อุทธรณ์ยืนยกฟ้อง‘ผอ.บริหารอิศรา’คดีหมิ่นนายก อบจ.ชัยภูมิ ปมถูกตีข่าวจัดซื้อจัดจ้าง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนยกฟ้อง ผอ.บริหาร ‘อิศรา’ คดีหมิ่นประมาท ‘มนตรี ชาลีเครือ’ นายก อบจ.ชัยภูมิ หลังตีข่าวเรื่องร้องเรียนความไม่ชอบมาพากลในการจัดซื้อจัดจ้างโครงการต่าง ๆ หลายสิบแห่ง วงเงินหลายสิบล้านบาท ป.ป.ช. ไต่สวนแล้ว
จากกรณีสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำเสนอข่าวเกี่ยวกับองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ชัยภูมิ หลังได้รับเรื่องร้องเรียนจากคณะสมาชิกสภา อบจ.ชัยภูมิ กว่า 20 ราย ให้ตรวจสอบนายมนตรี ชาลีเครือ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายก อบจ.ชัยภูมิ ในการใช้จ่ายงบประมาณจัดทำโครงการจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีพิเศษ และโครงการอื่น ๆ จำนวนหลายโครงการ วงเงินหลายสิบล้านบนาท เบื้องต้นกรณีดังกล่าวอยู่ระหว่างการไต่สวนข้อเท็จจริงของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นั้น (อ่านประกอบ : สภาฯชัยภูมิยกคณะยื่น'อิศรา' ช่วยตรวจสอบการใช้อำนาจจัดซื้อจ้าง 'นายกฯอบจ.', นายกอบจ.ชัยภูมิ โอดถูกใส่ร้าย! ยันไม่รู้เรื่อง บ.แข่งขายอุปกรณ์เรียนเชื่อมโยงกัน)
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า ในช่วงปี 2560 ที่ผ่านมา นายมนตรี ชาลีเครือ ได้ยื่นฟ้องต่อศาลอาญากับแกนนำคณะสมาชิกสภา อบจ.ชัยภูมิ เป็นจำเลยที่ 1-4 และนายประสงค์ เลิศรัตนวิสุทธิ์ ผู้อำนวยการบริหารสถาบันอิศรา เป็นจำเลยที่ 5 ในคดีหมิ่นประมาท ความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา และผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550
เบื้องต้นคดีดังกล่าวศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องจำเลยทั้งหมด สรุปได้ว่า ข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นข้อมูลปลอมหรือเท็จ ขณะที่สำนักข่าวอิศรานำข้อมูลมาเผยแพร่ต่อ การกระทำจึงไม่ผิด นายมนตรีอุทธรณ์
ต่อมาเมื่อเดือน ก.ค. 2561 ที่ผ่านมา ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาคดีดังกล่าว ยืนตามศาลชั้นต้นให้ยกฟ้อง
คดีนี้ศาลอุทธรณ์พิจารณาอยู่ 2 ประเด็น ได้แก่
1.คดีมีมูลเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 ประกอบมาตรา 236 หรือไม่ เห็นว่า จำเลยที่ 1-4 เป็นฝ่ายตรวจสอบการทำงานของโจทก์ (นายมนตรี) และจำเลยที่ 5 เป็นนักสื่อสารมวลชน มีบทบาทหน้าที่รับ แสวงหา ตรวจสอบ และเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ
การที่จำเลย 1-4 ทำหนังสือขอทราบผลการตรวจสอบเรื่องโครงการต่าง ๆ หนังสือดังกล่าวต้องแสดงให้เห็นถึงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับที่ไปที่มา หรือพฤติการณ์ของ อบจ.ชัยภูมิ รวมทั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับพฤติการณ์การจัดซื้อจัดจ้างเพื่อให้ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิได้รับทราบ การพิจารณาว่ามีมูลหมิ่นประมาทหรือไม่ต้องพิจารณาจากเนื้อความโดยรวม จึงไม่อาจตัดทอนเอาเฉพาะข้อความที่โจทก์ต้องการ หรือโจทก์เห็นว่าเป็นการใส่ความมาพิจารณาว่าคดีมีมูลเป็นความผิดหมิ่นประมาทไม่ได้
เมื่อศาลอุทธรณ์พิจารณาหนังสือดังกล่าวที่เผยแพร่บนเว็บไซต์สำนักข่าวอิศรา เห็นได้ว่า เนื้อความในหนังสือและบนเว็บไซต์สำนักข่าวอิศรา มิได้มีข้อความตอนใดยืนข้อเท็จจริงว่าโจทก์บริหารงานทุจริต อันเป็นการใส่ความด้วยการโฆษณา โดยประการที่น่าจะทำให้โจทก์เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชังตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 ประกอบมาตรา 326
