อันวาร์ อิบราฮิม : การกลับมาเพื่อยิ่งใหญ่
"...การกลับมาของแมวเก้าชีวิต อันวาร์ อิบราฮิม จะเป็นการกลับมาที่ยิ่งใหญ่เพื่อก้าวสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแทน ดร. มหาธีร์ ผู้นำคนปัจจุบันที่เคยลั่นวาจาว่าจะหลีกทางให้เขาได้หรือไม่ เวลาและเหตุการณ์ทางการเมืองของมาเลเซียจะเป็นเครื่องพิสูจน์..."
ด้วยวัยย่างเข้า 72 ปี อันวาร์ อิบราฮิม อดีตรองนายกรัฐมนตรีและอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของมาเลเซีย ยังคงดูกระฉับกระเฉงแม้จะเพิ่งผ่านพ้นจากอาการบาดเจ็บจากหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท มาไม่นาน
เขายังคงมีความมุ่งมั่นที่จะเดินตามเส้นทางการเมืองตามที่ได้ตั้งใจไว้หลังจากต้องเผชิญความยากลำบากที่สุดในชีวิตอย่างไม่คาดฝันเมื่อหลายปีก่อน บางคนเรียกเขาว่านักสู้ผู้ไม่ยอมแพ้หรือบางคนเรียกเขาว่าแมวเก้าชีวิต ชื่อชั้นของเขาจึงเทียบได้กับนักการเมืองคนดังระดับโลกที่เคยประสบชะตาเดียวกัน เช่น ชวาหะร์ลาล เนห์รู อดีตนายกรัฐมนตรีอินเดียหรือ เนลสัน แมนเดลา อดีตประธานาธิบดีอัฟริกาใต้ เลยทีเดียว
แม้ว่าจะผ่านมรสุมชีวิตด้วยข้อกล่าวหาทุจริตและข้อหามีความสัมพันธ์ทางเพศกับผู้ชาย (Sodomy) ซึ่งถือว่าผิดกฎหมายของมาเลเซีย ถึง 2 ครั้ง ต้องถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำรวมทั้งสิ้น 10 ปี 6 เดือนและเดินขึ้นศาลตลอดเวลา 20 ปี ที่ผ่านมา แต่เขาก็ไม่เคยย่อท้อต่ออุปสรรคที่ขัดขวางการเติบโตทางการเมืองและการต่อสู้เพื่อรักษาศักดิ์ศรีของตัวเอง
ในที่สุดเขาก็ได้รับอิสรภาพเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2018 จากการได้รับพระราชทานอภัยโทษจากสมเด็จพระราชาธิบดีมูฮัมหมัดที่ 5 แห่งรัฐกลันตัน ยังดีเปอร์ตวนอากง พระองค์ปัจจุบันแห่งมาเลเซีย อย่างไม่มีเงื่อนไข จากการที่ ดร.มหาธีร์ โมฮัมหมัด ร้องขอให้มีการพระราชทานอภัยโทษให้ อันวาร์ อิบราฮิม หลังจากดร.มหาธีร์ชนะการเลือกตั้งทั่วไปครั้งล่าสุด
ปัจจุบันเขาเป็นประธานพรรค People’s Justice Party ( Parti Keadilan Rakyat : PKR) ซึ่งเขากับภรรยาร่วมกันก่อตั้งเมื่อปี 1999 โดยมีสโลแกนของพรรคว่า “Reformasi” หรือ “ปฏิรูป” เขาได้เดินกลับเข้าสู่สภาอย่างสง่างามอีกครั้งหลังจากชนะการเลือกตั้งซ่อมที่เขต Port Dickson เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
อันวาร์ อิบราฮิม เกิดที่รัฐปีนังซึ่งอยู่ตอนเหนือของประเทศมาเลเซีย เป็นศิษย์เก่าโรงเรียน มาเลย์ คอลเลจ กัวลากังซาร์ (The Malay College Kuala Kangsar ) หรือรู้จักในหมู่คนมาเลเซียว่า โรงเรียนอีตันแห่งตะวันออก(The Eton College of the East) และเป็นศิษย์เก่าของ มหาวิทยาลัยมาลายาและมหาวิทยาลัยแห่งชาติมาเลเซีย
