บอร์ดกกท.ขานรับแนวคิดใส่อุปกรณ์ป้องกันนักมวยเด็ก-ประวิตรจี้ประสานหน่วยงานปฏิบัติตามกม.
'หมออรรถฤทธิ์' เผยที่ประชุม กกท. ขานรับแนวคิดใส่อุปกรณ์ป้องกันตัวให้นักมวยเด็กป้องกันปัญหาบาดเจ็บ ด้าน พล.อ.ประวิตร จี้ ประสานสมาคม-หน่วยงานปฏิบัติตาม พ.ร.บ. มวย 2542 ยันหนุนให้เด็กฝึกซ้อมได้ แต่ต้องป้องกันให้เหมาะสมหากแข่งขัน
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 22 พ.ย. 2561 ที่ทำเนียบรัฐบาล มีการประชุมกรรมการกีฬาแห่งแห่งประเทศไทย (กกท.) โดยมี พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน
ทั้งนี้ ภายหลังจากการประชุม นพ.อรรถฤทธิ์ ศฤงคไพบูลย์ กกท. ในฐานะผู้ทรงคุณวุฒิได้เปิดเผยกับสำนักข่าวอิศราว่า ที่ประชุมได้มีการพิจารณาหารือปัญหานักมวยเด็ก ว่าจะดำเนินการอย่างไรให้เนื้อหาพ.ร.บ.ว่าด้วยกีฬามวย พ.ศ. 2542 มีผลบังคับให้ได้จริง เพราะ พ.ร.บ.ดังกล่าวมีรายละเอียดที่ดีดูแลป้องกันในหลายๆเรื่อง แต่ปัญหาคือการไม่ได้มีการปฏิบัติตามกฎหมาย ดังนั้น พล.อ.ประวิตร ประธานการประชุม จึงได้มอบหมายให้นายก้องศักดิ์ ยอดมณี ผู้ว่าฯ กกท.ไปดำเนินการเพื่อให้เกิดผลในทางปฏิบัติต่อไป อาทิ ให้เจ้าหน้าที่ไปประสานงานกับทางสมาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทางด้านมวยต่างๆ เพื่อให้กฎหมายมีผลในทางปฏิบัติได้จริงและเข้มงวดมากขึ้น
เมื่อถามต่อถึงประเด็นเรื่องการใช้อุปกรณ์ป้องกันตัว อาทิ เครื่องป้องกันศีรษะหรือเฮดการ์ด ให้นักมวยเด็ก นพ.อรรถฤทธิ์กล่าวว่า “เรื่องนี้ ผมเป็นคนพูดเองในที่ประชุม เพราะว่านอกเหนือจากเรื่องการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นแล้ว จะมีประเด็นในเรื่องการกำหนดอายุด้วย เพราะเด็กถือว่าเป็นวัยเจริญเติบโต เพราะฉะนั้นการบาดเจ็บในเด็ก จะมีผลต่อการเจริญเติบโตของร่างกายด้วย อาทิ เรื่องกระดูกเป็นต้น”
" เบื้องต้น ที่ประชุม กกท.มีมติเห็นพ้องต้องกันว่าจะสนับสนุนให้เด็กได้ฝึกซ้อม และรับรู้พื้นฐานของมวยตั้งแต่เด็ก เพื่อที่จะได้เติบโตไปแล้วมีความสามารถในเรื่องของมวยต่อไป แต่อย่างไรก็ตามประเด็นสำคัญก็คือจะต้องแยกให้ออกระหว่างคำว่าการฝึกซ้อม กับการแข่งขัน เพราะการฝึกซ้อมนั้นจะมีการบาดเจ็บเกิดขึ้นน้อยกว่าการแข่งขันมาก แต่ว่าในเรื่องของการแข่งขัน ชกกันจริงๆจะต้องมาหารือกันว่าจะทำอย่างไรถึงจะให้เด็กได้มีเครื่องป้องกันที่เหมาะสม อาทิเฮดการ์ดหรือสนับเข่าเป็นต้น ซึ่งประเด็นเหล่านี้ทาง พล.อ.ประวิตรก็ได้บอกในที่ประชุมว่าใน พ.ร.บ.นั้นมีการเปิดกว้างให้นำไปใช้ได้อยู่แล้ว ก็ให้ไปดำเนินการมา"
ส่วนความคืบหน้าการตรวจสอบข้อเท็จจริงการจัดแข่งขันเครื่องบินใบพัดหรือ Air Race 1 ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เมื่อวันที่ 17-19 พ.ย. 2560 ที่ผ่านมา ซึ่งพบข้อพิรุธว่า ภายหลังจากที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติงบประมาณให้จัด Air Race 1 World Series แล้ว กลับมีการเปลี่ยนแปลงชื่อและรูปแบบการจัดงานเป็น Air Race 1 World Cup ซึ่งมีสถานะและความสำคัญน้อยกว่า (อ่านประกอบ:เปิดข้อมูลใหม่ Air Race 1 เพิ่งตั้งคกก.จัดซื้อจ้าง ก่อนเคาะเลือก กรังด์ปรีซ์ แค่ 3 วัน?,เปิดเส้นทาง 'กรังด์ปรีซ์' จัด Air Race 78 ล.ใช้วิธีคัดเลือก-คู่เทียบ2ราย ซื้อซองแต่ไม่ยื่นแข่ง,หวั่นก.ท่องเที่ยวเสียรู้จัดแข่งAirRace WorldSeries เก๊! พล.อ.ยุทธศักดิ์ จี้กกท.สอบด่วน)
นพ.อรรถฤทธิ์กล่าวว่า "ประเด็นนี้ไม่ได้มีการพูดคุยกันในที่ประชุม เพราะ พล.อ. ยุทธศักดิ์ ศศิประภา กรรมการและผู้แทนประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ไม่ได้อยู่ในที่ประชุม เพราะถ้าอยู่ก็คงต้องเอาประเด็นนี้มาพูดถึงแล้ว แต่อย่างไรก็ตามคงต้องให้เวลากับ นายก้องศักดิ์ ในการจัดการกับเรื่องเหล่านี้ด้วย เพราะเพิ่งจะเข้ามาทำงานเป็นผู้ว่า กกท. คงต้องปรับตัวในหลายเรื่อง แต่ส่วนตัวเชื่อมั่นในการทำงานของนายก้องศักดิ์ว่าจะเป็นไปด้วยความโปร่งใส"
*หมายเหตุ:ภาพประกอบจาก สำนักข่าวเจ้าพระยา