'อันวาร์':ถูกขังเดี่ยว 9 ปี..เมื่อผมกำลังต่อสู้สิ่งที่ไม่ถูกต้อง..ต้องอดทนและยอมรับที่จะอยู่กับมัน
เพื่อนผมจากทั่วทุกมุมโลก ส่งหนังสือมาให้ผมอ่าน ตอนนี้ผมฉลาดกว่าตอนที่ผมจะเข้าคุกเสียอีก ผมพูดเสมอกับทุกคนที่บ่นไม่มีเวลาว่า ให้ลองไปเข้าคุกดู เนื่องจากทุกอย่างเป็นไปตามเวลาที่กำหนดในทุกวัน คุณมีเวลาทั้งวัน ผมอ่านหนังสือเยอะมากทุกประเภททั้งศาสนา เศรษฐกิจ สังคม ศิลปะ และทุกประเภท
“ผมมีเวลาในคุกเยอะมากพอที่จะอ่านหนังสือ “ANWAR RETURNS...THE FINAL TWIST” ที่เขียนโดย MARK TROWELL QC ให้จบ”
ดะโต๊ะ เซรี อันวาร์ อิบราฮิม อดีตรองนายกรัฐมนตรีประเทศมาเลเซีย ตอบคำถาม ณัฏฐกรณ์ เทวกุล หรือหม่อมปลื้ม พิธีกรชื่อดัง ในเวทีเปิดตัวหนังสือ ใหม่ เรื่อง “ANWAR RETURNS...THE FINAL TWIST” ที่เขียนโดย MARK TROWELL QC แห่งออสเตรเลีย ณ โรงแรม รอยัล ออร์คิด เชอราตัน ถ.เจริญกรุง จัดโดยสถาบันอิศรา:มูลนิธิพัฒนาสื่อมวลชนแห่งประเทศไทย เมื่อเร็วๆ นี้
และจากท่อนนี้ไป คือบทสนทนา คำต่อคำ ของ อันวาร์ อิบราฮิม
@ มีความเห็นอย่างไรบ้างกับหนังสือเล่มนี้ ?
อันวาร์ อิบราฮิม :ผู้เขียนถ่ายทอดออกมาได้อย่างดีเยี่ยม ถึงแม้ว่าหนังสือจะค่อนข้างจำกัดอยู่กับการเรื่องราวของการพิจารณาคดีในชั้นศาล ซึ่งอันที่จริงทุกอย่างที่เกิดขึ้นในหนังสือล้วนได้รับการบันทึกไว้อยู่แล้วไม่ว่าจะเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาในศาล การต่อสู้คดี คำตัดสินของศาล แต่นอกเหนือจากนั้นผู้เขียนก็ได้ใช้ความรู้ความเข้าใจของเขาบันทึกมุมมองในเรื่องความละเลยต่อการใช้กฎหมาย
“ผู้เขียนทำได้อย่างยอดเยี่ยมมาก และอย่างที่ทุกท่านทราบประวัติของผู้เขียนหนังสือว่า เป็นผู้มีความรู้ความสามารถและได้รับความเคารพเป็นอย่างมากอยู่แล้ว นั่นจึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ผมเลือกเข้าร่วมในการเปิดตัวหนังสือด้วย”
@ คุณเคยคิดว่าจะเรื่องราวจะออกมาเป็นแบบนี้หรือไม่ เนื่องจากหลังจากที่เรื่องทุกอย่างเกิดขึ้นและคุณเพิ่งจะได้รับการปล่อยตัว หลังจากนั้นไม่นานก็ได้เข้าร่วมการเปิดตัวหนังสือเล่มนี้ ?
อันวาร์ อิบราฮิม :หลายคนรวมทั้งมหาธีร์ (ดร.มหาเธร์ โมฮัมหมัด นายกรัฐมนตรีมาเลเซียคนปัจจุบัน) คิดว่าคงจะเป็นเรื่องยากที่เราจะชนะ ผมเป็นส่วนน้อยที่มีความมั่นใจว่าเราจะทำสำเร็จถึงแม้ในตอนแรกผมจะยังอยู่ในคุกและไม่มีทางเลือกที่จะไปทางอื่น
“ผมอาจจะเป็นคนประเภทมองโลกในแง่ดี แต่เมื่อผลโหวตในปี 2013 ออกมาว่า เราได้เสียงจากการเลือกตั้ง 52% ในช่วงนั้นผมและมหาธีร์ก็ได้ตัดสินใจว่าควรที่จะร่วมกันก้าวไปข้างหน้าเพื่อผลประโยชน์ส่วนรวมของประชาชนเป็นหลัก และผมเชื่อว่าการตัดสินใจครั้งนั้นเป็นการพัฒนาโอกาสของเราอย่างมาก”
@ เมื่อมองกลับไปแล้วรู้สึกอย่างไรบ้างกับสิ่งที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะการใช้อำนาจตุลาการที่ไม่ชอบในอดีตที่ถูกแทรกแซงโดยผู้มีอำนาจเดิม และตอนนี้รู้สึกอย่างไรบ้าง ?
