นพ.เจตน์ แจงร่างพ.ร.บ.กัญชา ยันเรื่องสิทธิบัตรไม่เกี่ยวกับกม.ฉบับนี้
นพ.เจตน์ แจงร่างพ.ร.บ.กัญชาที่ผ่านสภา ยันเรื่องสิทธิบัตรไม่เกี่ยวกับกม.ฉบับนี้ และม.22 ไม่ใช่การนิรโทษให้กับบริษัทต่างชาติ
นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ชี้แจงถึงร่างพ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่..) พ.ศ...หรือร่างพ.ร.บ.กัญชาผ่านการพิจารณาของสภาในวาระ 2-3 ไปแล้ว มีเสียงตอบรับจากสื่อไทยและสื่อต่างชาติอย่างท่วมท้น แต่ก็มีควันหลงตามมาจากผู้ที่คาดหวังสูงทั้งกลุ่มที่ไม่เข้าใจและกลุ่มที่ไม่พยายามเข้าใจ
"สนช.ผู้เกี่ยวข้องกับร่างก.ม.ฉบับนี้พยายามชี้แจงมาตั้งแต่วันแรกว่าเป็นกม.คลายล็อค ไม่ใช่กม.ปลดล็อค และเชิญผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนให้เข้ามาช่วยกมธ.ในระหว่างการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ที่มีการแก้ไขมากมายจนแทบจะเป็นคนละฉบับกับร่างแรกที่เสนอสภาและครม.รับร่างไปพิจารณา เพื่อคลายล็อคและเปิดโอกาสให้กับการรักษาทางการแพทย์และคนไทยทั้งงานวิจัยและการบริการรักษาโดยผู้มีวิชาชีพทางด้านแพทย์ เภสัช ทันตแพทย์ สัตวแพทย์ แพทย์แผนไทย แพทย์แผนไทยประยุกต์ หมอพื้นบ้าน ที่รักษาคนไข้ของตนเอง"
นพ.เจตน์ กล่าวถึงเสียงโจมตีมีสองประเด็นหลัก คือ
1.ร่างพ.ร.บ.ไม่ได้แก้ปัญหาการยื่นขอสิทธิบัตรของบริษัทต่างชาติ ประเด็นนี้เชื่อว่า หลายคนคงไม่ทราบว่า เป็นคนละเรื่อง เพราะเรื่องสิทธิบัตรและอนุสิทธิบัตรเป็นเรื่องของกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ตามพ.ร.บ.สิทธิบัตร พ.ศ.2542 ไม่เกี่ยวกับกม.ฉบับนี้ แต่ถ้ารัฐบาลต้องการล้างไพ่ กระทรวงพาณิชย์ก็ต้องยกเลิกคำขอและให้ทุกบริษัทที่คำขอไม่ได้ถูกยกเลิกไป กลับมาเริ่มต้นกันใหม่ เพราะคำขอสิทธิบัตรขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน เพราะกัญชาเป็นยาเสพติดให้โทษตามกม.ไทย
2.กล่าวหาว่า ในมาตรา 22 ของร่างพ.ร.บ.นี้เป็นการนิรโทษกรรมให้กับบริษัทต่างชาติ เจตนารมณ์ของมาตรานี้เป็นการเสนอในชั้นการพิจารณาของกมธ.โดยอาจารย์ชั้นผู้ใหญ่ที่ต้องการนิรโทษกรรมให้กับผู้ครอบครองรายย่อย แต่ผู้ใดในร่างพ.ร.บ.ย่อมหมายถึงใครก็ได้ ซึ่งครอบครองยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 เฉพาะกัญชา เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ การรักษาผู้ป่วย การใช้รักษาโรคเฉพาะตัว หรือการศึกษาวิจัยอยู่ก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ไม่ต้องรับโทษสำหรับการกระทำนั้นเมื่อดำเนินการ แจ้งขออนุญาตต่อเลขาอย.ถ้ามีคุณสมบัติตามม.26(5)ที่เป็นหน่วยงานของรัฐซึ่งทำหน้าที่ศึกษาวิจัยหรือจัดการเรียนการสอนหรือที่เกี่ยวข้องกับกัญชา...ผู้ประกอบวิชาชีพต่างๆ ผู้ป่วยเดินทางระหว่างประเทศ หรือผู้ขออนุญาตอื่นที่รมต.กำหนดโดยความเห็นชอบของคกก. หรือผู้ไม่เข้าข่ายมาตรา26(5)ต้องแจ้งการครอบครอง
แต่ต้องมีคุณสมบัติในกรณีที่เป็นบุคคลธรรมดา ต้องมีสัญชาติไทยและมีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย ในกรณีที่เป็นนิติบุคคลต้องจดทะเบียน ตามกฎหมายไทย และกรรมการของนิติบุคคล หุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นอย่างน้อย สองในสามต้องเป็นผู้มีสัญชาติไทย และมีสำนักงานในประเทศไทย
"ไม่ใช่นิรโทษให้กับบริษัทต่างชาติตามที่ถูกปรักปรำตามข่าว"