สุดยอด 100 CEO ของโลกแห่งปี 2018
เมื่อดูภูมิหลังการศึกษาพบว่า ใน 100 คนมีผู้จบการศึกษา MBA 32 คน ขณะที่ 34 คนมีปริญญาทางวิศวกรรม และ CEO ถึง 87 คนเป็นลูกหม้อของบริษัท ซึ่งสามารถไต่เต้าขึ้นมาเป็น CEO ได้ ที่เหลืออีก 13 คนคือบุคคลภายนอกที่เข้ามารับตำแหน่ง โดยเฉลี่ย CEO รับตำแหน่งเมื่ออายุราว 44 ปี
เมื่อปีที่แล้วนิตยสาร Harvard Business Review ได้จัดอันดับ CEO ของโลกจำนวน 100 คน เหมือนที่เคยจัดอันดับทุกปี โดยนาย Pablo Isla CEO ของบริษัท Inditex จากประเทศสเปน เจ้าของแบรนด์ ZARA และ Massimo Dutti ฯลฯ ได้รับการจัดอับดับให้เป็น CEO ที่ดีที่สุดอันดับ 1 ของปี 2017 จากจำนวน CEO ที่ได้รับการคัดเลือกมาจำนวน 100 คน ตามด้วย CEO จากบริษัท WPP ธุรกิจโฆษณายักษ์ใหญ่จาก สหราชอาณาจักร ส่วนอันดับสามได้แก่ CEO จากบริษัท NVIDIA ซึ่งเป็นธุรกิจ IT จากสหรัฐอเมริกา รวมทั้ง CEO ของบริษัทอื่นๆอีก 97 คน
สำหรับในปีนี้นิตยสารดังกล่าวได้ทำการจัดอันดับ CEO ที่มีประสิทธิภาพในการบริหารงานดีที่สุดจำนวน 100 คน ประจำปี 2018 โดยใช้ข้อมูลดัชนีตลาดหลักทรัพย์ S&P Global 1200 ซึ่งเป็นดัชนีที่ครอบคลุมราว 70 เปอร์เซ็นต์ของมูลค่าตลาดหุ้นทั่วโลก ประกอบด้วยกลุ่มบริษัทในภูมิภาค อเมริกาเหนือ ยุโรป เอเชีย ลาตินอเมริกา และออสเตรเลีย
ในการจัดอันดับครั้งนี้มี CEO ที่เข้าข่ายการพิจารณาจำนวน 881 คน จาก 870 บริษัท ( หลายบริษัทมี CEO ร่วมกัน ) CEO ที่เข้ารับตำแหน่งน้อยกว่าสองปีหรือถูกตัดสินในความผิดคดีอาชญากรรมหรือถูกจับกุม ไม่ได้นำมาพิจารณาในการจัดอันดับด้วย
ปัจจัยในการจัดอันดับใช้วิธีพิจารณาปัจจัยผลประกอบการทางการเงินร่วมกับปัจจัยที่ไม่ใช่ผลประกอบการทางการเงิน ซึ่งได้แก่ สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environmental, Social, Governance : ESG)
ผลการจัดอันดับปรากฏว่า ผู้ที่ได้รับการจัดอันดับเป็น CEO ที่มีประสิทธิภาพในการบริหารงานดีที่สุด จำนวน 100 คน ของ นิตยสาร Harvard Business Review ประจำปี 2018 มีดังนี้ (แสดงรายละเอียดเฉพาะ 26 อันดับแรก)
อันดับที่ 1 Pablo Isla CEO ของบริษัท Inditex จากประเทศสเปน เจ้าของ แบรนด์ ZARA Massimo Dutti ฯลฯ (Pablo Isla ได้รับการจัดอันดับที่ 1 สองปีติดต่อกัน คือ อันดับ 1 ของปี 2017 และ 2018)
อันดับที่ 2 Jensen Huang CEO ของบริษัท NVIDIA ธุรกิจ IT จากสหรัฐอเมริกา(อันดับที่ 3 ของปี 2017)
อันดับที่ 3 Bernard Arnault CEO ของบริษัท LVMH เจ้าของแบรนด์หรู เช่น Louis Vuitton Dior ฯลฯ จากฝรั่งเศส ( อันดับที่ 5 ของปี 2017 )
อันดับที่ 4 Francois-Henri Pinault CEO ของบริษัท Kering เจ้าของแบรนด์ Gucci Puma ฯลฯ จากฝรั่งเศส ( อันดับที่ 23 ของปี 2017)
อันดับที่ 5 Elmar Degenhart CEO ของบริษัท Continental ธุรกิจ ยานยนต์ จากเยอรมัน (อันดับที่ 9 ของปี 2017)
อันดับที่ 6 Mark Benioff CEO ของบริษัท Saleforce.com ธุรกิจ IT จากสหรัฐอเมริกา (อันดับที่ 12 ของปี 2017)
อันดับที่ 7 Jacques Aschenbroich CEO ของบริษัท Valeo ธุรกิจผลิตอุปกรณ์ชิ้นส่วนรถยนต์ จาก ฝรั่งเศส (อันดับที่ 4 ของปี 2017)
