ยังไม่คลุมรัฐวิสาหกิจ-ท้องถิ่น!เบื้องหลัง ป.ป.ช.ชง ครม.เข้ม ขรก.นำรถหลวงใช้ส่วนตัว
เบื้องหลัง! ป.ป.ช. ชง ครม. รอบ 2 เข้มงวดกวดขัน ขรก. นำรถหลวงไปใช้ส่วนตัว-เป็นรถประจำตำแหน่ง เหตุตอนแรกไม่ครอบคลุมรัฐวิสาหกิจ-องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น-องค์การมหาชน ลั่นต้องทำให้ทุกฝ่ายตระหนักถึงปัญหา หากเจอถือว่าผิดวินัยร้ายแรง
จากกรณีต้นเดือน ม.ค. 2562 ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ระบุว่า คณะรัฐมนตรีมีติรับทราบมาตรการตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เสนอเรื่องข้อสังเกตของคณะกรรมการ ป.ป.ช. เกี่ยวกับการนำรถยนต์ส่วนกลางไปใช้เสมือนเป็นรถประจำตำแหน่งว่า ข้าราชการผู้ใดที่มิได้ดำรงตำแหน่งที่มีรถประจำตำแหน่งจะนำรถยนต์ส่วนกลางไปใช้เสมือนรถประจำตำแหน่งมิได้ และผู้ใดกระทำการดังกล่าวให้ถือว่ามีความผิดวินัยร้ายแรง จึงขอเตือนข้าราชการไม่ให้กระทำความผิดดังกล่าว เพราะมีโทษถึงขั้นไล่ออก และให้ออกจากราชการนั้น (อ่านประกอบ : นายกฯ เตือนขรก.ไม่นำรถหลวงไปใช้ส่วนตัว ระบุ มีโทษวินัยร้ายแรงถึงขั้นไล่ออก)
เมื่อวันที่ 22 ม.ค. 2562 แหล่งข่าวจากสำนักงาน ป.ป.ช. เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ถึงกรณีนี้ว่า มาตรการดังกล่าวของคณะกรรมการ ป.ป.ช. เกี่ยวกับการนำรถยนต์ส่วนกลางไปใช้เสมือนรถประจำตำแหน่ง เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงปี 2559 ที่สำนักงาน ป.ป.ช. ได้รับเรื่องร้องเรียนกล่าวหาว่า ข้าราชการบางหน่วยงาน มิได้ดำรงตำแหน่งที่ราชการจัดรถประจำตำแหน่งให้ ได้นำรถยนต์ส่วนกลางไปใช้เสมือนเป็นรถประจำตำแหน่ง และเบิกจ่ายค่าน้ำมันเชื้อเพลิงจากราชการ คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วเห็นว่า การกระทำดังกล่าวก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงกับราชการมาก หลังจากนั้นจึงทำหนังสือส่งไปยังสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้รักษาการตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยรถราชการ เพื่อให้กำกับดูแล ตรวจสอบว่าข้าราชการผู้ใดกระทำการดังกล่าวให้ถือว่าเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง
แหล่งข่าว กล่าวอีกว่า ต่อมาช่วงกลางปี 2560 สำนักนายกรัฐมนตรี มีหนังสือตอบกลับมา ป.ป.ช. ว่า สำนักนายกรัฐมนตรีได้แจ้งเวียนซักซ้อมแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการนำรถราชการไปใช้ส่วนตัว รวมถึงไปใช้เสมือนรถประจำตำแหน่งแล้ว อย่างไรก็ดีเนื่องจากระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยรถราชการ พ.ศ. 2534 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ใช้บังคับแก่ส่วนราชการ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ แต่ไม่รวมถึงรัฐวิสาหกิจ หน่วยงานตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการส่วนท้องถิ่น หรือหน่วยงานอื่นที่มีกฎหมายบัญญัติให้มีฐานะเป็นราชการบริหารส่วนท้องถิ่น กรณีจึงอาจมีหน่วยงานเหล่านี้ มีกฎหมายเฉพาะเกี่ยวกับรถราชการกำหนดขึ้นใช้บังคับเอง ดังนั้นสำนักงาน ป.ป.ช. จึงอาจพิจารณาแจ้งข้อสังเกตไปยังหน่วยงานเหล่านั้นเพื่อทราบต่อไปด้วย
“เมื่อเกิดกรณีอย่างนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ประชุมพิจารณากันอีกครั้งช่วงปลายปี 2561 เห็นว่า กรณีการนำรถยนต์ส่วนกลางไปใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตัวของรัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และองค์การมหาชน มีระเบียบการใช้รถที่หลากหลาย และมีรายละเอียดแตกต่างกันไป เมื่อศึกษาเปรียบเทียบกับระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยรถราชการ พ.ศ. 2535 กับระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการใช้และรักษารถขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2548 พบว่า ระเบียบทั้ง 2 ฉบับ มีเนื้อหาคล้ายคลึงกันยกเว้นกำหนดบทลงโทษ ดังนั้นเพื่อให้หน่วยงานรัฐทุกแห่งตระหนักถึงปัญหาของการทำรถยนต์ส่วนกลางไปใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตน หรือเสมือนเป็นรถประจำตำแหน่ง คณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงทำหนังสือถึงคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง ให้สั่งการรัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และองค์การมหาชน ปฏิบัติตามข้อสังเกตของคณะกรรมการ ป.ป.ช. โดยเคร่งครัดต่อไป” แหล่งข่าว กล่าว
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/
อ่านประกอบ : สำนักนายกฯสั่งคุมเข้มนำ'รถส่วนกลาง' ใช้'ประจำตำแหน่ง'หลัง ป.ป.ช.จี้ฟันวินัยร้ายแรง