ศาลอุทธรณ์ภาค 3 ยกฟ้องคดี2อาจารย์หมิ่นฯ พนง.อัยการ-อธิการฯ ม.อุบล
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายกฟ้องคดี พนง.อัยการ-อธิการฯ ม.อุบลฯ เป็นโจทก์ร่วมฟ้อง 2 อาจารย์ หมิ่นประมาท ชี้เป็นการแสดงความเห็นข้อความโดยสุจริตเพื่อความชอบธรรม ในฐานะบุคลากรมหาวิทยาลัย
สืบเนื่องจากสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org เคยนำเสนอข่าวข้อพิพากการฟ้องร้องคดีความระหว่าง รองศาสตราจารย์นงนิตย์ ธีระวัฒนสุข อธิการบดีมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี กับบุคลากรในมหาวิทยาลัยจำนวนหลายคดี ขณะที่ในช่วงเดือนพ.ค.2561 ที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ได้ทำหนังสื่อชี้แจงถึงผลการฟ้องคดีความต่างๆ ว่าศาลมีคำพิพากษายกฟ้องและคดีถึงที่สุดแล้วทุกคดี ขณะที่ รองศาสตราจารย์นงนิตย์ ไม่มีความผิดทั้งทางอาญาและทางแพ่งแต่อย่างใดนั้น (อ่านประกอบ : เมื่อมหากาพย์คดีความอธิการบดี-บุคลากรใน ม.อุบลฯ ถึงบทสรุปแล้ว)
สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า เมื่อวันที่ 3 ต.ค.2561 รศ.ดร.สัมมนา มูลสาร ได้ทำหนังสือแจ้งผลการพิจารณาคดีที่ถูกรองศาสตราจารย์นงนิตย์ ฟ้องร้องในข้อหาหมิ่นประมาท ระบุว่า เมื่อวันที่ 25 ก.ย.2561 ศาลจังหวัดอุบลราชธานี ได้อ่านคำพิพากษาในคดีหมายเลขแดง ที่ 2045/2561 ของศาลอุทธรณ์ภาค 3 ระหว่าง พนักงานอัยการจังหวัดอุบลราชธานี และรองศาสตราจารย์นงนิตย์ ในฐานะโจทก์ กับ ผศ.ดร.กังวาน ธรรมแสง จำเลยที่ 1 และ รศ.ดร.สัมมนา มูลสาร จำเลยที่ 2
โดยศาลอุทธรณ์ภาค 3 ได้มีคำพิพากษาคดีอาญาหมายเลขแดง ที่ 733/2560 ของศาลจังหวัดอุบลราชธานีเป็นให้ยกฟ้อง โดยวินิจฉัยว่า จำเลยทั้งสอง มิได้กระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และดูหมิ่นเจ้าพนักงานแก่โจทก์ร่วม เนื่องจากเป็นการแสดงความคิดเห็นหรือข้อความโดยสุจริต เพื่อความชอบธรรม ป้องกันตนหรือป้องกันส่วนได้เสียเกี่ยวกับตนตามคลองธรรม ตามสิทธิของจำเลยทั้งสองในฐานะบุคลากรมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 329(1) (3) และเมื่อจำเลยทั้งสองมิได้กระทำความผิด จำเลยทั้งสองจึงไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ร่วม