กรมคุมประพฤติดีเดย์ 1 ม.ค. 62 ใช้อุปกรณ์ EM ตามผู้กระทำผิด พร้อมกันทั่วประเทศ
ดีเดย์ 1 ม.ค. 2562 กรมคุมประพฤติใช้อุปกรณ์ EM คุมประพฤติผู้กระทำผิด พร้อมกันทั่วประเทศ สัญญาเช่าอุปกรณ์ 4,000 ชุด ตั้งแต่เดือนมกราคม 2562 ถึงเดือนกันยายน 2563 เป็นระยะเวลา 21 เดือน
วันที่ 24 ธันวาคม กรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม เปิดศูนย์ควบคุมการติดตามตัวด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ณ ชั้น 6 อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร โดยมีพลอากาศเอกประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในพิธี
พลอากาศเอกประจิน กล่าวตอนหนึ่งถึงการนำอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว (Electronic monitoring:EM) มาใช้กับผู้กระทำผิด เป็นมาตรการทางเลือกแทนการจำคุกที่สำคัญ ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้กระทำผิดได้รับการปฏิบัติอย่างเหมาะสมในชุมชนแทนการจำคุก กระทรวงยุติธรรมจึงมีนโยบายที่จะขยายการใช้อุปกรณ์ EM กับผู้กระทำผิดในความดูแลของกรมราชทัณฑ์และกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน และให้มีการพัฒนาอุปกรณ์ EM ร่วมกับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ เพื่อให้อุปกรณ์ EM สามารถนำมาใช้ได้อย่างกว้างขวางยิ่งขึ้น
ขณะที่นายประสาร มหาลี้ตระกูล อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวว่า กรมคุมประพฤติเริ่มนำอุปกรณ์ EM มาใช้กับผู้กระทำผิดเมื่อปี 2557 และ 2558 ปรากฎ ผลการดำเนินงานเป็นที่น่าพอใจ และมีประโยชน์อย่างยิ่งต่อสังคมและต่อตัวผู้กระทำผิด โดยปี 2561 กรมคุมประพฤติ ได้นำอุปกรณ์ EM มาใช้เพื่อรองรับการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งกำหนดไว้ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 เกี่ยวกับเงื่อนไขการคุมความประพฤติ และเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุม ดูแล ติดตาม ผู้กระทำผิดในชุมชน ซึ่งพระราชบัญญัติคุมประพฤติ พ.ศ.2559 ตลอดจนอนุบัญญัติที่เกี่ยวข้อง รองรับการใช้อุปกรณ์ EM กับผู้ถูกคุมประพฤติที่เป็นผู้ใหญ่ เด็ก และเยาวชน นักโทษเด็ดขาดที่ได้รับการพักการลงโทษ และลดวันต้องโทษจำคุกที่ศาลหรือผู้มีอำนาจสั่งให้ใช้อุปกรณ์ดังกล่าว
"อุปกรณ์ EM พร้อมระบบที่เกี่ยวข้องที่นำมาใช้มีจำนวน 4,000 ชุด โดยเป็นการเช่าอุปกรณ์ตั้งแต่เดือนมกราคม 2562 ถึงเดือนกันยายน 2563 เป็นระยะเวลา 21 เดือน และมีศูนย์ควบคุมการติดตามด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ทำหน้าที่เป็นศูนย์ควบคุมกลางในการติดตาม เฝ้าระวัง และตรวจสอบผู้กระทำผิดที่ใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ตลอด 24 ชั่วโมง ควบคู่ไปกับการปฏิบัติงานของสำนักงานคุมประพฤติทั้งนี้มีกำหนดดำเนินการพร้อมกันทั่วประเทศ 1 มกราคม 2562"