ซุ่มยิง นปพ. - จ่ากองร้อย อส. - ทำแผนแก๊งฆ่าตำรวจ
สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ 62 ยังคงมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นต่อเนื่อง ทั้งซุ่มยิงตำรวจ และจ่ากองร้อยอาสารักษาดินแดน
เวลา 21.55 น. วันจันทร์ที่ 4 ก.พ.62 ร.ต.ท.พลวัชร คำแย้ม รองสารวัตรสอบสวน สภ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส รับแจ้งเหตุคนร้ายซุ่มยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษนราธิวาส 33 (นปพ.33) บริเวณปากทางเข้าฐานปฏิบัติการ ซึ่งตั้งอยู่ที่บ้านกวาลอซีรา หมู่ 7 ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโก-ลก หลังรับแจ้งจึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ล้มตะแคงบริเวณถนนปากทางเข้าฐาน นปพ. มีกองเลือดกองใหญ่ ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ เพื่อนตำรวจนำตัวส่งโรงพยาบาลสุไหงโก-ลกแล้ว ทราบชื่อคือ ส.ต.อ.มูฮัมหมัดฟัยซอล มะยาโก๊ะ อายุ 29 ปี ผู้บังคับหมู่ นปพ.33 ถูกยิงเข้าที่ต้นขาซ้าย อาการสาหัส แพทย์ต้องผ่าตัดเป็นการด่วน
สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ส.ต.อ.มูฮัมหมัดฟัยซอล ได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านในตลาดเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก เพื่อไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ฐานปฏิบัติการ ก่อนเข้าเวรรักษาความปลอดภัยที่ฐาน นปพ. แต่ก่อนถึงฐานได้ถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวนซึ่งแฝงตัวอยู่ในมุมมืด ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิงใส่ กระสุนเจาะเข้าที่ขา ส.ต.อ.มูฮัมหมัดฟัยซอล จนได้รับบาดเจ็บ รถจักรยานยนต์ล้มคว่ำ หลังก่อเหตุคนร้ายได้อาศัยความมืดหลบหนีไป ส่วนคนร้ายอีก 1 ชุดได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปโปรยตะปูเรือใบบนถนนห่างจากปากทางเข้าฐาน นปพ.ประมาณ 30 เมตร ทำให้รถยนต์ของประชาชนที่วิ่งสัญจรไปมาได้รับความเสียหายหลายคัน
เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
ชาวบ้านโดนด้วยดับ 1 ผู้ว่าฯจ่ายเยียวยา
เหตุการณ์ซุ่มยิงตำรวจที่เกิดขึ้นใน อ.สุไหงโก-ลก ปรากฏว่ามีชาวบ้านโดนลูกหลงขณะขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาพอดี ทำให้เสียชีวิต 1 ราย คือ นายมูหัดมะห์ฟาอีส เจะโกะ ครอบครัวได้ทำพิธีฝังที่กุโบร์บ้านทอนนาอีม หมู่ 12 ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส
โอกาสนี้ นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ได้เข้าเยี่ยมครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมมอบเงินเยียวยาให้แก่ทายาทของผู้ตายตามหลักเกณฑ์ เป็นเงิน 500,000 บาท และมอบเงินช่วยเหลือเยียวยาฯให้แก่ ส.ต.อ.มูฮำมัดฟัยซอล ที่ได้รับบาดเจ็บด้วย
ยิงดับจ่ากองร้อย อส.ระแงะ
ต่อมาช่วงเย็นวันอังคารที่ 5 ก.พ. คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดซุ่มยิง นายอำมาตย์ มะรง อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 122/1 หมู่ 3 ต.เฉลิม อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ตำแหน่งเป็นเจ้าหน้าที่ปกครอง อ.ระแงะ ปฏิบัติหน้าที่จ่ากองร้อยอาสารักษาดินแดน ทำให้นายอำมาตย์ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดบริเวณหลังบ้านของนายอำมาตย์เอง ห่่างไปประมาณ 100 เมตร