คุณซูมแห่งไทยรัฐเคยเล่าไว้ในคอลัมน์ของท่านว่า ได้ยินเพื่อนๆศิษย์เก่าวชิราวุธพูดว่า “ อันวาร์เป็นคนนิสัยดี น่าคบ และมีความเข้าใจคนไทย ท่านเป็นศิษย์เก่าโรงเรียนมัธยม “มาเลย์คอลเลจ” ที่สมัยโน้นมีการแข่งขันรักบี้ประเพณีกับโรงเรียนวชิราวุธฯเป็นประจำ เข้าใจว่าท่านอันวาร์คงเป็นนักรักบี้จึงมาแข่งในเมืองไทยบ่อยๆจนเป็นที่รู้จักของนักเรียนวชิราวุธรุ่นโน้นอย่างดียิ่ง ”
จากข้อความข้างต้นจึงอนุมานได้ว่า อันวาร์ อิบราฮิม น่าจะมีความสัมพันธ์กับคนไทยและคุ้นเคยกับเมืองไทยอยู่พอสมควร
เขาเดินทางมาเมืองไทยอีกครั้ง เพื่อเปิดร่วมตัวหนังสือชื่อ Anwar Returns : The Final Twist พร้อมให้สัมภาษณ์พิเศษ จัดโดย สถาบันอิศรา มูลนิธิพัฒนาสื่อมวลชนแห่งประเทศไทย ในวันที่ 23 พฤศจิกายน 2561
เขาถ่ายทอดเรื่องราวความขมขื่นจากการถูกกล่าวหา ว่ามี ความสัมพันธ์ทางเพศกับผู้ชาย ไว้ในหนังสือ Anwar Returns : The Final Twist เขียนโดย นักเขียนและนักกฎหมายชาวออสเตรเลียชื่อ Mark Trowell QC ซึ่งเขียนหนังสือเกี่ยวกับ อันวาร์ อิบราฮิม มาแล้วสองเล่มและรู้จักการเมืองในเอเชียดีเท่าๆกับการเมืองในบ้านของตัวเอง
หนังสือ Anwar Returns : The Final Twist ประกอบด้วยรายละเอียดของคดีและเรื่องอื่นๆโดยแบ่งออกเป็น 2 ตอน
ตอนที่ 1 : The Release(การปล่อยตัว) กล่าวถึงเหตุการณ์ระหว่าง ปี 2015 – 2018 รวมทั้งคำให้สัมภาษณ์ของ อันวาร์ อิบราฮิม เมื่อเดือน พฤษภาคม 2018 หลังการเลือกตั้งทั่วไปในมาเลเซียจบลง
ตอนที่ 2 : The Prosecution (การฟ้องร้องดำเนินคดี) กล่าวถึงเหตุการณ์ระหว่าง ปี 2008 – 2015 โดยลำดับเหตุการณ์แยกเป็น 2 ช่วงเวลา คือ ช่วง The Trial (การพิจารณาคดี : กันยายน 2008-มกราคม 2012) และช่วง The Final Play (การแสดงรอบสุดท้าย : มีนาคม 2014 – กุมภาพันธ์ 2015)
บทสรุป ตอนที่ 1
ผู้เขียนได้เล่าคำให้สัมภาษณ์ของ อันวาร์ อิบราฮิม ไว้ว่า หลังจากได้รับอิสรภาพ เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2561 เขา ประกาศก้องต่อหน้าผู้สื่อข่าวว่า “รุ่งอรุณใหม่” ของมาเลเซียมาถึงแล้วและขอบคุณประชาชนมาเลเซียที่ยืนหยัดบนหลักการของประชาธิปไตยและเสรีภาพและต่อจากนี้ไปรุ่งอรุณของมาเลเซียจะเป็นของคนมาเลเซียทุกคนโดยไม่มีอุปสรรคในเรื่องของเชื้อชาติและศาสนา ซึ่งบ่งบอกเป็นนัยว่าเขาจะกลับมามีบทบาทการนำประเทศมาเลเซียในไม่ช้า
