ร้อง ‘อิศรา’ ปมผู้ว่าฯสุโขทัยตั้งกก.สอบซ้ำซ้อน บิ๊กเทศบาลกงไกรลาศ หลัง ป.ป.ช.ชี้มูลผิด
ร้อง สำนักข่าวอิศรา ช่วยตรวจสอบ ปมผู้ว่าฯ สุโขทัย ตั้งคกก.สอบสวนตามผู้ริหารระดับสูงเทศบาลตำบลกงไกรลาศ ซ้ำซ้อน หลัง ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ได้รับเรื่องร้องเรียนขอให้ตรวจสอบกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดผู้บริหารระดับสูงรายหนึ่ง ของ เทศบาลตำบลกงไกรลาศ อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย และได้ส่งเรื่องให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยดำเนินการตามหน้าที่ส่งเรื่องไปยังอัยการสูงสุดดำเนินคดีอาญาแล้ว แต่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย ไม่ได้ดำเนินการตามมติ คณะกรรมการ ป.ป.ช แต่กลับมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการสอบสวนผู้บริหารท้องถิ่น รองผู้บริหารท้องถิ่น ประธานสภาท้องถิ่น รองประธานสภาท้องถิ่น สมาชิกสภาท้องถิ่น เลขานุการผู้บริหารท้องถิ่น และที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2554 แทน ตามหนังสือ ศาลากลางจังหวัดสุโขทัย ที่ สท 0023.4/900 ลงวันที่ 14 ธ.ค. 2561 (ดูเอกสาร)
ผู้ร้องเรียน ระบุอีกว่า "ป.ป.ช. มีผลการพิจารณาเรื่องดังกล่าวและได้แจ้งมายังผมที่ได้ทักท้วงเรื่องไป ตั้งแต่เดือน ส.ค. 2561 แต่จนถึงปัจจุบันทางจังหวัดสุโขทัยยังไม่ได้ดำเนินการลงโทษตามผลการพิจารณาของ คณะกรรมการ ป.ป.ช. กลับมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนขึ้นมาอีก ตามหนังสือ ที่ สท 0023.4/900 ลงวันที่ 14 ธ.ค. 2561 ข้างต้น ซึ่งผมได้รับการชี้แจงจากเจ้าหน้าที่นิติกรรายหนึ่งของที่ว่าการจังหวัดสุโขทัย ว่า การสอบสวนของจังหวัดสุโขทัย มีกรอบระยะเวลา 4 เดือน และผู้ถูกกล่าวหาสามารถอุทธรณ์ได้ 2 ครั้ง ครั้งละ 1 เดือน ทำให้กรอบระยะเวลาการสอบสวนอยู่ที่ 6 เดือน ซึ่งผมเห็นว่า เป็นการประวิงเวลา อีกทั้ง คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติชี้มูลความผิดแล้ว เหตุใดจึงตั้งคณะกรรมการสอบสวนซ้ำซ้อนขึ้นมาอีก"
สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า สำหรับผลการพิจารณากรณีนี้ ปรากฏใน หนังสือ สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดสุโขทัย ที่ ปช 0034(สท)/0605 ลงวันที่ 6 ส.ค. 2561 เรื่อง แจ้งผลการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ความว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า การกระทำของ ผู้บริหารระดับสูงเทศบาลตำบลกงไกรลาศรายดังกล่าว มีมูลการปฏิบัติการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชน ละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ หรือมีความประพฤติในทางจะนำมาซึ่งความเสื่อมเสียแก่ศักดิ์ตำแหน่ง หรือแก่เทศบาล หรือแก่ราชการ ตาม พ.ร.บ. เทศบาล พ.ศ. 2496 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 73 และมีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใดๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาล หรือเจ้าของทรัพย์นั้น ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือลพเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีห้าที่ทำเอกสาร รับเอกสาร หรือกรอกข้อความลงในเอกสาร รับรองเป็นหลักฐานว่าตนได้กระทำการอย่างใดขึ้น หรือว่าการอย่างใดได้กระทำต่อหน้าตนอันเป็นความเท็จ และรับรองเป็นหลักฐานซึ่งข้อเท็จจริงอันเอกสารนั้นมุ่งพิสูจน์ความจริงอันเป็นความเท็จ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 มาตรา 157 และมาตรา 162 (1) (4) โดยได้ส่งรายงาน ไปยังผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอนเพื่อดำเนินการตามหน้าที่ และไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาแล้ว และให้แจ้งผลการพิจารณาให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งทราบด้วย (ดูเอกสาร)
ขณะที่ เจ้าหน้าที่ สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดสุโขทัย เปิดเผยกับสำนักข่าวอิศราว่า เรื่องคดีดังกล่าว ในส่วนของ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว
สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า ได้ติดต่อ นายไมตรี ไตรติลานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่หน้าห้องผู้ว่าฯ ได้รับเรื่องไว้และจะติดต่อกลับอีกครั้ง
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/