หากการเลือกตั้งถูกเลื่อนออกไป
"...หากการเลือกตั้งมีการเลื่อนออกไป นอกจากหวังผลที่ได้เปรียบทางการเมืองแล้ว ผลพลอยได้จากการได้ผลประโยชน์หรือเอื้อประโยชน์ ในโครงการใหญ่ๆ ทั้งหลายที่กำลังเตรียมการจะประมูลอยู่ในช่วงก่อนเลือกตั้งเดือน ก.พ. นี้ มีอยู่อย่างมากมายทีเดียว ยกตัวอย่าง การประมูลสร้างและขยายท่าอากาศยาน การจัดซื้อจัดหาเครื่องบิน การประมูลเรื่อง ใบอนุญาตร้านค้าปลอดภาษีหรือดิวตี้ฟรี การประมูลเรื่องโครงการคมนาคมขนส่ง ทั้งรถยนต์ รถไฟ รถขนส่งมวลชน..."
หลังจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ได้ออกคำสั่งที่ 16/2561 ตามมาตรา 44 เมื่อวันที่ 16 พ.ย. 2561 เพื่อช่วยเหลือคณะกรรมการเลือกตั้งหรือ กกต. ที่มีปัญหาการแบ่งเขตเลือกตั้งไม่ทันตามกำหนดเวลานั้นทำให้วงการนักการเมือง นักประชาธิปไตย นักเลือกตั้ง นักธุรกิจ สื่อต่างๆ และประชาชนผู้มีความรู้ทั่วไป มีความรู้สึกเกิดขึ้นทันทีว่า นี่เป็นการเริ่มต้นของการเลื่อนการเลือกตั้งที่ถูกกำหนดไว้อย่างมั่นเหมาะไว้ในวันอาทิตย์ที่ 24 ก.พ. 2562 ออกไป จะเลื่อนออกไปตามกรอบของรัฐธรรมนูญ คือในช่วงเดือน พ.ค. 2562 หรือไม่ ไม่มีใครรู้นอกจาก คสช. และถึงขั้นที่จะเลื่อนออกไปให้เลยกรอบของรัฐธรรมนูญ คือออกไปนานกว่าเดือน พ.ค. 2562 ก็อาจทำได้ หาก คสช.อยากจะทำ
หากการเลือกตั้งจะถูกเลื่อนออกไป ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าไม่ใช่เพื่อหวังผลทางการเมือง เพราะคนรู้กันอยู่ทั่วไปว่า พรรคพลังประชารัฐ ที่จัดตั้งขึ้นโดยคนในรัฐบาลปัจจุบันนั้น มีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนให้หัวหน้า คสช. ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีหลังการเลือกตั้ง โดยเห็นๆ อยู่ว่ามีคู่แข่งที่น่ากลัว คือ พรรคเพื่อไทย และพรรคในกลุ่มเพื่อทั้งหลาย รวมทั้งพรรคไทยรักษาชาติ กำลังผงาดขึ้นมาอย่างน่าสะพรึงกลัว อดคิดไม่ได้ว่าหากการเลือกตั้งถูกเลื่อนออกไปจากที่ได้กำหนดไว้มั่นเหมาะ ในวันที่ 24 ก.พ. 2562 อะไรจะเกิดขึ้นในประเทศนี้บ้าง เริ่มแรกอยากให้ดูตั้งแต่ทารกเกิดใหม่ เมื่อแม่ถึงเวลาจะให้นมลูก ขณะที่ลูกก็กำลังหิวเต็มที่ แต่แม่กลับเอาเสื้อมาปิดเต้าเสีย ทารกน้อยก็มีแต่จะแหกปากร้องและดิ้นทุรนทุราย ใครๆ เห็นเข้าก็ต้องคิดในใจว่า แม่คนนี้ใจดำอำมหิตเหลือเกิน ครั้นเมื่อโตขึ้นหน่อยลูกที่กำลังซุกซนอยากออกไปวิ่งเล่นในที่โล่งแจ้ง อยากออกไปจากที่อยู่ที่แสนจะอึดอัดเสียที แต่แม่ยังไม่ยอมให้ออกไป โดยคิดว่าช้าหน่อยจะดีเอง รู้หรือไม่ว่าลูกจะเริ่มเกลียดแม่เพิ่มขึ้นทุกวัน และจะอยู่ในความทรงจำไปอีกนานเท่านาน