ส่วนที่โจทก์อุทธรณ์ว่า จำเลยที่ 1-4 มีอำนาจหน้าที่ในการตรวจสอบการทำงานของโจทก์ได้โดยตรงตามตำแหน่งที่อยู่ ไม่มีความจำเป็นต้องร้องเรียนสื่อมวลชนนั้น เห็นว่า บทบาทการทำงานส่วนหนึ่งของสื่อมวลชนเพื่อกระตุ้นเตือนการทำงานของผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะที่กระทบกระเทือนต่อประโยชน์สาธารณะ ในกรณีที่เห็นได้ชัดว่าการทำงานล่าช้ากว่าที่ควรจะเป็น กรณีนี้ปรากฏว่าหลังจากจำเลยที่ 5 เผยแพร่ข่าวออกไป อีกเพียง 1 สัปดาห์ถัดมา ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ มีหนังสือถึงโจทก์ แสดงให้เห็นว่าการร้องเรียนดังกล่าวน่าจะเกิดผลบางประการในด้านการเร่งรัดการตรวจสอบ
ที่ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องในความผิดฐานนี้มาจึงชอบแล้ว อุทธรณ์ของโจทก์ในข้อหานี้ฟังไม่ขึ้น
2.ความผิดฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ ผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14 (1) หรือไม่นั้น
ปรากฏว่า ในระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นต้นมี พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ปี 2560 ประกาศใช้บังคับ โดยมาตรา 8 ได้ยกเลิกบัญญัติมาตรา 14 ในฉบับเดิม โดยฉบับที่แก้ไขใหม่ นอกจากผู้กระทำจะต้องมีเจตนานำข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมหรือที่เป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนแล้ว ผู้นั้นจะต้องกระทำโดยมีเจตนาทุจริตหรือโดยหลอกลวงด้วยจึงเป็นความผิด
เมื่อการกระทำของจำเลยทั้ง 5 ราย ตามที่โจทก์บรรยายฟ้องไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้ง 5 ราย กระทำโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงด้วย จึงไม่ครบองค์ประกอบความผิดตามมาตรา 14 วรรคหนึ่ง (1) ที่แก้ไขใหม่ ประกอบกับเมื่อโจทก์บรรยายฟ้องยืนยันว่า การกระทำของจำเลยทั้ง 5 ราย เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญาแล้ว กรณีจึงไม่ผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ปี 2560 ด้วย จำเลยทั้ง 5 รายจึงพ้นจากการเป็นผู้กระทำผิดตามที่โจทก์ฟ้อง
พิพากษายืน
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/
อ่านประกอบ :
สภาฯชัยภูมิยกคณะยื่น'อิศรา' ช่วยตรวจสอบการใช้อำนาจจัดซื้อจ้าง 'นายกฯอบจ.'
เปิดหนังสือปธ.สภาฯชัยภูมิถึง ผู้ว่าฯ ทวงผลสอบ'นายกฯอบจ.' 2 ปีแล้วยังไร้ข้อสรุป?
เจาะสัญญาซื้ออุปกรณ์เรียนอบจ.ชัยภูมิ! บ.ย่านสะพานสูง คว้างาน3สัญญาติด52ล.
7สัญญา79 ล.!เบ็ดเสร็จบ.ย่านสะพานสูง คว้างานอบจ.ชัยภูมิ-แกะรอย 'คู่เทียบ' ชิงดำ
ใช้คนทำบัญชีเดียวกัน!เปิดหลักฐานมัดบ.ผู้ชนะ-คู่เทียบ ชิงดำงานอบจ.ชัยภูมิ 3 สัญญา
เปิดหลักฐานชุด2 มัด ผู้ชนะ-คู่เทียบ ชิงดำงานอบจ.ชัยภูมิ-ใช้ทีมงานเดียวกันตั้งบ.!
เผยโฉม!บ.ย่านสะพานสูง คว้างาน อบจ.ชัยภูมิ 7สัญญา79ล. เป็นห้องคอนโดเก่า
เปิดที่ตั้ง!‘บ.คิวบิกโกลด์ฯ’คู่เทียบงาน อบจ. ชัยภูมิ 3สัญญา 41ล.-บ้านเดี่ยว 2ชั้น
พบ'คู่เทียบ'รายใหม่ ชิงดำงาน อบจ.ชัยภูมิ 2 สัญญา ใช้คนทำบัญชีเดียว 'ผู้ชนะ'
ชัดเลยใช้ทีมเดียวกันตั้งบ.!หลักฐานมัด คู่เทียบรายสอง ชิงงาน อบจ.ชัยภูมิ
ตั้งธงนำสอบปมฮั้ว! สตง.รับลูก'อิศรา' ลุยตรวจ อบจ.ชัยภูมิ ซื้ออุปกรณ์เรียน7สัญญา
เผยโฉม!หจก.คู่เทียบราย2 ‘อบจ.ชัยภูมิ’ เคยซุกตัวห้องชุดไร้คนอยู่-นิติฯ ตามทวงเงิน
พบหลักฐานใหม่! 'ผู้ทำบัญชี' 3 เอกชน โผล่ตั้งบริษัทเอง ร่วมชิงดำงาน อบจ.ชัยภูมิ.