อันดับที่ 8 Johan Thijs CEO ของบริษัท KBC ธุรกิจการเงิน จากเบลเยี่ยม (อันดับที่ 7 ของปี 2017)
อันดับที่ 9 Hisashi Ietsugu CEO ของบริษัท Sysmex ธุรกิจดูแลสุขภาพ จากญี่ปุ่น(อันดับที่ 18 ของปี 2017)
อันดับที่ 10 Martin Bouygues CEO ของบริษัท Bouygues ธุรกิจ วิศวกรรมโยธา ฯลฯ จากฝรั่งเศส (อันดับที่ 6 ของปี 2017)
อันดับที่ 11 Wes Bush CEO ของบริษัท Northrop Grumman ธุรกิจ อุตสาหกรรมอากาศยานและเทคโนโลยีทางทหาร จากสหรัฐอเมริกา (อันดับที่ 19 ของปี 2017)
อันดับที่ 12 Shantanu Narayen CEO ของบริษัท Adobe Systems ธุรกิจ IT จากสหรัฐอเมริกา (อันดับที่ 62 ของปี 2017)
อันดับที่ 13 Bernard Charles CEO ของบริษัท Dassault Systemes ธุรกิจ IT จาก ฝรั่งเศส (อันดับที่ 14 ของปี 2017)
อันดับที่ 14 Mark Parker CEO ของบริษัท Nike ธุรกิจอุปกรณ์กีฬา จากสหรัฐอเมริกา (อันดับที่ 8 ของปี 2017 )
อันดับที่ 15 Michael Mussallem CEO ของบริษัท Edwards Lifesciences ธุรกิจดูแลสุขภาพ จากสหรัฐอเมริกา (อันดับที่ 21 ของปี 2017)
อันดับที่ 16 Brad Smith CEO ของบริษัท Intuit ธุรกิจ IT จาก สหรัฐอเมริกา (อันดับที่ 63 ของปี 2017)
อันดับที่ 17 Hamid Moghadam CEO ของบริษัท Prologis ธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์ จากสหรัฐอเมริกา (อันดับที่ 43 ของปี 2017)
อันดับที่ 18 Tai-Ming “Terry” Gou CEO ของบริษัท Hon Hai Precision Industry ธุรกิจ IT จากไต้หวัน (อันดับที่ 29 ของปี 2017)
อันดับที่ 19 Fabrizio Freda CEO ของบริษัท Estee Lauder ธุรกิจเสริมความงาม จากสหรัฐอเมริกา (อันดับที่ 25 ของปี 2017)
อันดับที่ 20 Benoit Potier CEO ของบริษัท Air Liquide ธุรกิจ แก๊ส เทคโนโลยีและบริการสำหรับอุตสาหกรรม และสุขภาพ จากฝรั่งเศส (อันดับที่ 16 ของปี 2017)
อันดับที่ 21 Sergio Marchionne CEO ของบริษัท Fiat Chrysler ธุรกิจรถยนต์ จากอีตาลี (อันดับที่ 53 ของปี 2017) * พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากเสียชีวิต กรกฎาคม 2561
อันดับที่ 22 Jamie Dimon CEO ของบริษัท JP Morgan Chase ธุรกิจการเงินจากสหรัฐอเมริกา (อันดับที่ 69 ของปี 2017)
อันดับที่ 23 Paolo Rocca CEO ของบริษัท Tenaris ธุรกิจด้านพลังงานจากอาเจนตินา(อันดับที่ 29 ของปี 2017)
อันดับที่ 24 Florentino Perez Rodriguez CEO ของบริษัท ACS ธุรกิจวิศวกรรมโยธา และอุตสาหกรรม จากสเปน (อันดับที่ 10 ของปี 2017)
อันดับที่ 24 Lars Rasmussen CEO ของบริษัท Coloplast ธุรกิจดูแลสุขภาพ จาก เดนมาร์ก (อันดับที่ 15 ของปี 2017)
อันดับที่ 26 Ajay Banga CEO ของบริษัท Mastercard ธุรกิจการเงิน และ IT จากสหรัฐอเมริกา (อันดับที่ 40 ของปี 2017)
* อันดับที่ 25 ไม่มีเนื่องจากอันดับที่ 24 มีสองคน
* อันดับที่ 27-100 ดูข้อมูลได้จากเอกสารอ้างอิง
จากข้อมูลการจัดอันดับของ CEO ทั้ง 100 คน พบว่า มี CEO ผู้หญิงติดอันดับอยู่แค่ 3 คน (เพิ่มขึ้น1 คนจากปีที่แล้ว) ได้แก่ Marillyn Hewson จากบริษัท Lockheed Martin สหรัฐอเมริกา (อันดับที่ 29 ) Debra Cafaro จากบริษัท Ventas สหรัฐอเมริกา(ลำดับที่56) และ Nancy McKinstry จากบริษัท Wolters Kluwer เนเธอร์แลนด์ (ลำดับที่ 76)
