ไม่ใช้กลไกรัฐหาเสียง-ข้างมากต้องได้ตั้ง รบ.! เปิดสัญญาพรรคการเมืองให้ไว้กับประชาชน
“…หลังการเลือกตั้ง พรรคการเมืองขอสัญญาว่าจะเคารพเสียงของประชาชน และเร่งดำเนินการเพื่อให้เกิดความสงบสุขและเป็นธรรม ดังนี้ 1.พรรคการเมืองที่ร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล จะต้องมีเสียงสนับสนุนเกินกว่ากึ่งหนึ่งของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2.พรรคการเมืองที่จะร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลจะนำนโยบายที่แต่ละพรรคใช้ในการหาเสียงมาบูรณาการกันอย่างจริงจัง และให้ความสำคัญแก่การจัดทำนโยบายร่วมกันนี้ ในลำดับก่อนการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรี…”
หมายเหตุ สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org : ในวันที่ 21 ธ.ค. 2561 ที่ห้องประชุมบีบี 201 (ชั้น 2) โรงแรมเซ็นทรา บายเซ็นทารา ศูนย์ราชการและคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ กทม. สถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา ม.มหิดล ร่วมกับมูลนิธิสันติภาพและวัฒนธรรม และมูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย จัดพิธีลงนาม ‘สัญญาที่พรรคการเมืองขอให้ไว้แก่ประชาชน’ โดยมีเจตนารมณ์ต้องการให้พรรคการเมืองที่เข้าสู่การเลือกตั้งในวันที่ 24 ก.พ. 2562 กระทำการด้วยความโปร่งใส ให้ผู้แทนจากพรรคการเมืองต่าง ๆ ร่วมกันอ่านสัญญา ก่อนจะลงนามในสัญญา มีผู้แทนองค์กรต่าง ๆ เป็นสักขีพยาน
สำหรับรายละเอียดในสัญญาของพรรคการเมืองที่จะต้องอ่าน และลงนามนั้น สรุปรายละเอียดได้ดังนี้
โดยที่การปกครองในระบอบประชาธิปไตยมาจากการเห็นชอบของประชาชน ซึ่งแสดงออกผ่านการเลือกตั้งที่เสรี สุจริต และเที่ยงธรรม ในการนี้ รัฐ ซึ่งหมายรวมถึงรัฐบาล และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต้องไม่ปิดกั้นเสรีภาพ เปิดให้มีการสังเกตการณ์เลือกตั้งอย่างกว้างขวาง และต้องปฏิบัติต่อพรรคการเมืองทุกพรรคตามกฎหมาย และกฎ ระเบียบอย่างเท่าเทียมกัน ผู้มีสิทธิเลือกตั้งต้องหวงแหนสิทธิการเลือกตั้งของตน และใช้สิทธินี้หลังจากที่ได้ไตร่ตรองอย่างดีที่สุด และที่สำคัญ พรรคการเมืองต้องมีน้ำใจนักกีฬา และแข่งขันกันอย่างยุติธรรม
ในโอกาสการเลือกตั้งทั่วไปที่จะมาถึงในวันที่ 24 ก.พ. 2562 เพื่อให้การหาเสียงเลือกตั้งเป็นกระบวนการที่มีจรรยาบรรณ และให้การจัดการเลือกตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้งเป็นไปโดยเคารพเสียงและความต้องการของประชาชน พรรคการเมืองจึงได้จัดทำสัญญาที่พรรคการเมืองขอไว้ให้แก่ประชาชนฉบับนี้ขึ้น และขอให้คำมั่นว่าจะปฏิบัติตามสัญญาที่ลงนามร่วมกันนี้อย่างเคร่งครัดและจริงใจ
ก่อนการเลือกตั้ง พรรคการเมืองขอสัญญาว่าจะปฏิบัติตามจรรยาบรรณการหาเสียงเลือกตั้ง ดังนี้
1.จะปฏิบัติตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ กฎหมายเลือกตั้ง และกฎระเบียบของคณะกรรมการการเลือกตั้งที่กำหนดขึ้นตามหลักนิติธรรมและตามมาตรฐานสากล
2.จะไม่กระทำการใด ๆ ที่เป็นการซื้อเสียง จะไม่ใช้และพร้อมที่จะต่อต้านการใช้กลไกหรือทรัพยากรของรัฐ เพื่อประโยชน์ในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งคะแนนเสียงเลือกตั้ง
3.จะรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งด้วยสันติวิธี และไม่ใช้ความรุนแรงใด ๆ
4.จะไม่ใช้ถ้อยคำและภาษาที่ร้อนแรง จะไม่ให้ผู้อื่นเสื่อมเสียชื่อเสียง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จะไม่ใช้การข่มขู่ และไม่ใช้วาจาที่ปลุกเร้าให้เกิดความรุนแรง
5.จะเคารพสิทธิของพรรคการเมืองทุกพรรคที่จะรณรงค์หาเสียง โดยปลอดจากความหวาดกลัว และการถูกข่มขู่ และขอยืนยันว่าจะไม่ไปก่อกวนการรณรงค์หาเสียงของพรรคการเมืองใด ๆ
หลังการเลือกตั้ง พรรคการเมืองขอสัญญาว่าจะเคารพเสียงของประชาชน และเร่งดำเนินการเพื่อให้เกิดความสงบสุขและเป็นธรรม ดังนี้
1.พรรคการเมืองที่ร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล จะต้องมีเสียงสนับสนุนเกินกว่ากึ่งหนึ่งของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
2.พรรคการเมืองที่จะร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลจะนำนโยบายที่แต่ละพรรคใช้ในการหาเสียงมาบูรณาการกันอย่างจริงจัง และให้ความสำคัญแก่การจัดทำนโยบายร่วมกันนี้ ในลำดับก่อนการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรี
3.จะสนับสนุนให้รัฐจัดให้มีกลไกที่ใช้หลักของความเป็นธรรมช่วงเปลี่ยนผ่าน เพื่อเสนอแนะการปรองดอง และเยียวยาผู้เสียหายจากการกระทำของรัฐ และการกระทำด้วยเหตุจูงใจทางการเมือง
4.จะสนับสนุนกระบวนการพูดคุยสันติภาพในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ภายใต้กรอบของรัฐธรรมนูญ เพื่อให้บรรลุข้อตกลงของการอยู่ร่วมกันด้วยความเคารพซึ่งกันและกันอย่างสันสติ
5.เพื่อความเป็นธรรมระหว่างการบริหารราชการส่วนกลาง และส่วนท้องถิ่น พรรคการเมืองจะดำเนินการให้องค์กรชุมชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีอำนาจในการตัดสินใจในเรื่องของท้องถิ่นเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และจะพิจารณาโอนงาน งบประมาณ และบุคลากร จากราชการ ส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค ไปสู่ราชการส่วนท้องถิ่นมากขึ้นอย่างเพียงพอ
พรรคการเมืองเชื่อว่า การปฏิบัติตามสัญญาที่ให้ไว้นี้ จะมีส่วนช่วยสร้างความเข้มแข็งแก่สถาบันพรรคการเมือง และมีส่วนช่วยสร้างรากฐานที่แข็งแรงแก่ระบอบประชาธิปไตย
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/