เปิดเส้นทาง ‘นิโคลีน’ ผู้สร้างประวัติศาสตร์ไทย คว้ารองอันดับ 1 ‘มิสเวิลด์ ’
เปิดประวัติ ‘นิโคลีน’ ผู้สร้างประวัติศาสตร์บนเวที ‘มิสเวิลด์ 2018’ คว้าตำแหน่งรองชนะเลิศอันดับ 1 หลากความสามารถ พร้อมขับเคลื่อนโครงการช่วยเหลือเด็กออทิสติก Love For All
นับเป็นอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ของไทย
สำหรับการประกวดมิสเวิลด์ ซึ่งถือเป็นเวทีนางงามที่เก่าแก่มากที่สุดในโลก ภายหลัง ‘นิโคลีน’ พิชาภา ลิมศนุกาญจน์ มิสไทยแลนด์เวิลด์ ปี 2018 สามารถคว้าตำแหน่งรองชนะเลิศอันดับ 1 มาครองได้สำเร็จ ซึ่งถือเป็นตัวแทนสาวไทยที่เข้ารอบลึกที่สุดตั้งแต่มีการจัดประกวดมา
หลังจากสาวไทยที่เคยเข้ารอบลึกที่สุด คือ ‘ธัญญา สื่อสันติสุข’ และ ‘ปทุมรัตน์ วรมาลี’ ในรอบ 5 คนสุดท้าย ปี 1997 และ ปี 1989 ตามลำดับ
ทั้งนี้ การจัดประกวดมิสเวิลด์ ปี 2018 จัดขึ้น ณ เมืองซานย่า มณฑลไห่หนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน มีตัวแทนเข้าร่วมประกวดทั้งหมด 118 ประเทศ ปัจจุบันอยู่ภายใต้การบริหารงานโดย จูเลีย มอร์ลีย์ ซึ่งทำหน้าที่ต่อจาก เอลิค มอร์ลีย์ สามี ซึ่งเสียชีวิตไป
อย่ากระนั้นเลย หลายคนอาจยังไม่ทราบว่า นิโคลีน มีประวัติอย่างไร สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ถือโอกาสนี้เรียบเรียงนำเสนออีกครั้ง
(ที่มา:เฟซบุ๊ก Ruechanont Leerakhon)
นิโคลีน ปัจจุบันอายุ 20 ปี กำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 2 คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย (ภาคอินเตอร์) เชื้อสาย ไทย จีน และอเมริกัน เกิดที่ลองบีช รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา
มีความสามารถโดดเด่นหลายด้าน ทั้งบัลเล่ต์ ศิลปะการโบกสะบัดธง ที่สำคัญ เธอยังกล่าวสุนทรพจน์เป็นภาษาอังกฤษได้อย่างฉะฉานและกินใจอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้าที่จะครองตำแหน่งมิสไทยแลนด์เวิลด์และได้รองชนะเลิศอันดับ 1 มิสเวิลด์ นั้น นิโคลีนเคยคว้าตำแหน่งมิสไทยนิวเยียร์ยูเอสเอ 2014 และ มิสทีนเอเชียยูเอสเอ 2015 มาแล้ว
นอกจากนี้เธอยังเคยเข้าร่วมประกวดเวทีมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2018 แต่ผ่านเข้ารอบ 10 คนสุดท้ายเท่านั้น โดยมี ‘นิ้ง’ โศภิดา กาญจนรินทร์ เป็นผู้ชนะเลิศ และเป็นตัวแทนไทยประกวดมิสยูนิเวิร์ส ซึ่งจัดขึ้น ณ ประเทศไทย
ต่อมานิโคลีนตัดสินใจฉีกสัญญากองประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ เพื่อเข้าสู่การประกวดมิสไทยแลนด์เวิลด์ 2018 จนกระทั่งได้ครองตำแหน่งสูงสุดในคืนนั้น
ไม่เพียงแต่รูปร่างหน้าตา ไหวพริบปฏิภาณ ของสาวน้อยมากความสามารถผู้นี้ที่พาไปอวดโฉมในเวทีระดับโลก แต่เธอยังมีแคมเปญจิตอาสาช่วยเหลือเด็กออทิสติก (Love For All) ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากน้องชายที่เป็นออทิสติกด้วย
นิโคลีน กล่าวสุนทรพจน์ในรอบ Head to Head ถึงโครงการดังกล่าวว่า Love For All เป็นโครงการที่ช่วยเหลือเด็กออทิสติกและเด็กพิการอื่น ๆ เพื่อให้โอกาสทางการศึกษาและอาชีพ แรงบันดาลใจมาจากน้องชายของตัวเองที่เป็นเด็กออทิสติก ซึ่งเธอบอกว่า เป็นเรื่องเหลือเชื่อ เพราะน้องชายเป็นเด็กมหัศจรรย์มาก ๆ การได้เลี้ยงดูและอบรมเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่มาก ๆ เธอรู้ว่าน้องชายมีความสามารถ มีความปรารถนาดีเช่นเราทุกคนที่นี่ที่จะช่วยเหลือผู้อื่น เรียนรู้ และเติบโต เธอเห็นว่าสังคมควรจะมอบโอกาสให้เด็ก ๆ เหล่านี้ เพราะพวกเขาโชคดีน้อยกว่าพวกเรา พวกเขาควรจะได้ไปโรงเรียน มีการศึกษา ได้รับความเท่าเทียมและได้รับมิตรภาพจากเพื่อน ๆ ควรได้เข้าวิทยาลัย มีวุฒิการศึกษาในสาขาที่พวกเขาอยากจะเรียนรู้ ควรมีอาชีพ มีงาน และเลี้ยงดูตนเอง พร้อมยืนหยัดเพื่อสิทธิของตนเองได้ จนสามารถทำให้เธอทะลุเข้าสู่รอบ 30 คนสุดท้ายไปได้...
การกล่าวสุนทรพจน์ครั้งนั้นทำให้กรรมการมีมติเป็นเอกฉันท์ให้เธอผ่านเข้ารอบ 30 คนสุดท้ายของการประกวดโดยทันที
ที่กล่าวมาทั้งหมดจึงแสดงให้เห็นว่า การได้ครอบครองตำแหน่งรองชนะเลิศอันดับ 1 มิสเวิลด์ 2018 ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย หรือรูปร่างหน้าตาที่โดดเด่นเท่านั้น แต่เธอยังเพียบพร้อมไปด้วยจิตอาสาจากโครงการดี ๆ ที่จะช่วยเด็กออทิสติกให้เติบโตอยู่ในสังคมได้อย่างภาคภูมิ
ทั้งนี้ นิโคลีน มีกำหนดเดินทางกลับประเทศไทยในคืนวันที่ 11 ธ.ค. 2561 เวลาประมาณ 23.00 น. แฟน ๆ คนไทย อย่าลืมไปรอรับและให้กำลังใจกับเธอ
ในฐานะผู้สร้างประวัติศาสตร์ให้เกิดขึ้นแล้ว .