โลมาสีชมพูตาย 1 ตัวเซ่นพิษพายุ'ปาบึก'-กรมอุตุฯคาดใกล้เคลื่อนพ้นฝั่งอันดามัน
โลมาสีชมพูตาย 1 ตัว ที่ อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช เซ่นพิษพายุปาบึก กรมอุตุฯออกประกาศช่วงเช้ามีศูนย์กลางอยู่ที่ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ ใกล้เคลื่อนออกฝั่งอันดามัน ความเร็วสูงสุด 65 กม./ชม.
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 5 ม.ค. 2562 นายบรรจง นะแส นายกสมาคมรักษ์ทะเลไทย และประธานคณะกรรมการประสานงานองค์กรเอกชนพัฒนาชนบท โพสต์ข้อความพร้อมภาพ โลมาสีชมพู เสียชีวิต ที่ อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช ระบุสาเหตุการเสียชีวิตเกิดขึ้นภายหลังพายุปาบึก (PABUK) เข้าชายฝั่งอ่าวไทยทาง อ.ขนอม โดยอ้างอิงมาจากเฟซบุ๊กของ หนุ่ย หยาดน้ำค้าง ที่เป็นชาวบ้านริมทะเล อ.ขนอม (ดูภาพประกอบ)
วันเดียวกัน กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา "พายุ “ปาบึก” (PABUK)"ฉบับที่ 21 ว่า เมื่อเวลา 04.00 น. พายุโซนร้อน “ปาบึก” (PABUK) มีศูนย์กลางอยู่บริเวณอำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ หรือที่ละติจูด 8.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 98.7 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อยด้วยความเร็ว 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนลงทะเลอันดามันในวันที่ 5 มกราคม 2562 ลักษณะเช่นนี้ทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่ โดยจะมีผลกระทบต่อไปอีก 1 วัน ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้
สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังแรง โดยอ่าวไทยมีคลื่นสูง 3-5 เมตร ส่วนทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากลมแรง และคลื่นลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่ง ชาวเรือควรงดการเดินเรือต่อไปอีก 1 วัน
ขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวพยากรณ์อากาศ และประกาศเตือนภัยได้ที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา https://www.tmd.go.th หรือสายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ทั้งนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาจะออกประกาศฉบับต่อไปใน วันที่ 5 มกราคม 2562 เวลา 11.00 น.
ขณะที่ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือจีสด้า วิเคราะห์ข้อมูลภาพถ่ายจากดาวเทียม Cosmo-SkyMed-2 เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2562 เวลา 17.47 น. "พบพื้นที่น้ำท่วมแล้วกว่า 9 พันไร่" ในบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำบางส่วนของจังหวัดปัตตานี ยะลา และสงขลา รวมทั้งความเสียหายที่เกิดจากคลื่นพายุซัดฝั่งบริเวณชายฝั่งของจังหวัดปัตตานี และสงขลาอีกด้วย