ยังเหลือข้าวล็อตสอง-มันเส้น! อัยการยัน ป.ป.ช. คุยจำเลยขอข้อมูลเพิ่มคดีจีทูจีทำได้
อัยการยันถ้า กก.ป.ป.ช. ติดต่อจำเลยให้ข้อมูลเพิ่มเติมเหนือคำพิพากษาสามารถทำได้ เหตุยังเหลืออีกหลายสำนวน ทั้งคดีข้าวจีทูจีล็อตสอง-มันเส้นด้วย คนละเรื่องที่ให้จำเลยซัดทอดปรักปรำคนอื่นในคดีแรกที่จบไปแล้ว – จับตาการไต่สวนลับหลัง 3 จำเลยหลบหนี
จากกรณีนายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความผู้รับมอบอำนาจจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อ้างว่า มีกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) บางราย พยายามเข้าพบจำเลยคดีระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) เพื่อให้ข้อมูลซัดทอดถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และเครือญาติ ถือว่านอกเหนือจากคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เบื้องต้นแหล่งข่าวจากสำนักงาน ป.ป.ช. ยอมรับว่า มีกรรมการ ป.ป.ช. บางรายเสนอเรื่องคดีระบายข้าวจีทูจีเข้าสู่ที่ประชุมเพื่อหารือจริงนั้น (อ่านประกอบ : รับ กก.ป.ป.ช.บางรายหยิบคดีข้าวจีทูจีหารือที่ประชุม ยันต้องทำรอบคอบ-หวั่นโยงการเมือง)
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า คดีระบายข้าวแบบจีทูจีที่อยู่ในชั้นการไต่สวนของคณะกรรมการ ป.ป.ช. มี 2 สำนวน ชี้มูลความผิดแล้ว 1 สำนวน คือกรณีซื้อขายข้าวจีทูจีกับบริษัท กวางตุ้งฯ และไห่หนานฯ รวม 4 สัญญา ระหว่างปี 2555-2556 มีผู้ถูกกล่าวหาคือนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ นายภูมิ สาระผล อดีต รมช.พาณิชย์ พร้อมด้วยอดีตข้าราชการระดับสูงในกระทรวงพาณิชย์ และเครือข่ายบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด โดยศาลฎีกาฯพิพากษาไปแล้ว
อีกคดีหนึ่งคือ กรณีการซื้อขายข้าวจีทูจีกับรัฐวิสาหกิจจีน 4 แห่ง สัญญาระหว่างปี 2556 มีนายบุญทรง พร้อมด้วยอดีตข้าราชการระดับสูงในกระทรวงพาณิชย์ และเครือข่ายบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด เป็นผู้ถูกกล่าวหา ไม่มีชื่อของนายภูมิ และคดีนี้ยังอยู่ระหว่างการไต่สวนในชั้นคณะอนุกรรมการไต่สวน ป.ป.ช.
