ถูกตัดงบจนไม่มีคนเสนอราคา! รองนายกเทศมนตรีอุบลฯ ยันการเมืองแรง ต้นเหตุสภาฯโดนสั่งยุบ
รองนายกเทศบาลอุบลฯ ยันเจอการเมืองทำพิษต้นเหตุสภาฯ โดนสั่งยุบ เผยเสนองบไปทีไรถูกตัดจนไม่มีคนเสนอราคา งบประมาณค้างพิจารณาทำโครงการตั้งแต่ปี 2556
สืบเนื่องจาก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ลงนามในคำสั่งยุบสภาเทศบาลนครอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 11 ต.ค.ที่ผ่านมา ภายหลังได้รับรายงานข้อเท็จจริงและความเห็นของผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ว่า สภาเทศบาลนครอุบลราชธานี ไม่ได้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ในการพิจารณาอนุมัติร่างเทศบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2556 , 2557 และ 2558 รวมถึงไม่อนุมัติให้กันเงินตามเทศบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี การจ่ายขาดเงินสะสม ทำให้เทศบาลไม่สามารถดำเนินการงานโครงการสำคัญ รวมวงเงินนับพันล้านบาท ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อประชาชนในเขตเทศบาลนครอุบลราชธานี ซึ่งเป็นผลมาจากความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างสภาเทศบาลฯ กับเทศบาลฝ่ายบริหารที่เป็นปัญหารื้อรังมายาวนาน
ขณะที่นายพิพัฒน์ นิลรัตน์ศิริกุล เลขานุการสภาเทศบาลนครอุบลราชธานี ให้สัมภาษณ์ยืนยันสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า สาเหตุที่สภาฯ ไม่อนุมัติงบประมาณให้เทศบาล เป็นเพราะเมื่อตรวจสอบแผนงานพบว่ามีการสอดแทรกบางโครงการที่ไม่เข้าข่ายและไม่มีความจำเป็นต่อการพัฒนาท้องถิ่น จนทำให้เกิดเป็นความขัดแย้งระหว่างทางฝ่ายบริหารกับฝ่ายสภาเทศบาล (อ่านประกอบ:เจอโครงการสอดไส้ไม่เป็นปย.เพียบ! เลขาฯ สภาเทศบาลอุบลฯ แจงเหตุตีตกงบ-ก่อนโดนสั่งยุบ)
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ได้ติดต่อไปยังนาย ยอดยุทธ เดชรุ่งเรือง รองนายกสภาเทศบาลนครอุบลราชธานี เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเพิ่มเติม โดยนายยงยุทธ กล่าวว่า ที่ผ่านมาการเสนอโครงการเพื่อเอางบประมาณนั้นมีการพิจารณาที่เหมาะสมอยู่แล้วตามหลักเทศบัญญัติที่กำหนดข้อบังคับและระเบียบต่างๆมากมาย ซึ่งนับตั้งแต่ปี 2556 มีการเสนอโครงการต่างๆให้ทางสภาเทศบาลเพื่อพิจารณาและอนุมัติ แต่มีโครงการจำนวนมากที่ไม่ได้รับการอนุมัติ ทั้งที่เงินเหล่านี้ถือเป็นงบประมาณของรัฐบาลที่จัดสรรให้กับท้องถิ่นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ สามารถนำมาทำประโยชน์ให้กับเมืองอุบลราชธานีได้อย่างมากมาย แต่กลับไม่ได้นำไปใช้ทำอะไร
“การไม่อนุมัติอะไรนั้น ควรจะมีสาเหตุที่เหมาะสมมากกว่านี้ ผมยกตัวอย่าง อนุมัติรถคันหนึ่งที่มีการเสนอจากการตั้งราคากลางไว้แล้วประมาณคันละ 7.8 แสนบาท ทางสภาเทศบาลเขาก็ตัดงบประมาณลงไป 5 เปอร์เซ็นต์ สุดท้ายมันก็ไม่สามารถจัดซื้อได้ สร้างเมรุใช้งบไป 3 ล้านบาท เขาก็ตัดงบไปแล้ว 5 แสนบาท พอไปประมูล สุดท้ายก็ไม่มีใครซื้อ ไม่มีใครเซ็นสัญญา ซึ่งโครงการเหล่านี้นั้นสภาเทศบาลเขาก็เสนอมาเอง มีการคำนวณเรื่องแบบ ตั้งราคากลางอะไรไว้ชัดเจน ” นายยอดยุทธกล่าว
นายยอดยุทธ ยังกล่าวต่อว่า ข้อบ่งชี้ประการหนึ่งก็คือการทำงานของสภาเทศบาลนั้นจะตัดงบออกไปก่อนทุกครั้งแล้วให้ทางฝ่ายบริหารไปชี้แจง ซึ่งการพิจารณางบประมาณนั้นตามหลักการมันเพิ่มได้ลบได้ แต่ไม่ใช่การตัดลดงบประมาณ โดยไม่คำนึงถึงรายละเอียดที่เหมาะสม
เมื่อถามต่อถึงกรณีที่ทางสภาเทศบาลฯอ้างว่า ฝ่ายบริหารได้สอดไส้โครงการที่ไม่เป็นประโยชน์เข้ามาในการพิจารณาของสภาเทศบาลด้วย นายยอดยุทธกล่าวว่า ตามความเห็นส่วนตัวแล้ว เรื่องนี้ดูจะเป็นเรื่องทางการเมือง ที่มีนักการเมืองระดับสูงเข้ามาเกี่ยวข้องเพราะว่าทางสภาเทศบาลฯกับนายกเทศมนตรีนั้นอยู่ในฝั่งการเมืองคนละขั้วกัน ก็เลยมีประเด็นนี้ขึ้นมา ซึ่งทางผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีที่พยายามเข้ามาดูในเรื่องนี้ก็ทราบเหมือนกันว่าการเมืองนั้นแรงมาก
“ผมไม่ขอวิจารณ์อะไรในเรื่องทางการเมืองเหล่านี้ เพราะผมไม่ใช่นักการเมือง ผมเป็นข้าราชการบำนาญ ชอบอะไรที่มันเป็นประโยชน์กับบ้านเมือง และมันตรงไปตรงมา ส่วนสิ่งที่ทางกระทรวงมหาดไทยเขาพิจารณายุบสภาเทศบาลดูนั้น ก็ลองคิดดูว่าตั้งแต่ปี 2556 งบที่รัฐบาลเขาให้มามันกลับติดขัด ผมว่าเหตุผลของทางกระทรวงมหาดไทยนั้นเหมาะสมอยู่แล้ว และเขาก็ให้โอกาสสภาเทศบาลมาอุทธรณ์กับศาลปกครองได้ ทุกอย่างก็ว่าไปตามขั้นตอน” นายยอดยุทธกล่าว
อ่านประกอบ:
เจอโครงการสอดไส้ไม่เป็นปย.เพียบ! เลขาฯ สภาเทศบาลอุบลฯ แจงเหตุตีตกงบ-ก่อนโดนสั่งยุบ
'อนุพงษ์' สั่งยุบสภาเทศบาลอุบลฯ ขัดแย้งฝ่ายบริหารหนักไม่อนุมัติงบทำโครงการนับพันล.