเอกประยุทธ์กับทูลกระหม่อม...การเอาชนะทางเลือกตั้งไม่พอ ต่อให้มี สส. 250 ก็ถูกจัดการได้โดย 250 สว.โดยกลไกรัฐ .. ตรงนี้ทำให้ปฏิบัติการ ทษช.ครั้งนี้เป็นกลยุทธ์ที่เรียกว่ายิ่งกว่าเหยียบเมฆ โอกาสที่ทูลกระหม่อมฯจะเป็น นายกฯ ประเทศไทยนั้นมีสูงมาก..."
เมื่อวันที่ 10 ก.พ.2562 นายแก้วสรร อติโพธิ เผยแพร่บทความเรื่อง "คำสารภาพสีแดง ?" ผ่านไทยโพสต์ออนไลน์ โดยมีเนื้อหาดังนี้
ถาม ในทางกฎหมายแล้ว กรณีบันทึกพรรคไทยรักษาชาติที่เสนอต่อ กกต.ขอเสนอชื่อทูลกระหม่อมเป็น นายกฯรัฐมนตรี จะมีทางลงเอยทางกฎหมายอย่างไรบ้าง
ตอบ ข้อแรกก็อยู่ที่ กกต.ว่า ตรวจสอบคุณสมบัติทูลกระหม่อมแล้ว จะยอมรับชื่อนี้อยู่ในบัญชีว่าที่นายกฯของพรรค ทษช.ได้หรือไม่ หรือจะปฏิเสธไม่รับชื่อนี้เพราะเห็นตรงกับพระบรมราชโองการว่าขัดรัฐธรรมนูญ
ถาม ข้อที่สองที่ต้องวินิจฉัยคือ ข้อกล่าวหาของคุณไพบูลย์ นิติตะวัน ที่ว่าการเสนอชื่อนี้ผิดระเบียบการหาเสียงของ กกต.ที่ห้ามหาเสียงโดยใช้สถาบันพระมหากษัตริย์ นั้น ข้อกล่าวหานี้เป็นผิดจริงหรือไม่
ตอบ ตรงจุดนี้ทาง ทษช.ยังเถียงได้ว่า “การเสนอชื่อ” กับ “การหาเสียง”นั้นเป็นคนละเรื่องกัน การใช้คำว่า “ทูลกระหม่อม” ที่ปรากฏในบันทึกนั้นก็เป็น “ชื่อ”ที่จำต้องเขียนให้ตรงความเป็นจริง เขียนเพื่อเสนอต่อ กกต. หาใช่มุ่งหาเสียงเสนอต่อสาธารณะคิดจะใช้สถาบันแต่อย่างใดไม่
ถาม แล้วข้อที่สาม ที่มีผู้เรียกร้องกันระงมให้ยุบพรรคเสียเลยนั่นล่ะครับ ข้อนี้ทำได้ตามกฎหมายหรือ
ตอบ ผมดูแล้วมีสองเหตุที่ต้องพิจารณาครับ ข้อแรกคือปัญหาว่ามีการกระทำที่เข้าข่ายเป็นการแสวงหาอำนาจโดยผิดครรลองรัฐธรรมนูญหรือไม่
ถาม ถ้าทูลกระหม่อมมีคุณสมบัติและประสบการณ์เหมาะสม ตรงสเป็คจริงๆ และท่านก็ห่วงบ้านเมืองเห็นด้วยกับนโยบายพรรคจริงๆ แล้วทำไมจะทูลเชิญท่านไม่ได้ มันผิดที่ตรงไหน
ตอบ ข้อเท็จจริงมันเป็นยังงั้นจริงหรือไม่ล่ะครับ คุณลองอ่านเฟสบุ๊กของ ที่ปรึกษา นปช.คุณธิดา ถาวรเศรษฐ ต่อไปนี้ดูสิครับว่า เป็น “คำสารภาพสีแดง” หรือไม่?