หลังเกิดเหตุ ชาวบ้านได้นำ นายอำมาตย์ ส่งโรงพยาบาลระแงะ จากนั้นแพทย์ได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เมือง จ.นราธิวาส เนื่องจากอาการสาหัส แพทย์ต้องนำตัวเข้าห้องผ่าตัด และให้พักฟื้นให้ห้องไอซียู ก่อนที่นายอำมาตย์จะเสียชีวิตในเวลาต่อมา ญาติได้รับศพไปประกอบพิธีทางศาสนาที่มัสยิดบ้านซีโป หมู่ 3 ต.เฉลิม และฝังศพที่กุโบร์บ้านซีโป โดยมีข้าราชการระดับสูงในจังหวัด ผู้นำศาสนา และชาวบ้านนับร้อยคนไปร่วมพิธี บรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้า
ช่วงสายวันพุธที่ 6 ก.พ. ตำรวจ สภ.ระแงะ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส ได้นำกำลังไปตรวจที่เกิดเหตุ พบจุดเกิดเหตุเป็นทางธรรมชาติเล็กๆ ที่สามารถเข้าด้านหลังบ้านของนายอำมาตย์ได้ มีหัวกระสุนปืนพกขนาด 9 ม.ม. ตกอยู่ 1 หัว รวมทั้งพบปลอกกระสุนปืนพกขนาด 9 ม.ม.อีก 7 ปลอกตกอยู่ในพงหญ้ารกทึบริมทาง เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน เพื่อนำไปตรวจสอบว่าเชื่อมโยงกับคดีอื่นหรือไม่ เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการลอบสังหารว่ามาจากปัญหาขัดแย้งส่วนตัว หรือเป็นการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มก่อความไม่สงบ
คุมตัวทำแผนฯ ยิงตำรวจดับ 3 เมื่อ 12 ปีก่อน
วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ได้คุมตัว นายมูฮัมหมัดฆอซซาร์ฟี อาแด อายุ 39 ปี ไปที่หน้าป้อมยามสถานีตำรวจยุทธศาสตร์กะลาพอ หมู่ 1 ต.เตราะบอน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ทำแผนประกอบคำรับสารภาพในคดีคนรายใช้อาวุธปืนสงครามยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจบริเวณหน้าป้อมยามสถานีตำรวจยุทธศาสตร์กะลาพอ ทำให้เจ้าหน้าที่เสียชีวิต 3 นาย และคนร้ายได้เข้าไปในป้อมยาม แล้วชิงอาวุธปืนไปได้อีก 10 กระบอก เหตุเกิดเมื่อวันที่ 20 ก.ค.49 หรือกว่า 12 ปีมาแล้ว
สำหรับ นายมูฮัมหมัดฆอซซาร์ฟี ถูกจับกุมที่ร้านขายอุปกรณ์เลี้ยงนกในเขตเทศบาลเมืองตะลุบัน อ.สายบุรี หลังเจ้าหน้าที่ได้ผลตรวจดีเอ็นเอจองเจ้าตัว ตรงกับวัตถุพยานที่ยึดได้หลังเกิดเหตุคนร้ายบุกโจมตีสาถนีตำรวจยุทธศาสตร์เตราะบอน จึงคุมตัวเข้าสู่กระบวนการซักถามเมื่อวันที่ 28 ม.ค.ที่ผ่านมา กระทั่งเจ้าตัวให้การรับสารภาพว่า เข้าร่วมขบวนการก่อเหตุรุนแรงเมื่อปี 42 และทำหน้าที่ขับรถกระบะให้พรรคพวกในขบวนการไปก่อเหตุยิงถล่มสถานีตำรวจยุทธศาสตร์ฯ โดยได้ซัดทอดผู้ร่วมก่อเหตุ 7 คน และมี 2 คนเสียชีวิตไปแล้ว เพราะถูกตำรวจยิงตอบโต้ในเหตุการณ์เดียวกัน ขณะที่นายมูฮัมหมัดฆอซซาร์ฟีก็ได้รับบาดเจ็บจากการถูกยิงที่แขนด้วย
พ.อ.หาญพล เพชรม่วง ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 กล่าวว่า แม้คดีนี้จะผ่านมานานแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่ละความพยายามที่จะติดตามกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบมาดำเนินคดีให้ได้ โดยยึดมั่นในหลักการบังคับใช้กฎหมาย และแนวทางสันติวิธีด้วยความเที่ยงธรรม ตามหลักฐาน พยานบุคคล พยานแวดล้อม และหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์
------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 คุมตัวผู้ต้องหาร่วมก่อคดีโจมตีสถานีตำรวจยุทธศาสตร์ และสังหารตำรวจ 3 นายเมื่อปี 49 ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
2 ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส มอบเงินเยียวยาเหยื่อคนร้ายซุ่มยิงตำรวจที่ อ.สุไหงโก-ลก
3 จุดที่คนร้ายยิงจ่ากองร้อย อส.ระแงะ เสียชีวิต