สั่งพิทักษ์ทรัพย์ บ.ริชเทคฯ คดีทุจริตภาษีกลุ่ม 2 พันล.- ใช้‘ห้องเช่า’ ฟัน 33 ล.
กรมสรรพากรไล่ฟ้องตามหลัง! บ.คดีทุจริตคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม 2 พันล. ถูกศาลล้มละลายสั่งพิทักษ์ทรัพย์อีกราย คราวนี้ บ.ริชเทคฯ ห้องเช่า จ.สมุทรสาคร อ้างส่งชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ ฟัน 33 ล.
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อ 28 พ.ย.2561 เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ได้ออกประกาศ เรื่อง คำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด บริษัท ริชเทค เทคโนโลยี จำกัด ตามคำพิพากษาของศาลล้มละลายกลาง วันที่ 12 พ.ย.2561 ตามที่ กรมสรรพากร โจทก์ ได้ยื่นฟ้องต่อศาลล้มละลายกลาง ขอให้จำเลยล้มละลาย คดีหมายเลขแดงที่ ล.4280/2561 จำเลย ทะเบียนนิติบุคคลเลขที่ 0745554 005008 ที่อยู่ 189/751 หมู่ที่ 5 ต.พันท้ายนรสิงห์ อ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร ดังนั้น นับแต่วันที่ศาลมีคำสั่ง เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แต่ผู้เดียว มีอำนาจจัดการเกี่ยวกับกิจการ และทรัพย์สินของลูกหนี้ ตามมาตรา 22 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 และบุคคล ผู้เป็นหนี้ลูกหนี้หรือมีทรัพย์สินของลูกหนี้อยู่ในครอบครอง มีหน้าที่ต้องแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับหนี้หรือทรัพย์สิน ของลูกหนี้ให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ทราบ ภายในหนึ่งเดือนนับแต่วันที่ได้ทราบคำสั่งของเจ้าพนักงาน พิทักษ์ทรัพย์ตามมาตรา 24/1 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 ซึ่งผู้ใดมีหน้าที่ตาม มาตรา 24/1 แล้วไม่ปฏิบัติตาม มีความผิดต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองแสนบาท ตามมาตรา 173/1 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 (ดูประกาศ http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2561/E/302/38.PDF)
สำนักข่าวอิศรารายงานว่า บริษัท ริชเทค เทคโนโลยี จำกัด เป็นบริษัทที่เกี่ยวพันกับคดีทุจริตคืบภาษีมูลค่าเพิ่มกลุ่ม 2 พันล้านบาท (คนละกลุ่มกับคดีทุจริต 4.3 พันล้านบาท)โดยกรมสรรพากรได้ตรวจสอบพบบริษัทที่จดทะเบียนประกอบธุรกิจส่งออกชิ้นส่วนอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ประมาณ 20 บริษัทขอคืนเงินภาษีมูลค่าเพิ่มกับกรมสรรพากรและได้รับอนุมัติเงินเป็นประมาณ 2,000 พันล้านบาท แต่ปรากฏว่าบริษัทกลุ่มดังกล่าวไม่ได้ส่งออกจริงและเข้าข่ายทุจริต กรมสรรพากรจึงส่งเรื่องให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ดำเนินคดีเอาผิดกับกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้อง
