ทรัพย์สิน 3 สนช.พ้นเก้าอี้ ‘ยุวนัฏ’ลดลงกว่า 103 ล. ‘บิ๊กเจี๊ยบ-ดร.กบ’ถอยรถใหม่
เปิดทรัพย์สิน 3 สนช.พ้นตำแหน่ง ‘บิ๊กเจี๊ยบ’ 40.8 ล้าน รวยเพิ่ม 10.9 ล้าน เพิ่งถอย BMW 1 คัน 3.4 ล้าน ‘ดร.กบ’ 221 ล้าน ถอย Toyota Alphard ใหม่เช่นกัน 2.7 ล้าน ส่วน ‘พล.อ.ยุวนัฏ’ ทหารนักธุรกิจ กก.เอกชนอื้อ ทรัพย์สินเหลือ 345 ล้าน ลดลงกว่า 103 ล้าน แต่หนี้สินลดด้วย 73 ล้าน
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 27 พ.ย. 2561 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จำนวน 3 ราย ที่พ้นจากตำแหน่ง เมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2561 ที่ผ่านมา
โดยการเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินครั้งนี้ เป็นครั้งแรกที่นำประกาศ ป.ป.ช. เรื่องการเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินใหม่มาใช้ โดยมีการปกปิดข้อมูลต่าง ๆ หลายแห่ง เช่น ที่อยู่ บัญชีธนาคาร ทรัพย์สินอื่น ๆ เครื่องประดับ เป็นต้น และไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวดูรายละเอียดบัญชีทรัพย์สินช่วงแจ้งเข้ารับตำแหน่ง โดยเจ้าหน้าที่ระบุว่า เป็นกฎหมายคนละตัวกัน ผู้บริหารระดับสูงยังไม่มีความชัดเจนเรื่องนี้
1.พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท อดีตผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.)
แจ้งบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินตอนพ้นจากตำแหน่ง สนช. ระบุว่า มีทรัพย์สินรวม 40,893,718 บาท ไม่มีหนี้สิน เป็นของ พล.อ.เฉลิมชัย 10,547,065 บาท แบ่งเป็น เงินฝาก 2,328,448 บาท เงินลงทุน 6,573,616 บาท สิทธิและสัมปทาน 7 แสนบาท และทรัพย์สินอื่น 945,000 บาท ไม่มีหนี้สิน
ส่วนนางเบญจวรรณ สิทธิสาท คู่สมรส มีทรัพย์สิน 30,346,653 บาท แบ่งเป็น เงินฝาก 3,654,311 บาท เงินลงทุน 9,053,841 บาท ที่ดิน 7,285,000 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 1,445,000 บาท ยานพาหนะ 3.4 ล้านบาท (ยี่ห้อ BMW X3 ได้มาเมื่อวันที่ 18 ก.ค. 61) สิทธิและสัมปทาน 7.1 แสนบาท และทรัพย์สินอื่น 4,758,500 บาท ไม่มีหนี้สิน
โดย พล.อ.เฉลิมชัย มีรายได้ต่อปีรวม 6,533,372 บาท เป็นเงินเดือน ผบ.ทบ. 1,473,058 บาท ค่าตำแหน่งเลขาธิการ คสช. 1,439,040 บาท เงินเดือน สนช. 1,362,720 บาท กรรมการธนาคารทหารไทย 1,015,200 บาท กรรมการ อตก. 116,000 บาท และค่าโบนัสกรรมการธนาคารทหารไทย 1,127,354 บาท ส่วนคู่สมรสไม่มีรายได้
พล.อ.เฉลิมชัย มีรายจ่ายรวม 1,438,700 บาท เป็นค่าใช้จ่ายอุปโภคบริโภค 8.4 แสนบาท ค่าเบี้ยประกันชีวิต 98,700 บาท บริจาคเพื่อการกุศล 5 แสนบาท
ส่วนคู่สมรส มีรายจ่ายรวม 568,234 บาท เป็นค่าใช้จ่ายอุปโภคบริโภค 4.8 แสนบาท ค่าเบี้ยประกันชีวิต 38,234 บาท บริจาคเพื่อการกุศล 5 หมื่นบาท
อย่างไรก็ดี นางเบญจวรรณ คู่สมรส ระบุด้วยว่า ได้รับเงินกรณีลาออกจากธนาคารธนชาต จำนวน 5,287,934 บาทด้วย
เมื่อเทียบกับช่วงเข้ารับตำแหน่ง สนช. เมื่อวันที่ 31 ต.ค. 2557 พล.อ.เฉลิมชัย แจ้งว่า มีทรัพย์สิน (รวมคู่สมรส) ทั้งสิ้น 29,917,197 บาท ไม่มีหนี้สิน เท่ากับว่า พล.อ.เฉลิมชัย มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 10,976,521 บาท
2.นายอำพน กิตติอำพน
แจ้งบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินตอนพ้นจากตำแหน่ง สนช. ระบุว่า มีทรัพย์สินรวม 221,754,616 บาท ไม่มีหนี้สิน เป็นของ นายอำพน 138,999,036 บาท แบ่งเป็น เงินฝาก 27,257,648 บาท เงินลงทุน 59,942,247 บาท ที่ดิน 7 แปลง พร้อมบ้าน 1 หลัง 38,437,740 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้างเป็นคอนโดมีเนียม 2 หลัง 7,086,400 บาท ยานพาหนะ 5 คัน (ได้มาระหว่างปี 2558-2561 โดย Toyota Alphard เพิ่งได้มาเมื่อวันที่ 15 ส.ค. 2561 2,780,000 บาท) 6,275,000 บาท ไม่มีหนี้สิน