อันวาร์ อิบราฮิม : ทำไมถึงถามแต่คำถามยาก ๆ
ในอดีตฝ่ายตุลาการทำงานในลักษณะที่รับใช้ฝ่ายบริหาร แม้ว่าจะเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงเวลาแรกของยุคที่มหาธีร์ปกครองประเทศ และมหาธีร์ก็ปฏิเสธว่าไม่ได้มีการส่งคำสั่งใดไปให้ใครเป็นการเฉพาะ แต่ตัวระบบก็บังคับให้คนทำงานต้องตัดสินใจไปในแนวทางเดียวกันกับสิ่งที่ผู้มีอำนาจปกครองต้องการ
อย่างไรก็ตามการที่มหาธีร์แสดงออกว่า ประเทศจะต้องได้รับการเปลี่ยนแปลงและเดินไปข้างหน้า โดยมหาธีร์ตกลงและให้คำมั่นที่จะพัฒนาประเทศในเรื่องความเป็นอิสระของตุลาการ ความเชื่อถือไว้วางใจ การบังคับใช้กฎหมาย
“ ผมคิดว่าเป็นสิ่งที่น่าทึ่งมากสำหรับผู้นำอายุ 93 ปีที่ตัดสินใจในสิ่งเหล่านี้”
@ ในอดีตความไม่ชอบธรรมของตุลาการเห็นได้ทั่วไปหรือไม่ ?
อันวาร์ อิบราฮิม : แม้จะไม่เห็นในทุก ๆ คดี แต่ในคดีใหญ่ก็จะเป็นที่ทราบกันว่า มีการแทรกแซงอำนาจตุลาการ เคยมีการศึกษาของสหประชาชาติในเรื่องความเป็นอิสระของตุลาการในช่วงประมาณปี 2000-2001 เรามีหลักฐานมากมายว่า การตัดสินใจของตุลาการไม่เป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งเราจะต้องสร้างความมั่นใจว่า สิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นอีก
“มีอยู่ครั้งหนึ่งผมไปเจอพระมหากษัตริย์ พร้อมมหาธีร์ และกษัตริย์ ได้กล่าวว่า "ผมเข้าใจรายละเอียดของคดีนี้ ผมอ่านเอกสารและติดตามเรื่องราวทั้งหมด สิ่งต่าง ๆ ที่ผมไม่ทำแม้มีอำนาจ เป็นเพราะพยานหลักฐาน ผมเชื่อแล้วว่าคุณเป็นผู้บริสุทธิ์ สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ไม่ควรเกิดขึ้นกับใครอีก"
ผมตอบไปว่า "สิ่งที่ท่านพูดนั้นถูกต้องที่สุด นี่เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ประเทศควรจะต้องได้รับการแก้ไขปัญหาเรื่องความล้มเหลวของระบบตุลาการ"
@ ดังนั้นปัญหาเรื่องนี้ก็จะถูกรวมอยู่ในวาระการปฏิรูปประเทศด้วยใช่หรือไม่ ?
อันวาร์ อิบราฮิม : ใช่แน่นอน คุณไม่สามารถพูดถึงประชาธิปไตยได้เลย ถ้าอำนาจตุลาการไม่มีความเป็นอิสระ
@ จะมีอะไรรับรองว่า การดำเนินคดีต่ออดีตนายกฯ นาจิบ ราซัก จะเป็นไปในแนวทางเดียวกัน?
อันวาร์ อิบราฮิม : ผมได้หารือกับมหาธีร์ในเรื่องนี้และเรามีความเห็นตรงกันว่า จะต้องไม่มีการแทรกแซงใด ๆ ทั้งสิ้น และคณะตุลาการจะต้องเป็นอิสระอย่างแท้จริง แม้จะมีหลายคนไม่พอใจการกระทำในอดีตของอดีตนายกฯ นาจิบ แต่สุดท้ายแล้วอำนาจในการตัดสินตกอยู่กับผู้พิพากษา เราไม่สามารถกระทำการใด ๆ เพียงเพราะความโมโหหรือต้องการจะทำลายล้าง แต่เราต้องเชื่อมั่นในกระบวนการและระบบ
@ คุกที่มาเลเซียเป็นอย่างไรบ้าง ?