บริษัท ริชเทค เทคโนโลยี จำกัด จดทะเบียน เมื่อ 27 ต.ค. 54 ทุน 1 ล้าน ประกอบกิจการส่งออกคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ที่ตั้งเลขที่ 189/751 หมู่ที่ 5 ต.พันท้ายนรสิงห์ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร มี น.ส.นรินทร์ ขาวผ่อง ผู้จดทะเบียนก่อตั้ง ถือหุ้นใหญ่และเป็นกรรมการ โดย มีนางสาว เพ็ญนภา บุญจันทร์ และ นาย อภิรมย์ คอมาตย์ ร่วมถือหุ้น ต่อมา 10 พ.ค.55 ได้จดทะเบียนเปลี่ยนแปลงกรรมการ เป็น น.ส.อัญญารัตน์ กรังพานิช ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนพ.ย. 2558 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบ ที่ตั้งดังกล่าว พบว่า เป็นอาคารพาณิชย์ใกล้หมู่บ้านอมรชัย 5 ริมถนนพระราม 2 มีสภาพเป็นห้องแถว 3 ชั้นปิดร้างป้ายบอกเลขที่ชัดเจน สำรวจจากภายนอกไม่ได้บ่งบอกว่า เป็นสำนักงานบริษัท ฯ รวมทั้ง ไม่มีป้ายชื่อบริษัท ฯ ติดไว้แต่อย่างใด เอกชนรายนี้ได้ขอคืนเงินภาษีมูลค่าเพิ่มปี 2554 จำนวน 3 ล้านบาทเศษ และปี 2555 ประมาณ 30 ล้าน รวมประมาณ 33 ล้านบาท (แฟ้มภาพเมื่อเดือน พ.ย.2558)
สำนักข่าวอิศรารายงานว่า เอกชนที่ขอคืนเงินภาษีมูลเพิ่มกับกรมสรรพากร กลุ่มนี้ จดทะเบียนจัดตั้งในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร สมุทรปราการ และกรุงเทพฯ มีตัวบุคคลเชื่อมโยงกัน บางคนเป็นกรรมการเพียง 1 บริษัท บางคนเป็นกรรมการ 3 บริษัท บางคนเป็นกรรมการ 5-6 บริษัท ทำให้มีบริษัทเครือข่ายในกลุ่มนี้ประมาณ 40 บริษัท แต่ยื่นขอคืนเงินและได้รับเงินคืนภาษีมูลค่าเพิ่มประมาณ 20 บริษัท เมื่อยื่นจดทะเบียนจัดตั้งไม่นาน ก็จดทะเบียนเปลี่ยนสำนักงานที่ตั้ง และเปลี่ยนตัวกรรมการ บางบริษัทเปลี่ยนสำนักงานที่ตั้ง 3 แห่งในช่วงเวลา 1 ปี ที่ตั้งบางแห่งเป็นที่ตั้งสำนักงานที่ตั้งเดียวกัน 3 บริษัท
สำนักข่าวอิศรารายงานว่า บริษัทในกลุ่มนี้ อย่างน้อย 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท ซี.เจ เอ็กซิม (2012) จำกัด บริษัท เอ แอนด์ เอ เอ็กซิม (2012) จำกัด ถูกกรมสรรพากร ฟ้อง ศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์ เด็ดขาดไปแล้ว
อ่านประกอบ :
บ.คดีทุจริตคืนภาษีกลุ่ม 2 พันล. ‘ซี.เจ.เอ็กซิมฯ’ถูกศาลสั่งพิทักษ์-สรรพากรไล่ฟ้อง
ซ้ำรอย 4.3 พันล.! บ.คดีทุจริตภาษี 2 พันล.ถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์-โยงห้องเช่า ถ.เพชรบุรี
ผัง 20 ตัวละคร 39 บ.เครือข่ายคดีคืนภาษี 2 พันล. ใครคนพักเงิน?
เปิด บ.เซ้าท์เอเบิล 'ห้องแถว' จ.สมุทรสาคร 'ที่ตั้งเดียว' ริชเทคฯ คืนภาษี 32 ล.
ที่แท้! 2 หญิงสาว'หุ้นใหญ่' บ.ขอคืนภาษี 33 ล.เป็นลูกจ้าง อยู่ทาวน์เฮาส์ จ.ปทุมฯ
เปิดตัว บ.ริชเทคฯ ขอคืนภาษี 33 ล.ห้องแถวปิดร้าง จ.สมุทรสาคร โยง 5 บริษัท
พบอีกกลุ่ม!คืนภาษี 2 พันล.!โยงขุมข่าย 40 บ.-3 บิ๊ก ขรก. ‘สรรพากร’ส่งดีเอสไอสอบ