ส่วนนางกษมน กิตติอำพน คู่สมรส มีทรัพย์สิน 82,755,580 บาท แบ่งเป็น เงินฝาก 20,456,689 บาท เงินลงทุน 26,213,528 บาท ที่ดินพร้อมบ้าน 1 หลัง 22 ล้านบาท ยานพาหนะ 643,500 บาท ทรัพย์สินอื่น 6 ล้านบาท ไม่มีหนี้สิน
นายอำพน มีรายได้รวมต่อปี 9,550,000 บาท เป็นเงินเดือน เงินประจำตำแหน่งราชการ 6.5 แสนบาท เงินเดือน ค่าตอบแทนจากรัฐวิสาหกิจ/บริษัท 7.4 ล้านบาท ดอกเบี้ยเงินฝาก 1.5 ล้านบาท มีรายจ่าย 2 แสนบาท เป็นค่าใช้จ่ายรายเดือน
ทั้งนี้นายอำพน ระบุว่า ดำรงตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิประจำสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ผอ.สำนักงานบริหารนโยบายของนายกรัฐมนตรี ประธานกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย ประธานคณะกรรมการตรวจสอบ และกรรมการบริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) และคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย
ส่วนนางกษมน มีรายได้รวมต่อปี 4.5 ล้านบาท เป็นเงินเดือน ค่าตอบแทนจากรัฐวิสาหกิจ/บริษัท 2.5 ล้านบาท รายได้เงินปันผล 2 ล้านบาท รายจ่ายรวม 2 แสนบาท โดยนางกษมน แจ้งว่า ดำรงตำแหน่งเป็นที่ปรึกษากรรมการผู้อำนวยการบริษัท สมบูรณ์ แอ็ดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน)
เมื่อเทียบกับช่วงเข้ารับตำแหน่ง สนช. เมื่อวันที่ 8 ส.ค. 2557 แจ้งว่า มีทรัพย์สินรวมคู่สมรส 198,528,815 บาท มีหนี้สิน 2.1 ล้านบาท เท่ากับว่า นายอำพน มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 23,225,801 บาท
3.พล.อ.ยุวนัฏ สุริยกุล ณ อยุธยา
แจ้งบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินตอนพ้นจากตำแหน่ง สนช. ระบุว่า มีทรัพย์สินรวม 345,876,763 บาท มีหนี้สินรวม 35,397,705 บาท เป็นของ พล.อ.ยุวนัฏ 55,137,842 บาท แบ่งเป็น เงินสด 1 ล้านบาท เงินฝาก 659,372 บาท เงินลงทุน 8,470 บาท และทรัพย์สินอื่น ส่วนใหญ่เป็นพระเครื่องชื่อดัง และนาฬิกาหรู 53,470,000 บาท มีหนี้สิน 287,472 บาท เป็นเงินเบิกเกินบัญชี
ส่วนนางนันทพร สุริยกุล ณ อยุธยา คู่สมรส มีทรัพย์สิน 55,401,000 บาท แบ่งเป็น เงินสด 2 ล้านบาท เงินฝาก 2,046,146 บาท เงินลงทุน 195,991,754 บาท ที่ดิน 9 แปลง 34.5 ล้านบาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 8 แสนบาท และทรัพย์สินอื่น 55,401,000 บาท มีหนี้สิน 35,110,233 บาท เป็นเงินเบิกเกินบัญชี 4,910,233 บาท เงินกู้จากธนาคาร 30.2 ล้านบาท
พล.อ.ยุวนัฏ มีรายได้รวมต่อปี 2,213,856 บาท เป็นเงินบำนาญ/เงินเดือน มีรายจ่ายรวม 5 แสนบาท เป็นการอุปโภคบริโภค 4 แสนบาท เงินบริจาคทำบุญทั่วไป 1 แสนบาท
ส่วนนางนันทพร มีรายได้รวมต่อปี 3,650,000 บาท เป็นเงินบำนาญ/เงินเดือน 3.6 ล้านบาท เงินปันผล 5 หมื่นบาท มีหนี้สินรวม 3.2 ล้านบาท แบ่งเป็น การอุปโภคบริโภค 1.5 ล้านบาท งานแต่ง/งานศพ 3 แสนบาท ของขวัญทั่วไป 1 แสนบาท ค่าท่องเที่ยว 1 ล้านบาท
สำหรับ พล.อ.ยุวนัฏ แจ้งว่า เคยดำรงตำแหน่งกรรมการบริษัท พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด กรรมการบริษัท ชัยนันท์-บางพลี พาร์คเมนต์ จำกัด กรรมการบริษัท ตรีโฮม พรอพเปอร์ตี้ จำกัด กรรมการบริษัท โฟร์ โฮม จำกัด กรรมการบริษัท ดีไซน์ พ้อยท์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด กรรมการบริษัท เอ็ม ดี อินเตอร์เทรด โฮลดิ้ง กรุ๊ป จำกัด ส่วนคู่สมรสดำรงตำแหน่งกรรมการบริษัท โปร-เอ็ม จำกัด กรรมการบริษัท แนนซี่ โฮลดิ้ง กรุ๊ป จำกัด กรรมการบริษัท ไฟว์เอ็ม ไซเบอร์ จำกัด กรรมการบริษัท ชัยนันท์ เซอร์วิส กรุ๊ป จำกัด
เมื่อเทียบกับช่วงเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 8 ส.ค. 2557 มีทรัพย์สินรวมคู่สรม 449,344,380 บาท มีหนี้สินรวม 108,865,119 บาท เท่ากับว่า ทรัพย์สินลดลง 103,467,617 บาท แต่หนี้สินก็ลดลงไป 73,467,414 บาท