“ประชาชนต้องให้โอกาสพระองค์ท่านที่เสียสละ..ฝ่ายที่มอง ดร.ทักษิณ ชินวัตรเป็นปฏิปักษ์อย่างแรงกล้าจะไม่สามารถเอาเรื่องของราชวงศ์หรือสถาบันมาอ้างได้อีกแล้ว..นี่คือการเล่นไพ่หรือยุทธวิธีในการทำอย่างไรให้ฝ่ายประชาธิปไตยชนะ..ขณะนี้แคนดิเดตนายกฯ กลายเป็น พลเอกประยุทธ์กับทูลกระหม่อม...การเอาชนะทางเลือกตั้งไม่พอ ต่อให้มี สส. 250 ก็ถูกจัดการได้โดย 250 สว.โดยกลไกรัฐ .. ตรงนี้ทำให้ปฏิบัติการ ทษช.ครั้งนี้เป็นกลยุทธ์ที่เรียกว่ายิ่งกว่าเหยียบเมฆ โอกาสที่ทูลกระหม่อมฯจะเป็น นายกฯ ประเทศไทยนั้นมีสูงมาก"
นี่คือ “สภาวะใหม่ทางการเมืองไทย” ที่ฝ่ายถูกกระทำทางการเมืองมีกลยุทธ์ สามารถที่จะจัดการอาวุธสำคัญของฝ่ายอนุรักษ์นิยมทำให้อาวุธนั้นใช้ไม่ได้ คือ “โหนสถาบัน” อยู่ตลอดเวลาอีกไม่ได้สุดท้ายไม่ว่าใครจะอยู่ชนชั้นไหน ไพร่ก็ล้าหลังได้ เจ้าก็ก้าวหน้าได้ คนที่กบฏต่อชนชั้นของตนเองก็มีนะคะ ”
ทั้งหมดนี้ คุณอ่านดูแล้ว..คุณว่าถ้าคิดอย่างนี้จริงๆ เราจะยอมรับว่าเป็นการใช้เสรีภาพทางการเมืองตามวิถีทางรัฐธรรมนูญหรือไม่
ถาม ผมดูเป็นการใช้สถาบัน ใช้นามสกุลท่านมาเป็นกลยุทธ์การเมืองมากกว่า แล้วผิดหรือครับ
ตอบ ถ้าเป็นนามสกุลชินวัตรของน้องสาวที่ชื่อยิ่งลักษณ์เช่นที่เคยทำมาแล้ว หรือจะใช้นามสกุลใหญ่โตที่ไหนก็แล้วแต่ เชิญคุณทำได้ตามสบาย แต่นี่เป็นการใช้บารมีสถาบันพระมหากษัตริย์ชัดๆ ตรงนี้แหละครับที่มันผิด ที่อาจเอื้อมเอาบารมีสถาบันมาใช้เพื่อแสวงอำนาจโดยผิดครรลอง กฎหมายพรรคการเมืองมาตรา 92 ระบุไว้ชัดเจนว่า
เมื่อคณะกรรมการมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรคการเมืองใดกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ ให้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสั่งยุบพรรคการเมืองนั้น
(1) กระทำการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขหรือเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ
(2) กระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
(3) กระทำการฝ่าฝืนมาตรา 20 วรรคสอง มาตรา 28 มาตรา 30 มาตรา 36 มาตรา 44 มาตรา 45 มาตรา 46 มาตรา 72 หรือมาตรา 74
(4) มีเหตุอันจะต้องยุบพรรคการเมืองตามที่มีกฎหมายกำหนด
เมื่อศาลรัฐธรรมนูญดำเนินการไต่สวนแล้ว มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรคการเมืองกระทำการตามวรรคหนึ่ง ให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคการเมือง และเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองนั้น
ถาม กกต.ก็ต้องตรวจสอบกันต่อไป
ตอบ ต้องสอบให้เขาอธิบายว่า ได้คิดกันมีมติกันได้อย่างไร ให้ผู้ใหญ่คนไหนไปเจรจาไปทูลเชิญ ใครคือผู้ใหญ่คนนั้น
ถาม ถ้าตอบว่าคือ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นคนไปคุย แล้วสั่งลงมาให้ไปทูลเชิญล่ะครับ
ตอบ ก็ปรากฏเป็นเหตุยุบพรรคอีกข้อหนึ่ง คือเป็นพรรคที่ตกอยู่ใต้บงการของคนนอก เป็นเหตุยุบพรรคได้ตาม ม.92 (3) ครับ
ถาม กกต.จะกล้าเดินไปให้สุดกระแสหรือไม่ครับ
ตอบ คุณไม่มีทางเลือก...มันเป็นหน้าที่ตามกฎหมายที่ต้องทำและทำให้ชัดเจนด้วยว่า ไม่ได้ทำตามบัญชาใครทั้งสิ้น
ที่มา : https://www.thaipost.net/main/detail/28753