ได้เบาะแส "ทีมฆ่าพระ" แฉแหล่งกบดานประเทศเพื่อนบ้าน
ฝ่ายความมั่นคงประสานเสียงเตือนทุกฝ่ายอย่าตกหลุมพรางผู้ไม่หวังดีที่สังหารพระเพื่อต้องการให้มีปฏิบัติการตอบโต้ด้วยความรุนแรง จะได้ขยายปมขัดแย้งสองศาสนา ส่วนผู้ก่อเหตุคาดว่าเป็นทีมที่เคยก่อเหตุยิง อส. 2 ศพชิงปืนและเสื้อเกราะเมื่อปีที่ 61 แฉลงมือแล้วหนีข้ามแดน
เหตุการณ์คนร้ายบุกยิงพระวัดโคกโก หรือวัดรัตนานุภาพ เมื่อค่ำวันศุกร์ที่ 18 ม.ค.62 นั้น สรุปความสูญเสียล่าสุดมีพระมรณภาพ 2 รูป คือ พระครูประโชติ รัตนานุรักษ์ เจ้าอาวาส และเจัาคณะอำเภอสุไหงปาดี กับ พระสมุห์อรรถพร ขุนอำไพ พระลูกวัด ส่วนพระอีก 2 รูปที่ถูกยิงพร้อมกัน ได้รับบาดเจ็บสาหัส
เหตุการณ์ครั้งนี้สร้างความสะเทือนใจและส่งผลต่อขวัญกำลังใจของพี่น้องประชาชนในพื้นที่อย่างมาก โดยเฉพาะชาวไทยพุทธ ทำให้ พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาค 4 ตัดสินใจบินด่วนไปนอนค้างแรมที่วัดเพื่อปลอบขวัญ และได้ร่วมตรวจที่เกิดเหตุกับ พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 และ นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส
ต่อมาในช่วงเช้าวันเสาร์ที่ 19 ม.ค. แม่ทัพภาคที่ 4 ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าว สรุปว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นการสร้างสถานการณ์ของคนร้ายเพื่อให้เกิดความแตกแยกในพื้นที่ ฉะนั้นทุกฝ่ายอย่าตกหลุมพรางของคนร้าย โดยทางเจ้าหน้าที่จะมีมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยวัดทุกแห่งเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย
ส่วนข่าวที่ว่ามีคำสั่งห้ามพระสงฆ์ออกบิณฑบาตนั้น พล.ท.พรศักดิ์ ยืนยันว่า ไม่ได้มีการสั่งหรือห้าม เพียงแต่กำชับเรื่งอการออกบิณฑบาต ให้วัดแต่ละวัดเป็นผู้พิจารณาตามความเหมาะสมเพื่อความปลอดภัย
ด้าน พล.ต.ท.รณศิลป์ กล่าวว่า จากการประเมินคาดว่า กลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุเป็นกลุ่มเดิมๆ ที่เคยร่วมกันลอบวางระเบิดในพื้นที่อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส และร่วมกันยิงอาสาสมัครรักษาดินแดน หรือ อส.สุไหงปาดี เสียชีวิต โดยหลังจากก่อเหตุได้หลบหนีไปซ่อนตัวในประเทศเพื่อนบ้าน และทราบเบาะแสว่าได้ลักลอบข้ามแดนมาก่อเหตุในครั้งนี้ โดยมุ่งเน้นสร้างความแตกแยกระหว่างไทยพุทธกับมุสลิม ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ติดตามไล่ล่ากดดันเพื่อจับกุมมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว
สำหรับเหตุยิง อส.สุไหงปาดี ที่ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 อ้างถึงว่าน่าจะเป็นคนร้ายกลุ่มเดียวกันนั้น จากการสืบค้นของ "ทีมข่าวอิศรา" พบว่า เป็นเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นเมื่อวันอังคารที่ 7 ส.ค.61 คนร้ายซุ่มยิง อส.ประจำ อ.สุไหงปาดี ชุดรักษาความปลอดภัยโรงเรียน เสียชีวิต 2 นาย บนถนนบ้านโต๊ะเด็ง หมู่ 1 ตำบลโต๊ะเด็ง อำเภอสุไหงปาดี คือ อส.มูฮัมหมัดฮาฟีซี มือลี และ อส.เจ๊ะยูนัย เจ๊ะบือราเฮง โดยหลังก่อเหตุคนร้ายได้ชิงปืนอาก้าของ 2 อส.พร้อมอาวุธปืนพกไปด้วยรวม 3 กระบอก แถมยังจุดไฟเผารถจักรยานยนต์ซ้ำจนวอด (อ่านประกอบ : ซุ่มยิง "อส.ปาดี" ดับ 2 เผารถซ้ำ ชิงปืน-เสื้อเกราะ)
ขณะที่ นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า พระภิกษุที่มรณภาพและได้รับบาดเจ็บ จะได้รับการเยียวยาตามกฎหมาย ซึ่งในเร็ววันนี้ทางจุฬาราชมนตรีและประธานคณะกรรมการอิสลามสามจังหวัดชายเดนภาคใต้จะเดินทางมาให้กำลังใจพระสงฆ์ที่ได้รับบาดเจ็บ รวมทั้งการพูดคุยพบปะระหว่างผู้นำศาสนา เพื่อสร้างความเข้าใจถึงเป้าหมายของกลุ่มคนร้ายที่พยายามสร้างความแตกแยกในพื้นที่
-------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 แม่ทัพภาคที่ 4 ร่วมแถลงข่าวกับผู้ว่าฯนราธิวาส และผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ที่วัดโคกโก
2 แม่ทัพภาคที่ 4 พบปะพี่น้องชาวไทยพุทธในพื้นที่ พร้อมพูดคุยให้ปลอบขวัญเรียกความเชื่อมั่นมาตรการความปลอดภัย
อ่านประกอบ :
ยิงถล่มวัดในสุไหงปาดี นราธิวาส พระมรณภาพ-บาดเจ็บ
แม่ทัพภาค 4 ขอพระงดบิณฑบาตทั่วชายแดนใต้