คำชี้แจงจาก ดวงกมล โชตะนา กับข้อกล่าวหาตกแต่งบัญชีเนชั่น?
"...เป็นเรื่องน่ายินดีที่คำกล่าวหาของผู้บริหารใหม่ของเนชั่นต่อ คณะกรรมการและผู้บริหารเก่าของเนชั่น จะได้รับการตรวจสอบโดยหน่วยงานกำกับกลางที่มีความน่าเชื่อถืออย่าง คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(กลต.) ซึ่งครั้งหนึ่งเคยตัดสินว่า บริษัทนิวส์ เน็ตเวิร์ค และพวกที่2ราย มีพฤติกรรมครอบงำกิจการเนชั่นโดยผิดกฏหมาย หลีกเลี่ยงการทำเทนเดอร์ และรายงานการได้มาซึ่งหลักทรัพย์ ดิฉันขอเรียกร้องให้กลต. แต่งตั้งผู้สอบบัญชี ที่เป็นคนกลางเร่งดำเนินการตรวจสอบ ข้อกล่าวหาเพื่อทำความกระจ่างโดยเร็วและเป็นธรรม ซึ่งดิฉันและอดีตคณะกรรมการบริหาร พร้อมที่จะให้ความร่วมมือในการให้ข้อมูลอย่างเต็มที่..."
สืบเนื่องจากบริษัทเนชั่น มัลติมีเดียกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ NMG ยื่นสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ให้ดำเนินการกล่าวโทษอดีตกรรมการและผู้บริหาร หลังพบหลักฐานงบการเงินปี 2558 ถึง 2560 อาจเข้าข่ายตกแต่งบัญชี โดยบันทึกรายได้ค้างรับเกินจริง พร้อมประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น 31 ต.ต. อนุมัติงบการเงินปี 60 (อ่านประกอบ : ยื่น ก.ล.ต. สอบ! อดีตผู้บริหารเนชั่นแจ้งงบเท็จ)
ล่าสุด น.ส.ดวงกมล โชตะนา อดีตกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เนชั่นมัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้เผยแพร่ข้อความชี้แจงข้อเท็จจริงเรื่องนี้ ว่า สืบเนื่องจากกรณีที่มี บทความของคอลัมนิสต์ในหนังสือพิมพ์ ฐานเศรษฐกิจ โดยบุคคลที่ใช้นามแฝงว่า”คุณนายเผือก” กล่าวหาว่า ดิฉันได้กระทำการร่วมมีคำสั่งให้มีการตกแต่งบัญชี
ดิฉันขอชี้แจงดังนี้
1.ดิฉัน ดวงกมล โชตะนา ทำงานในกองบรรณาธิการในเครือบริษัทเนชั่น มัลติมีเดีย มาตั้งแต่ปี 2530 และมาร่วมเป็นคณะกรรมการบริหารบริษัทฯในช่วงปี2557-59 ในสมัยที่ นายสุทธิชัย หยุ่น เป็นประธานคณะกรรมการบริหาร โดยมี บริษัทเคพีเอ็มจี ภูมิไชย (KPMG )ทำหน้าที่เป็นผู้สอบบัญชี และรับรองงบไปตามมาตรฐานมาตั้งแต่ก่อนดิฉันเข้ามาร่วมงานคณะกรรมการฯ
จนกระทั่งดิฉันพ้นหน้าที่กรรมการบริหาร ในปี2559 KPMG ก็ยังรับรองงบเรื่อยมาจนเมื่อคุณเทพชัย หย่อง เข้ามาเป็นประธานในปลายปีเดียวกัน
ดังนั้นการที่ คอลัมนิสต์ผู้ใช้นามแฝงว่าคุณนายเผือกและผู้บริหารใหม่ของเนชั่นฯ อ้างว่า KPMGพบพิรุธในการลงบัญชีงบการเงิน โดยมีผู้บริหาร 2คนสารภาพแล้ว จึงเป็นเรื่องที่ดิฉัน แปลกประหลาดใจและสงสัยเป็นอย่างยิ่งทั้งที่ก่อนหน้านี้KPMGก็ตรวจและรับรองงบมาต่อเนื่อง