ถึงแม้อยู่ในเรือนจำ อันวาร์ก็ไม่เคยหยุดนิ่งจากงานการเมือง เมื่อต้องการแถลงข่าวเขามักแถลงข่าวผ่านทนายส่วนตัวและกิจกรรมทางการเมืองของเขามักได้รับการสนับสนุนอย่างลับๆจากผู้คุมเสมอ อันวาร์ เล่าเรื่องผ่านตัวหนังสือว่า เขาไม่ได้รับการปฏิบัติที่พิเศษกว่านักโทษคนอื่นๆ แต่เมื่อมีปัญหาเรื่องสุขภาพเขาจึงได้รับการดูแลที่ดีขึ้น แต่ก็ยังมีปัญหาอื่นๆกวนใจอยู่ตลอดเวลาไม่ว่าปัญหาการติดต่อกับครอบครัวหรือกับทนายก็ตาม
ผู้เขียนถ่ายทอดถึงความสัมพันธ์ระหว่าง อันวาร์ กับ ดร.มหาธีร์ โมฮัมหมัด นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน ซึ่ง อันวาร์ เล่าว่ารู้สึกประหลาดใจและอึดอัด เมื่อ ดร.มหาธีร์มาพบเขาที่ศาลเมื่อปี 2016 เพราะขณะนั้นเขาและครอบครัวยังไม่พร้อมที่จะรับไมตรีที่ ดร.มหาธีร์ ยื่นให้หลังจากความสัมพันธ์ที่ขาดสะบั้นลงจากข้อกล่าวหาที่เขาถูกยัดเยียด
อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นความสัมพันธ์ของมหาธีร์กับเขาดีขึ้นเป็นลำดับและเมื่อได้ยืนอยู่บนเวทีหาเสียงเลือกตั้งที่ เขต Port Dickson ด้วยกันเป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี ระหว่างเขากับ ดร.มหาธีร์ ซึ่งเคยเป็นทั้งมิตรและศัตรู ประโยคที่เขาพูดถึง ดร. มหาธีร์ในวันนั้นว่า ” ผมรักท่านเหมือนทั้งพ่อและผู้นำ “ จึงน่าจะยืนยันถึงความมั่นใจได้ว่าความบาดหมางต่อเรื่องที่ผ่านมาระหว่างเขากับ ดร.มหาธีร์ น่าจะผ่อนคลายลงมากแล้ว
เรื่องหนึ่งที่น่าสนใจที่เขาได้ให้สัมภาษณ์ไว้ก็คือ เขาได้ส่งหนังสือเล่มล่าสุดที่เขียนเรื่องราวเกี่ยวกับเขา (เข้าใจว่าเป็นหนังสือชื่อ The Prosecution of Anwar Ibrahim : The Final Play) จากในเรือนจำไปให้กษัตริย์แห่งมาเลเซียด้วย เขาไม่แน่ใจว่าหนังสือนั้นจะถึงมือกษัตริย์หรือไม่ จนกระทั่งเขาได้เข้าเฝ้ากษัตริย์จึงได้ทราบว่า พระองค์ได้อ่านหนังสือเล่มนั้นแล้วและทรงเห็นใจ รวมทั้งได้ตรัสว่าพระองค์ทราบถึงความจริงทั้งหมดและถือว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขาเป็นการบิดเบือนความยุติธรรม อย่างชัดเจน (The King said : Clearly a miscarriage of justice)
บทสรุป ตอนที่ 2
ผู้เขียนกล่าวถึงมหากาพย์สองภาคของการถูกกล่าวหาว่ามีความสัมพันธ์ทางเพศกับผู้ชาย ที่นักข่าวการเมืองในมาเลเซียเรียกกันว่า Sodomy I และ Sodomy II มีตัวละครและหลักฐานต่างๆมากมายที่ใช้ กล่าวหา ฟ้องร้อง และสู้คดีในศาล