อันวาร์ อิบราฮิม : หลายคนคิดว่าผมคงได้อยู่ดีกินดี แต่อันที่จริงแล้วผมอยู่ในห้องขังพื้นซีเมนต์ ในช่วงแรกไม่มีเตียงหรือหมอนเลย ผมถูกขังเดี่ยวอยู่ทั้งหมดรวม 9 ปี ในช่วงเวลานั้นผมควบคุมสติโดยการร้องเพลงได้โปรดปล่อยผมไปเถอะ
“ผมต้องการให้ประชาชนทุกคนมีชีวิตอยู่ท่ามกลางบรรยากาศของความเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง เมื่อในเวลาหนึ่งที่ผมคิดขึ้นมาได้ว่าตอนนี้ผมกำลังต่อสู้กับสิ่งที่ไม่ถูกต้องอยู่ ผมไม่มีทางเลือก นอกจากอดทน ยอมรับที่จะอยู่กับมัน
ขณะอยู่ในรือนจำ เพื่อนผมจากทั่วทุกมุมโลกก็ส่งหนังสือมาให้ผมอ่าน ตอนนี้ผมฉลาดกว่าตอนที่ผมจะเข้าคุกเสียอีก ผมพูดเสมอว่า กับทุกคนที่บ่นไม่มีเวลาว่าให้ลองไปเข้าคุกดู เนื่องจากทุกอย่างเป็นไปตามเวลาที่กำหนดในทุกวัน คุณมีเวลาทั้งวัน ผมอ่านหนังสือเยอะมากทุกประเภททั้งศาสนา เศรษฐกิจ สังคม ศิลปะ และทุกประเภท
@ ครอบครัวรู้สึกอย่างไรบ้าง ?
อันวาร์ อิบราฮิม :ผมโชคดีมากที่ภรรยาและลูก ๆ มีความเสียสละเป็นอย่างมากและอยู่กับผมตลอดเวลา ในคืนวันที่ผมได้รับการปล่อยตัว ครอบครัวผมรีบวิ่งเข้ามาพร้อมกับฝูงชนและสื่อมวลชนมากมาย ผมรู้สึกตื้นตันมาก
@ คุณคิดว่าความนิยมของคุณจะอยู่ต่อไปอีกนานขนาดไหน ?
อันวาร์ อิบราฮิม : มีการพูดถึงผมในหลายแง่มุมที่ไม่ดีมากมาย แต่สำหรับผมคิดอยู่แค่อย่างเดียว คือ การทำเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนในระยะยาว เราจะต้องเลือกทำแต่สิ่งที่ถูกต้องถึงแม้สิ่งนั้นจะไม่ใช่สิ่งที่ได้รับความนิยมก็ตาม
@ มีความเห็นอย่างไรต่อการเมืองประเทศไทย ?
อันวาร์ อิบราฮิม : ผมมีเพื่อนคนไทยมากมายทั้งนักวิชาการ นักการเมือง รวมทั้งม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ซึ่งทุกคนก็ทราบดีว่า ผมอยู่ฝั่ง Democrat ในหลายช่วงเวลาสิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศไทยผมก็ไม่เห็นด้วย ถึงแม้ผมคิดว่า ไม่มีคำตอบที่ง่ายสำหรับประเทศไทย แต่คนไทยทุกคนควรที่จะร่วมกันมองไปยังอนาคตและทำเพื่อประโยชน์ของประเทศ ทุกอย่างจะต้องขึ้นอยู่กับทุกคนในประเทศไทยที่จะกำหนดและตัดสินใจ ทุกคนต้องร่วมกันหาข้อยุติแม้จะยากลำบากขนาดไหน ทุกคนจะต้องมีความอดทนและค่อย ๆ ก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน
@ คุณคิดว่าฝ่ายตรงข้ามของคุณจะกลับมากุมอำนาจอีกครั้งหรือไม่ ?
อันวาร์ อิบราฮิม : ผมเชื่อว่าถ้าทุกคนให้คำมั่นกับวาระการปฏิรูปแห่งชาติที่จะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับสิทธิของทุกคนในประเทศ
จากนั้นเวทีเปิดให้มีการถาม-ตอบ
@ มีโอกาสไหมที่จะกลับไปเขียนหนังสืออีกครั้ง ?
อันวาร์ อิบราฮิม : ตอนนี้สิ่งที่ผมให้ความสนใจเป็นอย่างมากในตอนนี้คือการวางหลักการจัดการปกครองประเทศ (Governance)
@ มีโอกาสที่จะรวมกับพรรคอื่นหรือไม่ ?
อันวาร์ อิบราฮิม : ผมคิดว่าตอนนี้พวกเรามีฐานเสียงเป็นที่น่าพอใจและการบริหารของพวกเรากำลังเป็นไปได้ดี ดังนั้นในเรื่องนี้อาจจะไม่ใช่สิ่งที่เราคิดในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ผมไม่เคยมีความเกลียดชังส่วนตัวใด ๆ กับบุคคลที่เคยสร้างความเสียหายให้กับประเทศ ผมเพียงแต่มีความเห็นว่า เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องและปล่อยให้อำนาจตุลาการเป็นผู้ตัดสินบุคคลที่สมควรชดใช้สิ่งที่พวกเขากระทำลงไป
@ มีความเห็นอย่างไรกับประเทศไทย ?
