กยศ.ยันประกวดราคาระบบกองทุนให้กู้ยืมดิจิทัล1.4พันล.โปร่งใส-เรื่องอุทธรณ์ถึงคกก.แล้ว
‘ชัยณรงค์ กัจฉปานันท์’ ผู้จัดการ กยศ.เผยกรณีบ.แอคเซลเล้นซ์ฯ ยื่นอุทธรณ์กรณีไม่ได้รับคัดเลือกร่วมประกวดราคาโครงการจัดหาระบบกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาแบบดิจิทัล (DSL) 1.4 พันล. อยู่ขั้นระหว่างตอนการพิจารณา ยันการดำเนินงานโปร่งใสภายใต้ข้อตกลงคุณธรรม
สืบเนื่องจากปรากฎข่าวว่า เมื่อวันที่ 6 พ.ย. 2561 ที่ผ่านมา บริษัท แอคเซลเล้นซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ยื่นเรื่องอุทธรณ์ และขอคำชี้แจงการพิจารณาผลการให้คะแนนตัดสินผู้ชนะการเสนอราคาโครงการจัดหาระบบกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาแบบดิจิทัล (DSL) ต่อประธานและคณะกรรมการจัดจ้าง โดยให้เหตุผลว่า การที่บริษัทฯไม่ได้รับคัดเลือก ไม่ผ่านการตรวจสอบ เนื่องจากยื่นเอกสารไม่ถูกต้องและครบถ้วน โดยการประกวดราคาจ้างโครงการจัดหาระบบกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาแบบดิจิทัล (DSL) ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงการคลัง กำหนดราคากลางเป็นเงินทั้งสิ้น 1,451,219,663 บาท แบ่งเป็น ค่าพัฒนาระบบ 238,427,270 บาท และ ค่าใช้จ่ายอื่น 1,212,792,393 บาท ผลการประกวดราคา ธนาคารกรุงไทยเป็นผู้ชนะที่ วงเงิน 999,999,999 บาท โดยประกาศผู้ชนะเมื่อวันที่ 1 พ.ย.2561 ที่ผ่านมา นั้น
ล่าสุด เมื่อวันที่ 28 พ.ย. 2561 นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา เปิดเผยกับสำนักข่าวอิศราว่า เรื่องอุทธรณ์ดังกล่าวนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาอุทธรณ์ของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ ตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ซึ่งโครงการดังกล่าวดำเนินการภายใต้ข้อตกลงคุณธรรม มีผู้สังเกตการณ์จากองค์กรต่อต้านคอรัปชั่น (ประเทศไทย) รวม 5 คน เข้าร่วมพิจารณาคัดเลือกผู้ชนะทุกครั้ง จึงขอยืนยันว่าโครงการดังกล่าวดำเนินการอย่างถูกต้องโปร่งใส
สำนักข่าวอิศรารายงานว่า ในการยื่นเรื่องอุทธรณ์ของ บริษัท แอคเซลเล้นซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ยื่นเรื่องอุทธรณ์ และขอคำชี้แจงการพิจารณาผลการให้คะแนนตัดสินผู้ชนะการเสนอราคาโครงการจัดหาระบบกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาแบบดิจิทัล (DSL) ต่อประธานและคณะกรรการจัดจ้าง ให้เหตุผลว่า การที่บริษัทฯไม่ได้รับคัดเลือก ไม่ผ่านการตรวจสอบ เนื่องจากยื่นเอกสารไม่ถูกต้องและครบถ้วนนั้น ทางบริษัทฯเห็นว่าการอ้างเหตุผลดังกล่าวไม่เป็นจริง และ คณะกรรมการได้พิจารณาในส่วนที่มิใช่สาระสำคัญ หรือความแตกต่างนั้นไม่มีผลเกิดการได้เปรียบเสียเปรียบต่อผู้นำเสนอรายอื่น หรือเป็นการผิดพลาดเพียงเล็กน้อย ทำให้บริษัทฯไม่ได้รับความชัดเจนในกระบวนการพิจารณาผล จึงขอให้ประธานและคณะกรรการจัดซื้อจัดจ้างทบทวนพิจารณาและขอให้ชี้แจงผลการพิจารณาให้คะแนนผลการคัดเลือกโครงการนี้ เพื่อความโปร่งใสในการจัดซื้อจัดจ้าง
หนังสืออุทธรณ์ของบริษัทฯระบุว่า ทางบริษัทฯเห็นว่าเป็นข้อผิดพลาดเล็กน้อยมิใช่สาระสำคัญ ไม่ผ่านการพิจารรณาข้อเสนอทางด้านเทคนิค เนื่องจากบริษัทฯได้ส่งจำนวนบุคลากรครบทุกด้าน พร้อมด้วยรายละเอียดผลงานประสบการณ์ในจำนวนที่มากกว่า โดยเทียบกับการมุ่งเน้นพิจารณาความสำคัญในการพิจารณาระบบงานที่นำเสนอ (Presentation) และการประเมินค่าประสิทธิภาพ (Performance) ซึ่งจากการพิจารณาข้างต้น กรรมการสามารถให้บริษัทฯนำเสนอข้อเท็จจริงและชี้แจงได้ ตามกรอบระเบียบ
“ทางบริษัทฯเชื่อมั่นว่าข้อเสนอไม่เป็นรองผู้ร่วมเสนอราคาอีก 2 ราย แต่คณะกรรมการฯกลับหยิบเรื่องทางเอกสารเล็กๆน้อยๆมาตัดสิทธิ์ จึงขอให้ทางสำนักข่าวอิศราช่วยตรวจสอบการประกวดราคาจัดจ้างโครงการนี้ด้วยว่ากระบวนการจัดซื้อจัดจ้างผิดปกติหรือไม่ ขอเรียกร้องความเป็นธรรม ทางบริษัทฯเป็นหน้าใหม่ในหน่วยงานนี้ ก่อนหน้ามีเจ้าเดิมที่เป็นคู่ค้าอยู่ก่อนแล้ว อยากให้ช่วยตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างผู้ร่วมประกวดราคาด้วย ” (อ่านประกอบ : ข้องใจถูกตัดสิทธิ์!เอกชนยื่นอุทธรณ์ประกวดราคาจัดหาระบบ กยศ.แบบดิจิทัล 1.4 พันล.)
หมายเหตุ ภาพจาก : newtv
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/
อ่านประกอบ :
ข้องใจถูกตัดสิทธิ์!เอกชนยื่นอุทธรณ์ประกวดราคาจัดหาระบบ กยศ.แบบดิจิทัล 1.4 พันล.