ผู้เขียนกล่าวถึงเหตุการณ์ข้อกล่าวหาครั้งแรกเมื่อปี 1998 (Sodomy I) ขณะที่ อันวาร์ อิบราฮิม ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและถูกปลดจากตำแหน่ง รวมทั้งถูกกล่าวหาและฟ้องร้องด้วยข้อหามีความสัมพันธ์ทางเพศกับคนขับรถของภรรยาตัวเองในยุคที่ ดร.มหาธีร์เป็นนายกรัฐมนตรี หลังจากนั้นเขาถูกกล่าวหาคดีคอรัปชั่นภายในปีเดียวกันและถูกตัดสินจำคุกในคดีคอรัปชั่นเป็นเวลา 6 ปี และถูกตัดสินคดีมีความสัมพันธ์ทางเพศกับผู้ชายโดยรวมกับคดีเดิมเป็นเวลา 9 ปี ในช่วงปี 2004 เขาอุทธรณ์เรื่องความสัมพันธ์ทางเพศสำเร็จและได้รับการปล่อยตัว แต่ข้อหาคอรัปชั่นอุทธรณ์ไม่ขึ้น
เขาถูกกล่าวหาด้วยข้อหาเดียวกันอีกครั้งในปี 2008 (Sodomy II) ว่ามีความสัมพันธ์ทางเพศกับชายซึ่งเป็นผู้ช่วยของตัวเอง อันวาร์ อิบราฮิม ปฏิเสธข้อกล่าวหา เพราะเขาเห็นว่าเป็น การสมคบคิดทางการเมือง (Political conspiracy ) เพื่อดิสเครดิตเขา
เขาหลุดพ้นจากข้อกล่าวหาในปี 2012 อย่างไรก็ตามในปี 2014 ศาลได้กลับคำพิพากษา ให้ลงโทษจำคุก อันวาร์เป็นเวลา 5 ปี และการอุทธรณ์ไม่เป็นผลสำเร็จ
การถูกกล่าวหาด้วยคดีความสัมพันธ์ทางเพศกับผู้ชายถึงสองครั้งทำให้เกิดปฏิกิริยาโต้ตอบอย่างกว้างขวางทั้งจากประชาชนและองค์กรทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น ออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา สหภาพรัฐสภาระหว่างประเทศ (Inter- Parliamentary Union :IPU) คณะกรรมการนิติศาสตร์สากล ( International Commission of Jurists : ICJ) และ Human Right Watch เป็นต้น
ผู้เขียนได้เล่าถึงรายละเอียดขั้นตอนต่างๆของ การถูกกล่าวหา การพิจารณาคดี การต่อสู้คดี การอุทธรณ์คดี การพิสูจน์หลักฐานทางการแพทย์ หลักฐานและการวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ ความขัดแย้งของหลักฐานต่างๆ รวมไปถึง การพิสูจน์ DNA เป็นต้น รายละเอียดทั้งหมดได้ถูกอธิบายไว้เป็นลำดับในตอนที่ 2 ของหนังสือเล่มนี้ (รายละเอียดของ เหตุการณ์ Sodomy I และ Sodomy II เคยตีพิมพ์ไว้ในหนังสือเล่มก่อนหน้าชื่อ The Prosecution of Anwar Ibrahim : The Final Play )
ผู้เขียนยังได้แสดง Time line ของเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับคดีของ อันวาร์ อิบราฮิม ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี 1998-2018 รวมทั้งกล่าวถึงรายชื่อบุคคลสำคัญที่มีส่วนเกี่ยวข้องในช่วงการฟ้องร้องคดีที่ถูกกล่าวหาครั้งที่สองไว้ในตอนท้ายของหนังสือด้วย
เรื่องราวของ อันวาร์ อิบราฮิม มีผู้กล่าวถึงไว้มากมายไม่แพ้นักการเมืองคนอื่นๆ มีหนังสือเกี่ยวกับเขาถูกตีพิมพ์อย่างน้อยที่สุด 13 เล่ม มีทั้งที่เขาเป็นผู้เขียนเองและผู้เขียนคนอื่นๆซึ่งพูดถึงเรื่องราวของเขาไว้ในหลายแง่มุม
