โลกยุคใหม่! เลขาฯ กสทช.เตือนผู้สมัครรับเลือกตั้งยึดติดหาเสียงแบบเดิมๆ อาจสอบตกได้
5G ที่เปลี่ยนภูมิทัศน์ การเมืองไทย ฐากร ตัณฑสิทธิ์ ชี้ระบบการเลือกตั้งจะไร้พรมแดน การหาเสียงผู้สมัครกับประชาชนสามารถติดต่อกันได้โดยตรง ไม่ผ่าน 'คนกลาง-สื่อกลาง' อีกแล้ว ยันใครยังยึดติดกับการหาเสียงแบบเดิมๆ ใช้ป้าย ใช้หัวคะแนน อาจสอบตกได้ในโลกยุคใหม่
วันที่ 19 พฤศจิกายน นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวในงานการสัมมนา “5G: จุดเปลี่ยน Landscape เศรษฐกิจ - การเมืองไทย” ณ ห้องวิภาวดีบอลรูม โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์เซ็นทรัลพลาซ่า ลาดพร้าว จัดโดยบางกอกโพสต์ กรุ๊ป ถึงมุมมองของ Regulator ต่อ 5G ที่เปลี่ยน Landscape เศรษฐกิจ - การเมืองไทยอย่างไร
นายฐากร กล่าวตอนหนึ่งโดยขอให้คนไทยเตรียมพร้อมรับมือเทคโนโลยี 5G เพราะจะมีการใช้งาน 5G ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นไป คาดว่า เทคโนโลยีดังกล่าวจะมีการใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพสูงใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 5-10 ปี โครงสร้างเศรษฐกิจจะเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน คือ 1.โครงสร้างภาคการผลิต มีการใช้หุ่นยนต์ AI และ IoT ทดแทนแรงงาน โดย องค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) ประเมินว่า 14% ของแรงงานมีความเสี่ยงตกงาน ขณะที่ Oxford University คาดการณ์ว่า 47% ของแรงงานมีความเสี่ยงที่จะทดแทนที่ด้วย AI 2.ห่วงโซ่อุปทาน จะเปลี่ยนไป ยุคเดิมเน้นการผลิตจำนวนมากส่งผ่านคนกลาง ยุคใหม่เน้นการผลิตขายผ่านแพลตฟอร์ม ตรงความต้องการของลูกค้า 3.ทฤษฎีอุปสงค์-อุปทานเดิม อาจจะอธิบายเศรษฐกิจไม่ได้ จะใช้ Big Data ร่วมกับ AI คำนวณความต้องการของสินค้า ได้แม่นยำมากขึ้น 4.ภาคธุรกิจที่เป็นตัวกลางในการประกอบธุรกิจถูกลดบทบาทและหายไปในที่สุด เช่น ธนาคาร ร้านค้า บริษัททัวร์ เป็นต้น และ 5.จะมีธุรกิจใหม่ๆ การต่อยอดและเกิดธุรกิจใหม่ๆ ตามเทคโนโลยีใหม่ที่จะเกิดขึ้น เช่น Grab Airbnb
สำหรับการเปลี่ยนแปลงด้านการเมืองในยุค 5G นายฐากร กล่าวว่า ระบบการเลือกตั้ง ปัจจุบันต้องลงคะแนนในที่ลับ และเป็นสถานที่กลางที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนด แต่หลังจากนี้ในอนาคตยุค 5G การลงคะแนนเลือกตั้งการใช้สิทธิของประชาชนไม่ถูกกำหนดให้ไปที่หน่วยเลือกตั้งนั้นแล้ว แต่จะใช้สิทธิแบบไร้พรมแดน ซึ่งหากมีการเชื่อมโยงข้อมูลของหน่วยงานภาครัฐ เชื่อว่า อนาคตยุค 5G การลงคะแนนเสียงของประชาชนจะมีเปอร์เซนต์เพิ่มอย่างแน่นนอน
"อนาคตยุค 5G การลงคะแนนลับในหน่วยเลือกตั้งไหนก็ได้ทั่วประเทศ มีขั้นตอนมีตั้งแต่แจ้งสิทธิผ่านระบบออนไลน์ ยืนยันตัวตนได้ทุกหน่วยเลือกตั้งผ่าน Biometrice ถ่ายรูปเก็บหลักฐาน ลงคะแนนลับได้ทุกหน่วยเลือกตั้งแบบดิจิทัล ไม่ต้องเดินทางกลับภูมิลำเนา รู้ผลการเลือกตั้งทันทีที่ลงคะแนนเสร็จสิ้น ลดความผิดพลาดด้วย Blockchain ทั้งหมดทำให้การใช้สิทธิการเลือกตั้งสะดวกมากขึ้น"
ส่วนโครงสร้างการหาเสียงของพรรคการเมืองและผู้สมัคร นายฐากร กล่าวว่า จะไม่ต้องผ่านคนกลางแบบปัจจุบันอีกแล้ว เช่น หาเสียงผ่านสื่อกลาง ใช้ป้ายการติดโปสเตอร์ แผ่นพับ ติดตามที่ต่างๆ ให้คนเห็น ที่สำคัญหาเสียงผ่านคนกลาง ใช้หัวคะแนน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ครู เพื่อเข้าถึงคนในพื้นที่ สื่อสารทางเดียวผ่านคนกลาง หรือสื่อกลาง เน้นการสร้างความเป็นไปได้ให้คนเห็นมากที่สุด
"แต่การหาเสียงในยุค 5G ผู้สมัครกับประชาชนสามารถติดต่อกันได้โดยตรง จะไม่ใช้คนกลางและสื่อกลางในการหาเสียง แต่จะใช้สื่อ Social Media ในการหาเสียง ใช้ VR (Virtual Reality) และ AR (Augmented Reality) ในการเข้าถึงประชาชนโดยตรงทุกที่พร้อมกัน ใช้ Big Data วิเคราะห์และสังเคราะห์กลุ่มฐานเสียงและนโยบายตามความต้องการ สื่อสารสองทางกับประชาชนโดยตรงไม่มีคนกลางและสื่อกลาง ทั้งหมดเน้นการเข้าถึงและสื่อสารกับประชาชนเป็นรายคน"
ช่วงท้าย เลขาธิการ กสทช.กล่าวด้วยว่า ผู้สมัครต่างๆ หากยังยึดติดกับการหาเสียงแบบเดิมๆ อาจสอบตกได้ในโลกยุคใหม่ พื้นที่ชายขอบเขาใช้ Social Media ใช้ Line เป็น ประชาชนต่างจังหวัดฉลาดมาก รู้อะไรเกิดขึ้น ฉะนั้น เรากำลังสะท้อนว่า หากไม่ปรับตัว คิดแบบเดิมๆ ไม่ใช่โลกยุคปัจจุบัน
ผ่านข้อมูล Social Media