สำหรับคดีระบายข้าวจีทูจีล็อตแรกที่ศาลฎีกาฯพิพากษาไปแล้ว ฝ่ายอัยการได้ยื่นอุทธรณ์เพื่อขอให้ลงโทษเอกชน-โรงสีข้าวรวม 7 แห่ง ที่ถูกยกฟ้องไปแล้ว ความคืบหน้าอยู่ระหว่างที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา แต่งตั้งองค์คณะเพื่อวินิจฉัยอุทธรณ์คดีดังกล่าว
เมื่อวันที่ 24 ต.ค. 2561 แหล่งข่าวระดับสูงจากสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ถึงกรณีนี้ว่า คดีในชั้นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเกี่ยวกับการระบายข้าวจีทูจี ปัจจุบันมีอยู่ 3 กรณีด้วยกัน คือ 1.กรณีอัยการอุทธรณ์ที่ยกฟ้องเอกชน-โรงสี 7 แห่ง ฝ่ายอัยการใช้พยานหลักฐานเดิมทั้งหมด ขณะนี้อยู่ระหว่างที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาตั้งองค์คณะวินิจฉัยอุทธรณ์ดังกล่าว 2.กรณีศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิจารณาลับหลังจำเลยคดีระบายข้าวจีทูจีที่หลบหนี ได้แก่ พ.ต.นพ.วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ อดีตเลขานุการ รมว.พาณิชย์ นายสุธี เชื่อมไธสง เครือข่ายบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด และน.ส.ธันยพร จันทร์สกุลพร บุตรสาวนายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือเสี่ยเปี๋ยง ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายใหม่ของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยในวันที่ 26 ต.ค. 2561 ศาลฎีกาฯนัดตรวจพยานหลักฐานแล้ว และ 3.คดีที่หน่วยงานของรัฐเป็นผู้ร้องให้พิจารณาค่าเสียหายเกี่ยวกับการระบายข้าวจีทูจี
ส่วนกรณีกระแสข่าวกรรมการ ป.ป.ช. บางราย สามารถติดต่อจำเลยเพื่อให้เบิกความซัดทอดถึงบุคคลอื่นที่อยู่นอกเหนือคำพิพากษาคดีระบายข้าวจีทูจีล็อตแรกนั้น แหล่งข่าวรายนี้ ระบุว่า ต้องเข้าใจก่อนว่าคดีเกี่ยวกับการซื้อขายแบบจีทูจี แบ่งเป็น 2 ส่วนคือ การระบายข้าวจีทูจี มี 10 สัญญา ทุจริต 8 สัญญา แบ่งเป็น 2 ล็อต ล็อตแรกศาลฎีกาฯพิพากษาไปแล้ว ล็อตหลังอยู่ระหว่างการไต่สวนในชั้น ป.ป.ช. และยังมีคดีระบายมันสำปะหลัง (มันเส้น) แบบจีทูจีที่อยู่ระหว่างไต่สวนในชั้น ป.ป.ช. อีก ดังนั้นการที่กรรมการ ป.ป.ช. ติดต่อจำเลย เป็นเรื่องของคดีล็อตหลังที่ยังค้างอยู่ในชั้น ป.ป.ช. ส่วนจำเลยจะเบิกความเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับจำเลย
“กระแสข่าวที่ออกมา ไม่ใช่เรื่องให้จำเลยมาให้การปรักปรำบุคคลอื่นที่อยู่นอกเหนือคำพิพากษาคดีจีทูจีล็อตแรก แต่ยังเหลือการไต่สวนในชั้น ป.ป.ช. ทั้งคดีมันเส้นจีทูจี คดีระบายข้าวจีทูจีล็อตใหม่ เป็นคนละเรื่องกัน เพราะคดีจีทูจีล็อตแรกจบไปแล้ว” แหล่งข่าว ระบุ
อ่านประกอบ :
ศาลฎีกาฯขยายอุทธรณ์30วันคดีจีทูจีเก๊หลังอัยการขอ เหตุลงโทษจำเลยไม่ครบ-เอกสารมาก
ไม่เอกฉันท์ยกฟ้องโรงสีคดีจีทูจีเก๊ คำวินิจฉัยองค์คณะฯชี้ซื้อต่อ‘โจ’ผิดปกติ-อัยการจ่ออุทธรณ์
‘โจ’ดีล‘วีระวุฒิ’ขาย‘สมคิด’เบิกข้าวให้!ล้วงคำวินิจฉัยองค์คณะฯทำไมต้องลงโทษโรงสีคดีจีทูจีเก๊?
เปิดหมดพฤติการณ์ผู้ถูกกล่าวหา 84 ราย พันคดีมันจีทูจีเก๊ ในสำนวนสอบป.ป.ช.
หมายเหตุ : ภาพประกอบโรงสีข้าวจาก โพสต์ทูเดย์, ภาพมันสำปะหลังจาก ไทยรัฐ