หนังสือ Anwar Returns : The Final Twist ถ่ายทอดถึงสิ่งที่ อันวาร์ อิบราฮิม ต้องการบอกกับสังคมโลกอย่างน้อยที่สุด 6 เรื่อง คือ
- เขามีความพร้อมที่จะเป็นผู้นำของมาเลเซียแล้วและรอวันที่จะก้าวสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเท่านั้น
- บทเรียนจากการต่อสู้ทางกระบวนการยุติธรรมอันยาวยาวนานของเขาที่ผ่านมา
- ปัญหาภายในของมาเลเซีย เช่น การทุจริตอย่างมโหฬารของกองทุน 1MDB(1 Malaysia Development Berhad) ของรัฐบาลที่ผ่านมา ความไม่โปร่งใสของเลือกตั้ง ฯลฯ
- เขาต้องการปฏิรูปประเทศในหลายๆด้าน โดยเฉพาะการปฏิรูปตุลาการ ( Reform of the judiciary ) ถือเป็นหนึ่งในวาระสำคัญที่ต้องแก้ไข
- ขั้นตอนการได้รับพระราชทานอภัยโทษจากกษัตริย์องค์ปัจจุบัน
- ประสบการณ์ความยากลำบากและอุปสรรคต่างๆระหว่างที่ถูกจองจำในเรือนจำ
หนังสือ Anwar Returns : The Final Twist มิใช่เป็นหนังสือที่เน้นถึง ประวัติของ อันวาร์ อิบราฮิม หรือ นโยบายทางเศรษฐกิจ หรือความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ของมาเลเซีย แต่หนังสือเล่มนี้น่าจะเป็นความตั้งใจของ อันวาร์ อิบราฮิมและผู้เขียน ที่ต้องการเล่าความเป็นมาของคดีที่พิลึกพิลั่นของ อันวาร์ เองให้สังคมได้รับทราบ เพื่อลบมลทินต่อข้อกล่าวหาว่าเขามีความสัมพันธ์ทางเพศกับผู้ชายซึ่งคาใจคนมาเลเซียและคนทั้งโลกตลอด 20 ปีที่ผ่านมา ด้วยหลักฐานทั้งหมดที่ปรากฏในหนังสือ
หนังสือเล่มนี้จึงเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจสำหรับ นักการเมือง นักกฎหมาย นักการศึกษาและผู้สนใจต่อเรื่องความซับซ้อนของการกล่าวหาฟ้องร้องและการต่อสู้คดีที่ยาวนานกว่าที่อันวาร์ อิบราฮิม จะได้รับอิสรภาพ
การกลับมาของแมวเก้าชีวิต อันวาร์ อิบราฮิม จะเป็นการกลับมาที่ยิ่งใหญ่เพื่อก้าวสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแทน ดร. มหาธีร์ ผู้นำคนปัจจุบันที่เคยลั่นวาจาว่าจะหลีกทางให้เขาได้หรือไม่ เวลาและเหตุการณ์ทางการเมืองของมาเลเซียจะเป็นเครื่องพิสูจน์
ติดตามเรื่องราวชีวิตที่ผกผันของ อันวาร์ อิบราฮิม ได้ในหนังสือชื่อ Anwar Returns :The Final Twist โดย Mark Trowell QC
อ้างอิง
1. หนังสือ Anwar Returns : The Final Twist โดย Mark Trowell QC
2. https://www.bbc.com/thai/international-44090267
3. https://www.posttoday.com/world/551438
4. https://www.thairath.co.th/content/1280952
5. https://en.wikipedia.org/wiki/Anwar_Ibrahim
7. https://www.matichon.co.th/foreign/news_1179576
หมายเหตุ : ภาพประกอบจาก https://www.malaymail.com
ภาพประกอบหนังสือ จาก https://www.goguru.com.sg