ขุดกรุสารพัดคดีเอา‘ของหลวง’ใช้ส่วนตัว ป.ป.ช.ฟัน-ศาลสั่งคุก-ถูกไต่สวนกราวรูด
พลิกปูมสารพัดคดีผู้บริหาร-ข้าราชการ-นักการเมืองท้องถิ่นนำ ‘ของหลวง’ ไปใช้ ‘ส่วนตัว’ อยู่ระหว่างไต่สวนในชั้น ป.ป.ช. กราวรูด 23 คดี โดนฟันไปแล้ว 2 คดี ศาลสั่งคุกแล้ว 1 คดี กรณีอดีตคณบดีแพทยศาสตร์ วชิระพยาบาล เอาของหลวงใช้ในงานแต่งลูกสาว แต่รอลงอาญา 2 ปี
กรณีที่กำลังกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของสังคมอย่างร้อนแรงตอนนี้ หนีไม่พ้นกรณีศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 พิพากษาจำคุก 5 ปี นางนุสรา แสนนาม เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผอ.สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จ.เพชรบูรณ์ ใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยทุจริต เอารถยนต์ส่วนกลาง (รถยนต์ราชการ) ไปใช้ภารกิจส่วนตัว (อ่านประกอบ : ศาลอาญาคดีทุจริตฯ จำคุก 5 ปี ผอ.สถานพินิจฯ เพชรบูรณ์ เอารถหลวงใช้ส่วนตัว)
อย่างไรก็ดีก่อนหน้านี้เคยเกิดกรณีเหล่านี้ขึ้นมาแล้วหลายครั้ง และบางคดีก็ขึ้นโรงขึ้นศาลจนถูกพิพากษาจำคุกไปแล้วด้วย
มีกรณีไหนบ้าง ? สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org พลิกปูมให้ทราบกันอีกครั้ง ดังนี้
@อดีตคณบดีแพทยศาสตร์ วชิรพยาบาล
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อปี 2554 เมื่อ นพ.วันชัย เจริญโชคทวี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง คณบดีคณะแพทยศาสตร์ วชิรพยาบาล (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช) มหาวิทยาลัยในสังกัด กทม. ใช้ทรัพยากรและบุคลากรของคณะแพทยศาสตร์ ในการจัดงานแต่งงานของลูกสาวที่บ้านพักส่วนตัว รวมถึงใช้สถานที่เตรียมการจัดงานด้วย เช่น รถ เก้าอี้ โต๊ะ เครื่องเสียง อาหารสำหรับแขก
ต่อมามีผู้ร้องเรียนไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริง กระทั่งเมื่อปี 2556 คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด นพ.ชัยวัน กรณีเอานำรถยนต์ และวัสดุครุภัณฑ์ของทางราชการไปใช้ในงานสมรสของลูกสาว ผิดทางวินัยร้ายแรง และผิดทางอาญา โดยส่งสำนวนให้ผู้บังคับบัญชาลงโทษ และส่งให้อัยการสูงสุด (อสส.) ดำเนินการฟ้องต่อศาล
ศาลอาญา พิเคราะห์แล้วเห็นว่า การกระทำของ นพ.วันชัย ถือว่าทุจริตต่อตำแหน่งหน้าที่ พิพากษาจำคุก 5 ปี ปรับ 2 หมื่นบาท แต่ให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งจำคุกเหลือ 2 ปี 6 เดือน ปรับ 1 หมื่นบาท แต่จำเลยได้สำนึกผิด และชดใช้ค่าเสียหายทันที ประกอบกับเป็นแพทย์ทำคุณประโยชน์ต่อสังคม และไม่เคยต้องโทษมาก่อน โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี
@อดีตนายกเทศมนตรี ต.ทับคล้อ อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร
