เผยหนังสือ สถ.แจ้งเกณฑ์ผู้ว่าฯ เข้มงวดรายชื่อผู้เสนอขอพระราชทานเครื่องราชฯ ปี 62
เผยหนังสือ สถ. แจ้งผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด เข้มงวดตรวจสอบรายชื่อผู้เสนอขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ - เหรียญจักรพรรดิมาลา ปี 62 ระบุชัดให้พิจารณาโดยรอบคอบต้องเป็นผู้ประพฤติดี อุตสาหะ ซื้อสัตย์สุจริต เอาใจใส่ต่อหน้าที่ มีผลงานเชิงประจักษ์ จงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อันเป็นสถาบันหลักของชาติ มิใช่พิจารณาเพียงตำแหน่ง ระดับชั้น ครบกำหนดระยะเวลาที่จะเสนอขอเท่านั้น
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) ได้ทำหนังสือแจ้ง ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด เกี่ยวกับการเสนอขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์และเหรียญจักรพรรดิมาลา ประจำปี 2562 โดยสั่งการให้ดำเนินการแจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พิจารณาโดยรอบคอบว่าบุคคลที่จะเสนอชื่อขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จะต้องมีความประพฤติดี มีความอุตสาหะ ซื้อสัตย์สุจริต เอาใจใส่ต่อหน้าที่อย่างดียิ่ง ผู้ปฏิบัติราชการหรือปฏิบัติงานต้องมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ว่าเป็นประโยชน์ต่อราชการ หรือสาธารณชนจนถึงขนาดสมควรได้รับการเสนอขอพระราชทานเครื่องราชฯ และเป็นผู้มีทัศนคติที่ดีและจงรักภักดี ต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ อันเป็นสถาบันหลักของชาติ มิใช่พิจารณาแต่เพียงตำแหน่ง ระดับชั้น หรือครบกำหนดระยะเวลาที่จะขอพระราชทานเครื่องราชฯ ได้เท่านั้น
นอกจากนี้ ยังให้ตรวจสอบผู้เสนอขอพระราชทานว่า เป็นผู้เคยมีพระบรมราชานุญาตเรียกคืนเครื่องราชฯ หรือต้องรับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ และหากภายหลังทราบว่าผู้ที่ได้รับการเสนอขอพระราชทานเครื่องราชฯ ให้แล้วนั้น เป็นผู้ที่ขาดคุณสมบัติในการเสนอขอพระราชทานฯ เนื่องจากได้ถึงแก่กรรมลาออกหรือพ้นจากราชการเว้นแต่กรณีเกษียณอายุราชการ หรือเป็นผู้ที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดทางวินัย อย่างร้ายแรงและถูกตั้งกรรมการสอบสวนแล้ว หรือกระทำความผิดทางอาญาและอยู่ระหว่างสอบสวนของพนักงานสอบสวนหรืออยู่ระหว่างการดำเนินคดีอาญาในศาล แม้คดียังไม่ถึงที่สุด เว้นแต่ความผิดลหุโทษที่มีโทษปรับสถานเดียว ให้รายงานพฤติกรรมให้กรมส่งเสริมการปกครองท้อบถิ่นโดยด่วน พร้อมส่งเอกสารหรือหลักฐานประกอบด้วย
ส่วนการเสนอขอพระราชเครื่องราชฯ เป็นกรณีพิเศษให้พิจารณาอย่างเคร่งครัดและรอบคอบว่า บุคคลนั้นเป็นผู้มีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ฯ พ.ศ.2536 ข้อ 11 (3) และมิให้ขอพระราชทานเป็นกรณีพิเศษแก่บุคคลในสังกัดที่ขาดระยะเวลาการเลื่อนชั้นตราเกินกว่า 1 ปี ยกเว้นกรณีที่มีเหตุผลสมควรอย่างแท้จริงเท่านั้น โดยให้จัดทำแบบรายงานความดีความชอบ สรุปผลงานที่สำคัญว่าได้ปฏิบัติงานที่เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนอย่างไร ให้มีสถิติตัวเลขตัวชี้วัดในเชิงผลลัพธ์ที่ชัดเจน พร้อมทั้งสรุปรายงานความดีความชอบตามแบบที่กำหนด และให้จังหวัดจัดทำและรวบรวมเอกสารประกอบการเสนอขอพระราชทานเครื่องราชฯ และเหรียญจักรพรรดิมาของข้าราชการส่วนท้องถิ่น ลูกจ้างประจำ และผู้ปฏิบัติงานในหน่วยงานตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการส่วนท้องถิ่น โดยให้ดำเนินการตามแนวทางปฏิบัติตามหนังสือสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ที่ นร 0508/ว(ท) 3354 ลงวันที่ 1 พฤษภาคม 2561 โดยรวบรวมส่งกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ภายในวันที่ 14 ธ.ค.2561 หากพ้นกำหนดระยะเวลาดังกล่าวจะถือว่าไม่ประสงค์จะขอพระราชทาน และให้ทำหนังสือชี้แจงถึงกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นทราบด้วย
สำหรับการเสนอขอพระราชทานเหรียญจักรพรรดิมาลา ต้องรับราชการมาด้วยความเรียบร้อยเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 25 ปี (ดูหนังสือตัวจริงประกอบ)
(http://www.dla.go.th/upload/document/type2/2018/10/20728_1_1540970263942.pdf)