อย่างไรก็ตามผู้วิจัยให้เหตุผลถึงการมีผู้หญิงจำนวนน้อยว่า เป็นเพราะจำนวน CEO หญิงที่คัดเลือกมาจากบริษัทในดัชนี S&P 1200 มีจำนวนน้อย การมีผู้หญิงเพียง 3 คน จึงมิได้มีนัยสำคัญเกี่ยวกับความสามารถของ CEO ชายกับ CEO หญิง แต่อย่างใด
เมื่อดูภูมิหลังการศึกษาพบว่า ใน 100 คนมีผู้จบการศึกษา MBA จำนวน 32 คน ขณะที่ 34 คนมีปริญญาทางวิศวกรรม และมีจำนวน CEO ถึง 87 คนที่เป็นลูกหม้อของบริษัท ซึ่งสามารถไต่เต้าขึ้นมาเป็น CEO ได้ ที่เหลืออีก 13 คนคือบุคคลภายนอกที่เข้ามารับตำแหน่ง โดยเฉลี่ย CEO รับตำแหน่งเมื่ออายุราว 44 ปีและอยู่ในบริษัทนานราว 16 ปี CEO จำนวน 20 คน บริหารงานให้กับบริษัทที่อยู่นอกบ้านเกิดของตัวเอง
ภูมิภาคที่มีจำนวน CEO ติดอันดับเรียงตามจำนวนมากน้อยได้แก่
- อเมริกาเหนือ 53 คน (สหรัฐอเมริกา 49 คน แคนาดา 4 คน )
- ยุโรป 29 คน (ฝรั่งเศส 9 คน สหราชอาณาจักร 3 คน เบลเยี่ยม 4 คน เยอรมัน 3 คน สเปน 4 คน เดนมาร์ก 1 คน อีตาลี 2 คน สวีเดน 1 คน เนเธอร์แลนด์ 1 คน และสวิสเซอร์แลนด์ 1 คน )
- เอเชีย 11 คน ( ญี่ปุ่น 5 คน ฮ่องกง 3 คน จีน 1 คน และ ไต้หวัน 2 คน )
- ลาตินอเมริกา 6 คน (เม็กซิโก 3 คน อาเจนตินา 1 คน บราซิล 1 คน และ ชิลี 1 คน)
- ออสเตรเลีย 1 คน
หมายเหตุ บางประเทศมีอันดับซ้ำกัน
เป็นที่น่าสังเกตว่า ประเทศขนาดใหญ่ในเอเชีย เช่น จีน ในปีนี้มี CEO ติดอันดับเพียงคนเดียวเหมือนกับปีที่แล้ว ขณะที่อินเดียไม่มีผู้ติดอันดับและประเทศในกลุ่มอาเซียนยังไม่มี CEO ของประเทศใดติดอันดับ
สำหรับตัว CEO และบริษัทที่มีชื่อเสียงที่คนไทยรู้จัก เช่น Satya Nadella จาก Microsoft (อันดับที่ 46) Jeffery Bezos จาก Amazon (อันดับ 68) และ Reed Hastings จาก Netflix (อันดับ83) ก็อยู่ในอันดับ 100 คน เช่นกัน
เมื่อปีที่แล้ว Jeffery Bezos แห่งบริษัท Amazon ซึ่งเป็นบริษัทที่มีผลประกอบการทางการเงินเป็นอันดับ 1 ถูกจัดอันดับ CEO อยู่ที่อันดับ 71 ส่วนในปีนี้มีอันดับดีขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย ปัจจัยที่ทำให้บริษัทที่มีผลประกอบการชั้นดีอย่าง Amazon ซึ่งมีคะแนนผลประกอบการทางการเงินอยู่ในอันดับหนึ่งตลอดหลายปีที่ผ่านมา แต่ Jeffery Bezos กลับถูกจัดให้อยู่ต่ำถึงอันดับที่ 68 เนื่องจากคะแนน สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ของ Amazon ยังอยู่ในอันดับไม่ดีนัก (คะแนน ESG จาก Sustainalytics = 829 และจาก CSRUB=824) จึงฉุดให้อันดับของ CEO ต่ำลงไปด้วยแม้ว่าจะมีผลประกอบการทางการเงินดีเพียงใดก็ตาม (CEO อันดับ 1 ของปี 2018 มีคะแนนผลประกอบการทางการเงินอันดับ 29 คะแนน ESG จาก Sustainalytics = 60 และจาก CSRHUB=128 )
การจัดอันดับของนิตยสาร Harvard Business Review แสดงให้เห็นว่า วิธีวัดความสำเร็จและความมีชื่อเสียงในการประกอบธุรกิจในปัจจุบัน นอกจากพิจารณาจากผลประกอบการทางการเงินแล้ว ยังต้องพิจารณาปัจจัยด้าน สิ่งแวดล้อม สังคมและธรรมมาภิบาล(ESG) ควบคู่กับผลประกอบการทางการเงินด้วย
อ้างอิง : Harvard Business Review, November-December 2018
อ่านประกอบ : https://www.isranews.org/isranews-article/62413-ceo.html