นายอัศม์เดช บูรนนท์ธวัฒน์ นายกเทศมนตรี ต.ทับคล้อ อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร ถูกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เข้าไปตรวจสอบพบว่า มีพฤติการณ์นำรถยนต์ส่วนกลางของเทศบาลฯ ไปใช้ในลักษณะรถส่วนตัว หรือรถประจำตำแหน่ง โดยสำนักตรวจสอบภาคพิเศษ 11 สังกัด สตง. ระบุว่า นายอัศม์เดช ใช้รถยนต์หมายเลขทะเบียน นข 1408 ซึ่งเป็นรถยนต์ส่วนกลางไปใช้ ประกอบกับการให้ถ้อยคำของนายอัศม์เดช ระบุว่า ในการใช้รถยนต์ส่วนกลางของเทศบาลฯ มิได้มีการวางระบบให้ถูกต้องตามระเบียบตั้งแต่แรก พฤติการณ์ดังกล่าวจึงเป็นการจงใจละเลยไม่ปฏิบัติตามระเบียบกฎหมาย
เบื้องต้น สตง. ได้ส่งรายงานผลการตรวจสอบดังกล่าวแก่กระทรวงมหาดไทย และผู้ว่าราชการ จ.พิจิตร รับทราบแล้ว แต่ปัจจุบันมีการพิจารณาลงโทษแล้วหรือไม่ ยังไม่มีข้อมูล
@อดีตนายกเทศมนตรี ต.ลาดบัวขาว อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา
นายธีระศักดิ์ แดงจันทึก เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรี ต.ลาดบัวขาว อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด กรณีใช้รถยนต์ของเทศบาล ต.ลาดบัวขาว ออกนอกเส้นทาง หรือออกนอกเขต จ.นครราชสีมา อีกทั้งมีการเบิกจ่ายค่าน้ำมันเชื้อเพลิงของเทศบาลฯ และไม่ปฏิบัติตามระเบียบการใช้รถเพื่อประโยชน์ส่วนตัวและพวกพ้อง และกรณีทุจริตเบิกเงินค่าใช้จ่ายเป็นค่ารถโดยสารประจำทาง และค่าเหมารถรับจ้าง เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ มีความผิดทางวินัย และผิดทางอาญา โดยส่งสำนวนให้กับผู้บังคับบัญชาเพื่อถอดถอน และส่ง อสส. เพื่อฟ้องต่อศาลแล้ว แต่ปัจจุบันไม่มีข้อมูลว่ามีการลงโทษไปแล้วหรือไม่
@23 ผู้บริหาร-ข้าราชการท้องถิ่น ถูกไต่สวนในชั้น ป.ป.ช.
1.ผู้บริหารระดับสูงเทศบาล ต.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ ถูกกล่าวหา นำรถยนต์ของทางราชการไปใช้นอกเวลาราชการ และนำไปใช้ส่วนตัว
2.ผู้บริหารระดับสูงองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) วังทอง จ.พิษณุโลก ถูกกล่าวหา นำรถยนต์ส่วนกลางของทางราชการไปใช้ส่วนตัว และนำรถยนต์และเครื่องจักรของทางราชการไปขนดินจากที่ดินสาธารณะหนองชะโด ไปใช้ส่วนตัว รวมถึงให้ลูกจ้างของ อบต.วังทอง ไปทำงานที่บ้านของผู้ถูกกล่าวหาในเวลาราชการ และนำรถบริการน้ำของ อบต.วังทอง ไปขนน้ำประปามาใช้ส่วนตัว
3.ผู้บริหารระดับสูงมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ถูกกล่าวหา ทุจริตได้รับเงินค่าตอบแทนเหมาจ่ายแทนการจัดหารถประจำตำแหน่งอธิการบดี เดือนละ 31,800 บาท ตามงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2555 - 2557 แล้ว กลับนำรถยนต์ส่วนกลาง หมายเลขทะเบียน กพ 517 ไปใช้ส่วนตัวโดยให้เจ้าหน้าที่บริหารงานทั่วไป กองกลาง สำนักงานอธิบการบดีเป็นผู้ขออนุญาต และให้เจ้าหน้าที่เป็นพนักงานขับรถ