อันวาร์ อิบราฮิม : ทุกประเทศล้วนต้องผ่านปัญหามาทั้งนั้น ผมไม่สนับสนุนการใช้กำลังในรูปแบบใดทั้งสิ้น รัฐบาลประเทศไทยจะต้อวมีจุดยืนตรงนี้ คนในประเทศไทยจะต้องร่วมกันตั้งคำถาม และหาคำตอบที่จะเป็นธรรมกับทุกคน โดยให้โอกาสประชาชนทุกคนในการเข้าร่วมการเดินหน้า ในช่วงปี 1971 ช่วงนั้นจอมพลถนอม กิตติขจร เป็นนายกของประเทศไทย ผมยังเป็นนักศึกษาอยู่ ได้มีการใช้ความรุนแรงเกิดขึ้นในแถบภาคใต้ของประเทศไทย ผมเป็นหนึ่งในผู้ร่วมประท้วงขอความเป็นธรรมและเป็นการเข้าคุกครั้งแรกของผม ในนาทีนั้นผมเข้าใจทันทีว่า การใช้ความรุนแรงไม่ใช่คำตอบของปัญหาใดทั้งสิ้น
@ กองทัพของประเทศมาเลเซียมีมุมมองอย่างไรต่อเรื่องการเมือง ?
อันวาร์ อิบราฮิม : กองทัพอยู่แยกขาดจากการเมืองโดยสิ้นเชิง พวกเขาทำงานอย่างมืออาชีพและไม่แทรกแซงทางด้านการเมือง นายพลทหารหลายคนบอกผมว่า พลเมืองจะต้องจัดการปัญหาเรื่องการเมืองด้วยตัวเอง ถึงแม้จะมีหลายเสียงบ่นด้วยความโกรธแค้นว่า ทำไมกองทัพจึงไม่ทำอะไรเลย แต่ผมเชื่อว่าทุกคนเข้าใจว่า ถ้าเริ่มเดินไปในแนวทางนั้นก็จะไม่มีวันจบสิ้น เราจะต้องแสดงความโกรธแค้นของเราผ่านบัตรเลือกตั้งเท่านั้น ซึ่งผู้คนในประเทศมาเลเซียก็ต่างตั้งตารอที่ใช้สิทธินั้นอย่างมาก
"ช่วงที่ผมหาเสียงแม้กระทั่งยามรักษาความปลอดภัยที่ดูแลผมในช่วงที่ถูกขังยังออกมาสนันสนุนและขอถ่ายรูปกับผม ผมตื้นตันใจมาก ผมยังจำตอนที่ผมได้รับการปล่อยตัวแล้วยามรักษาความปลอดภัยร้องไห้ ผมไม่แน่ใจว่า พวกเขาอยากให้ผมอยู่ต่อหรือเปล่า ผมไม่เคยโทษหรือโกรธอะไรพวกเขาเลยเพราะพวกเขาทุกคนมีภาระหน้าที่ที่ต้องทำ แต่เมื่อถึงเวลาใช้สิทธิพลเมืองพวกเขาก็ออกมา"
@ ในช่วงเวลาระหว่างพิจารณาคดี เป็นไปได้หรือไม่ที่จะลี้ภัยออกไปต่างประเทศ ?
อันวาร์ อิบราฮิม : มีหลายครั้งหลายโอกาสที่มีคนเสนอให้ผมไป มีคนบอกผมว่าคุณไม่ต้องพิสูจน์อะไรแล้ว อายุคุณก็เยอะแล้ว ขอให้ไปมีชีวิตที่ดีที่อื่น วันที่ศาลตัดสินหลาย ๆ คนโกรธมากและบอกให้ผมออกไปจากประเทศนี้ แต่ผมบอกทุกคนว่า คนรุ่นใหม่มากมายทั้งหลายที่สนับสนุนผม ผมจะบอกพวกเขาว่าอย่างไร ถึงแม้ครอบครัวผมจะต้องแตกแยกออกจากกันและผมจะไม่ได้เห็นลูก ๆ ของผมเติบโต แต่ในท้ายที่สุดผมก็ได้รู้ว่าผมเลือกทำสิ่งที่ถูกต้อง
อ่านประกอบ :
การกลับมา (ไทย) ของ 'อันวาร์ อิบราฮิม'
อันวาร์ อิบราฮิม : การกลับมาเพื่อยิ่งใหญ่
อันวาร์ อิบราฮิม ในมุมมอง ดร.จรัญ มะลูลีม