มติสภามิชอบด้วย กม.! กฤษฎีกาชี้ มทร.อีสานไร้อำนาจกู้แบงก์ 329 ล.ปมสร้างหอพัก
กฤษฎีกาฟันธง มทร.อีสาน ไร้อำนาจเป็นผู้กู้เงินแบงก์กรุงไทย 329.7 ล้าน ปมสร้างหอพัก เหตุไม่เป็นไปตาม พ.ร.บ.บริหารหนี้สาธารณะฯ เกินหน้าที่-ไม่ผูกพันมหาวิทยาลัย มติสภาที่อนุมัติไม่ชอบด้วยกฎหมาย ก.คลังให้ความเห็นชอบย้อนหลัง-ค้ำประกันไม่ได้
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเผยแพร่คำวินิจฉัย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน (มทร.อีสาน) ขอหารือข้อกฎหมายเกี่ยวกับการกู้ยืมเงินของส่วนราชการ กรณี รศ.วินิจ โชติสว่าง (อธิบการบดีขณะนั้น) เป็นผู้ลงนามให้เอกชนลงทุนก่อสร้างหอพักวงเงิน 329.7 ล้านบาท ต่อมาเอกชนผู้ลงทุนโอนกรรมสิทธิ์กลับให้ มทร.อีสาน พร้อมหนี้เงินกู้จากธนาคารกรุงศรีอยุธยา 329.7 ล้านบาท หลังจากนั้น รศ.วินิจ ลงนามเปลี่ยนชื่อคู่สัญญาให้ มทร.อีสาน เป็นผู้กู้เงินแทน ต่อมาสภา มทร.อีสาน อนุมัติให้ผ่อนชำระโดยกู้เงินจากธนาคารกรุงไทย 329.7 ล้านบาท อย่างไรก็ดีสำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษามีความเห็นว่า มทร.อีสาน ไม่มีอำนาจกู้ยืมเงิน และสัญญากู้ยืมเงินไม่มีผลผูกพันมหาวิทยาลัย แต่ผูกพันอธิการบดีเป็นการเฉพาะตัว ขณะที่สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง มีความเห็นว่า ตาม พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลฯ กำหนดให้ มทร.อีสาน เป็นนิติบุคคล และเป็นส่วนราชการตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ โดยไม่มีกฎหมายให้อำนาจในการกู้ยืมเงินหรือค้ำประกันไว้เป็นการเฉพาะ จึงไม่มีอำนาจกู้ยืมเงินนั้น
มทร.อีสาน เห็นว่า หนังสือตอบข้อหารือของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษายังไม่ชัดเจนและไม่เห็นด้วยกับความเห็นดังกล่าว และความเห็นของสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ จึงขอหารือสรุปได้ว่า การที่ มทร.อีสาน ทำสัญญากู้ยืมเงินดังกล่าวจากธนาคารกรุงไทย โดยได้รับความเห็นชอบจากสภา มทร.อีสาน ได้หรือไม่ อย่างไร และหากการทำสัญญากู้ยืมเงินดังกล่าวไม่สามารถทำสัญญาได้ในขณะนั้น แต่ต้องได้รับความเห็นชอบจากกระทรวงการคลังก่อน มทร.อีสาน จะขอให้กระทรวงการคลังให้ความเห็นชอบย้อนหลังได้หรือไม่ อย่างไร
คณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะพิเศษ) ตอบข้อหารือสรุปได้ว่า ไม่ปรากฏว่ามีบทบัญญัติใดให้อำนาจ มทร.อีสาน กู้เงินหรือค้ำประกันได้ การทำสัญญากู้ยืมเงินระหว่าง มทร.อีสาน กับธนาคารกรุงไทย จึงเป็นการทำสัญญาที่ไม่เป็นไปตาม พ.ร.บ.การบริหารหนี้สาธารณะฯ และเมื่อ มทร.อีสาน ไม่มีอำนาจตามกฎหมายที่จะกู้เงินหรือค้ำประกันได้ การทำสัญญากู้เงินดังกล่าวจึงเป็นการกระทำที่เกินอำนาจหน้าที่ของมหาวิทยาลัย และไม่ผูกพันมหาวิทยาลัย แม้ว่าในเรื่องนี้สภา มทร.อีสาน ได้มีมติเห็นชอบให้มหาวิทยาลัยกู้เงินจากธนาคารกรุงไทยเพื่อผ่อนชำระค่าก่อสร้างหอพักแล้วก็ตาม แต่เมื่อ พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลฯ ไม่ได้ให้อำนาจมหาวิทยาลัยในการกู้เงินหรือค้ำประกัน มติของสภามหาวิทยาลัยดังกล่าวจึงเป็นมติที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และไม่มีผลผูกพันให้มหาวิทยาลัยต้องปฏิบัติ ดังนั้นมหาวิทยาลัยจึงไม่อาจนำเงินรายได้ไปชดใช้คืนให้กับธนาคารกรุงไทยได้
ส่วนกรณีมหาวิทยาลัยจะขอให้กระทรวงการคลังให้ความเห็นชอบสัญญากู้เงินดังกล่าวย้อนหลังได้หรือไม่นั้น เมื่อวินิจฉัยว่า สัญญาเงินกู้ดังกล่าวเป็นการกระทำเกินอำนาจหน้าที่ของมหาวิทยาลัยและไม่ผูกพันมหาวิทยาลัย กระทรวงการคลังจึงไม่อาจให้ความเห็นชอบสัญญากู้เงินดังกล่าว นอกจากนี้ตาม พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลฯ ไม่ได้ให้อำนาจมหาวิทยาลัยในการกู้เงินหรือค้ำประกันได้ มหาวิทยาลัยจึงไม่อาจขอให้รัฐบาลโดยกระทรวงการคลังให้ความเห็นชอบหรือค้ำประกันการชำระหนี้ตามสัญญาเงินกู้ระหว่าง รศ.วินิจ กับธนาคารกรุงไทย
อ่านข้อหารือฉบับเต็ม คลิกที่นี่
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/