ดังนั้นจึงเป็นเรื่องน่ายินดีที่คำกล่าวหาของผู้บริหารใหม่ของเนชั่นต่อ คณะกรรมการและผู้บริหารเก่าของเนชั่น จะได้รับการตรวจสอบโดยหน่วยงานกำกับกลางที่มีความน่าเชื่อถืออย่าง คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(กลต.) ซึ่งครั้งหนึ่งเคยตัดสินว่า บริษัทนิวส์ เน็ตเวิร์ค และพวกที่2ราย มีพฤติกรรมครอบงำกิจการเนชั่นโดยผิดกฏหมาย หลีกเลี่ยงการทำเทนเดอร์ และรายงานการได้มาซึ่งหลักทรัพย์
ดิฉันขอเรียกร้องให้กลต. แต่งตั้งผู้สอบบัญชี ที่เป็นคนกลางเร่งดำเนินการตรวจสอบ ข้อกล่าวหาเพื่อทำความกระจ่างโดยเร็วและเป็นธรรม ซึ่งดิฉันและอดีตคณะกรรมการบริหาร พร้อมที่จะให้ความร่วมมือในการให้ข้อมูลอย่างเต็มที่
2.ในปี 2560 ดิฉันได้เข้าโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด แต่เมื่อผู้บริหารใหม่เข้ามาได้ระงับการจ่ายเงินชดเชยโดยยกเหตุที่ว่าดิฉันอาจจะเกี่ยวพันกับข้อสงสัยในงบการเงิน ทำให้บริษัทฯเสียหาย ดิฉันได้ฟ้องร้องต่อศาลแรงงาน ในที่สุดเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาศาลฯได้มีคำพิพากษาให้ดิฉันเป็นผู้ชนะคดี
3.ดิฉันไม่เคยได้รับการติดต่อจาก ผู้สื่อข่าวหรือผู้เขียนคอลัมน์ โดยใช้นามปากกาที่ไม่ระบุชื่อชัดเจนรายนี้ ของหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง ตามที่กล่าวหาแต่อย่างใด
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจนี้ ที่เผยแพร่บทความนี้ เป็นที่เปิดเผยว่า อยู่ภายใต้การบริหารโดยกลุ่มทุนเดียวกับ ผู้บริหารบริษัทเนชั่นในปัจจุบัน ซึ่งนับว่าเป็นคู่กรณีโดยตรงและมีข้อพิพาทระหว่างผู้บริหาร/ผู้ถือหุ้นเดิม หลายคดีความด้วยกัน ดังนั้นการตีพิมพ์ บทความนี้โดยไม่เปิดโอกาสให้มีการชี้แจง จึงถือเป็นการใช้สื่อในเครือ โจมตีอย่างขาดจรรยาบรรณ สมควรที่สภาการหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยจะเข้ามาตรวจสอบพฤติกรรม ที่ขาดมาตรฐานเช่นนี้
ข้อกล่าวหา ที่คอลัมนิสต์ ฯกล่าวถึงและตีพิมพ์นี้ มีข้อเท็จจริงหลายประการ ที่อาจจะเข้าข่ายหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ตามประมวลกฏหมายอาญามาตรา 328 โดยดิฉันได้มอบหมายให้ทนายดำเนินการฟ้องร้อง ผู้บริหารสื่อในเครือฐานเศรษฐกิจและผู้เขียนบทความนี้โดยทันที และในระหว่างนี้ หากมีการใช้สื่อโจมตีอย่างไร้ความยุติธรรมนี้ ดิฉันก็จำเป็นที่จะต้องปกป้องตัวเองด้วยการดำเนินการตามกฏหมายอย่างถึงที่สุด