มท.แจ้งด่วนให้ ร.ร.ทั่วประเทศตรวจฝาท่อน้ำ หลังเหตุสลดเด็กขวบเศษพลัดตกเสียชีวิต
กรมส่งเสริมปกครองท้องถิ่นทำหนังสือด่วน แจ้งเวียนผู้ว่าฯทุกจังหวัด กำชับโรงเรียนในสังกัด อปท. ตรวจสอบฝาปิดท่อน้ำ-บ่อดักไขมัน หลังข่าวสลดเด็กหญิงวัยขวบเศษพลัดตกเสียชีวิต จี้ถ้าเจอชำรุดเสียหายต้องเร่งซ่อมแซมโดยเร็ว ย้ำให้ดูแลความปลอดภัยในโรงเรียนป้องอันตรายเกิดแก่เด็ก
จากกรณีเมื่อวันที่ 24 ต.ค. 2561 ที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์เด็กหญิงวัยขวบเศษ พลัดตกบ่อไขมันจนเสียชีวิต ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.กระบี่ สาเหตุเกิดจากฝาปิดซึ่งเป็นฝาพลาสติกแตกนั้น
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อปลายเดือน ต.ค. 2561 ที่ผ่านมา กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย ทำหนังสือด่วนที่สุด เวียนถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด กำชับเน้นย้ำให้สถานศึกษาในสังกัดตรวจสอบเพื่อเตรียมความพร้อมดูแลความปลอดภัยของเด็กนักเรียนอีกครั้งหนึ่ง เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับเด็กนักเรียนของโรงเรียนในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยหนังสือเวียนดังกล่าวจัดทำขึ้นอีกครั้ง ภายหลังปรากฏข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์เกี่ยวกับเด็กพลัดตกบ่อดักไขมันเสียชีวิต โดยมีสาเหตุมาจากฝาปิดซึ่งเป็นพลาสติกแตก
ดังนั้นเพื่อป้องกันมิให้เกิดเหตุในลักษณะดังกล่าวขึ้นอีก กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจึงขอความร่วมมือจังหวัดแจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่จัดการศึกษาทุกแห่งดำเนินการ ดังนี้
1.ให้ตรวจสอบฝาปิดท่อ ฝาปิดรางน้ำ ฝาปิดบ่อดักไขมัน ฯลฯ ภายในสถานศึกษาว่า ทำจากวัสดุที่มีความคงทน แข็งแรง อยู่ในสภาพดีหรือไม่ หากพบว่ามีสภาพไม่มั่นคง แข็งแรง หรือชำรุดเสียหายอันจะเกิดอันตรายได้ ขอให้เร่งรัดซ่อมแซม ปรับปรุง หรือเปลี่ยนแปลงให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
2.ให้ดำเนินการดูแลรักษาความปลอดภัยภายในสถานศึกษา เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดแก่เด็กนักเรียน ตามหนังสือที่อ้างถึงโดยเคร่งครัด (ดูเอกสารประกอบ)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ช่วงเดือน เม.ย. 2561 กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เคยทำหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดเน้นย้ำให้สถานศึกษาในสังกัดเตรียมพร้อมดูแลความปลอดภัยของเด็กนักเรียนก่อนปิดภาคเรียนแล้ว 4 ข้อ
1.การดูแลสภาพแวดล้อมให้สะอาด ร่มรื่น ตัดแต่งต้นไม้มิให้เกิดอันตราย และกำจัดต้นไม้ หรือวัชพืชที่เป็นพิษไม่ให้อยู่ในบริเวณโรงเรียนและศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก
2.ซ่อมแซมโครงสร้าง/ส่วนประกอบของอาคารเรียนและอาคารประกอบ เช่น ฝ้า เพดาน พื้น หลังคา เสา ราวบันได ประตู หน้าต่าง กันสาด รางน้ำ ท่อน้ำฝน ลูกกรง รั้ว วัสดุอุปกรณ์ ระบบประปา ระบบไฟฟ้า สายไฟ ปลั๊กไฟ พัดลม รวมถึงครุภัณฑ์ โต๊ะ เก้าอี้ ตู้ กระดานดำ และเครื่องเล่นสนาม ห้องปฏิบัติการ โรงฝึกงาน ห้องน้ำห้องส้วม ให้อยู่ในสภาพที่ใช้การได้ และปลอดภัยไม่ก่อให้เกิดอันตราย
3.กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงและสัตว์มีพิษ ตลอดจนบริเวณพื้นที่รกร้างที่อาจเป็นที่อยู่ของสัตว์มีพิษ
4.สำรวจดูจุดอันตรายในบริเวณโรงเรียน เช่น สระน้ำ สนามเด็กเล็ก ลานจอดรถยนต์ และดูแลป้องกันมิให้มีจุดล่อแหลมี่อาจเกิดอันตรายขึ้นได้
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/