คิดไปเรื่อย ที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดก็คือ เศรษฐกิจของประเทศและการลงทุนที่ไม่ใช่เฉพาะนักลงทุนไทยเท่านั้น แต่ยังไม่รวมถึงต่างชาติที่รัฐบาลนี้พยายามทุกวิถีทางให้เข้ามาลงทุน ไม่ว่าในพื้นที่พิเศษอย่าง อีอีซี หรือที่อื่นใดในประเทศไทย นักลงทุนเหล่านั้นจะต้องสะดุด และหยุดคิดไปอีกนาน โดยเฉพาะทั้งนักลงทุนจีน และญี่ปุ่น ที่ได้แสดงความสนใจอยากมาลงทุนในประเทศไทยจำนวนมาก ตามที่มีข่าวให้ได้เห็นอยู่ทุกวันนี้ คิดหรือไม่ว่าเขาจะคิดเกี่ยวกับผู้นำของไทยที่มีแต่ทำอะไรชักเข้าชักออก กำหนดการอะไรไม่ค่อยเป็นไปตามนั้น มาตั้งแต่เริ่มต้นมีอำนาจ จนถึงปัจจุบัน และทั้งกำลังคิดจะเป็นผู้นำต่อไปในอนาคตอีก
ลองหลับตานึกหลับตาคิดเสียบ้าง ก็จะเห็นว่าเขาส่ายหัวกัน ถ้าคนจำนวนน้อยส่ายหัวยังไม่เป็นไร แต่หากคนจำนวนมากทุกหมู่เหล่า เขาส่ายหัวพร้อมๆ กัน คิดหรือไม่ว่าพรรคพลังประชารัฐจะติดลบสักแค่ไหน
คนทั่วไปที่คิดมาก ไม่ได้คิดแต่เรื่องการเมืองเพียงอย่างเดียว แต่จะคิดเลยเถิดไปถึงการหาผลประโยชน์ในทางมิชอบ หรือก็คือ การคอรัปชั่นที่มีให้เห็นได้ฟังกันอยู่ดาษดื่นในประเทศไทยขณะนี้ว่า หากการเลือกตั้งมีการเลื่อนออกไป นอกจากหวังผลที่ได้เปรียบทางการเมืองแล้ว ผลพลอยได้จากการได้ผลประโยชน์หรือเอื้อประโยชน์ ในโครงการใหญ่ๆ ทั้งหลายที่กำลังเตรียมการจะประมูลอยู่ในช่วงก่อนเลือกตั้งเดือน ก.พ. นี้ มีอยู่อย่างมากมายทีเดียว ยกตัวอย่าง การประมูลสร้างและขยายท่าอากาศยาน การจัดซื้อจัดหาเครื่องบิน การประมูลเรื่อง ใบอนุญาตร้านค้าปลอดภาษีหรือดิวตี้ฟรี การประมูลเรื่องโครงการคมนาคมขนส่ง ทั้งรถยนต์ รถไฟ รถขนส่งมวลชน การประมูลในเรื่องพลังงาน ปิโตรเลียม การประมูลเรื่องโทรคมนาคม โอ้ยมากมายหลายโครงการ
คนที่คิดเลยเถิดเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้เก่งๆ เขามีสตอรี่กันมากมายครับ ไม่เชื่อขอให้ทำการเลื่อนการเลือกตั้งออกไปตามที่คนคาดเดากันจริงๆ เถอะ อะไรที่ไม่คิดว่าจะเห็นก็คงจะได้เห็นกันบ้างละคราวนี้