4.ผู้บริหารระดับสูง อบต.สำโรงตาเจ็น จ.ศรีสะเกษ ถูกกล่าวหา นำเอารถยนต์ส่วนกลางของ อบต.สำโรงตาเจ็น มาใช้ส่วนตัว และเมื่อรถยนต์ดังกล่าวประสบอุบัติเหตุ จนไม่สามารถใช้งานได้เป็นเวลา 6 เดือน ปรากฎว่าผู้ถูกกล่าวหาได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน แล้วดำเนินการต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือผู้กระทำผิดมิให้ถูกลงโทษ และนำงบประมาณของทางราชการมาใช้ในการซ่อมรถยนต์ดังกล่าว
5.ผู้บริหารระดับสูงเทศบาลตำบลพิชัย จ.ลำปาง ถูกกล่าวหาว่า นำรถยนต์ส่วนกลางหมายเลขทะเบียน กจ 4800 ลำปาง ของเทศบาลตำบลพิชัยไปใช้ส่วนตัว และนำไปจอดไว้ที่บ้านของตนเองตลอดเวลา
6.ผู้บริหารระดับสูงและเจ้าหน้าที่ ศูนย์พัฒนาสังคม หน่วยที่ 69 จังหวัดหนองบัวลำภู ถูกกล่าวหา นำรถยนต์ และน้ำมันเชื้อเพลิงของทางราชการไปใช้ส่วนตัว
7.ผู้บริหารระดับสูงเทศบาลตำบลหมูสี จ.นครราชสีมา ถูกกล่าวหา ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ในการเสนอญัตติขออนุมัติโอนงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2552 ของเทศบาลตำบลหมูสี ในการประชุมสภาเทศบาลฯ สมัยสามัญ สมัยที่ 2 ประจำปี 2552 เมื่อวันที่ 14 พ.ค. 52 โดยหลังจากที่สภาเทศบาลฯ ได้มีมติ เห็นชอบการโอนลดงบประมาณ จำนวน 8 โครงการ เพื่อโอนเพิ่มเป็นค่าจัดซื้อรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ปรากฏว่า ผู้ถูกกล่าวหา ได้แก้ไขรายงานการประชุมในการโอนลดงบประมาณดังกล่าว ไม่ตรงกับที่สภาเทศบาลฯ ได้ให้ความเห็นชอบ แล้วเสนอรายงานการประชุม ที่แก้ไขดังกล่าวให้นายอำเภอปากช่องพิจารณา และนำเงินโอนงบประมาณที่เพิ่มขึ้นไปสมทบกับเงินงบประมาณที่ตั้งไว้จัดซื้อรถยนต์ส่วนกลาง จำนวน 900,000 บาท นำไปจัดซื้อรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ วงเงิน 1,290,000 บาท และโดยนำรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ส่วนกลาง หมายเลขทะเบียน กย 2450 นครราชสีมา ไปใช้ส่วนตัว และเบิกจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง จากทางราชการ
8.ผู้บริหารระดับสูง อบต.ระบำ จ.ระยอง ถูกกล่าวหา นำรถยนต์ส่วนกลาง หมายเลขทะเบียน ตค 4370 อุทัยธานี ไปใช้ส่วนตัว โดยเบิกค่าซ่อมแซม และค่าน้ำมันเชื้อเพลิงจาก อบต.ระบำ และนำรถแบ็คโฮ และรถเกรดเดอร์ไปใช้ส่วนตัว และเบิกจ่ายค่าน้ำมันเชื้อเพลิงอันเป็นเท็จ
9.ผู้บริหารระดับสูง อบต.ศาลาลัย จ.ประจวบคีรีขันธ์ ถูกกล่าวหา นำรถยนต์ส่วนกลางไปใช้ส่วนตัว โดยไม่มีการขออนุญาตใช้รถ และเก็บรักษาไว้ที่บ้านพัก
10.ผู้บริหารระดับสูง อบต.คู้ยายหมี จ.ฉะเชิงเทรา ถูกกล่าวหา นำรถยนต์ ยี่ห้อฟอร์ด สีดำ 4 ประตู ส่วนกลาง หมายเลขทะเบียน กง 8264 ฉะเชิงเทรา ที่ไม่ติดตราของ อบต.คู้ยายหมี ไปใช้ส่วนตัว นอกเวลาราชการ โดยใช้น้ำมันเชื้อเพลิงของทางราชการ
11.ผู้บริหารระดับสูงเทศบาลตำบลนกออก จ.นครราชสีมา ถูกกล่าวหา นำรถยนต์โตโยต้าวีโก้ สี่ประตู สีบรอนด์เงิน หมายเลขทะเบียน กย 5705 นครราชสีมา ซึ่งเป็นรถยนต์ ส่วนกลาง มาใช้ส่วนตัวนอกเวลาราชการ และจอดเก็บที่ บ้านพักตนเอง
12.ผู้บริหารระดับสูง อบต.เสือโก้ก จ.มหาสารคาม ถูกกล่าวหา นำรถยนต์ส่วนกลางของ อบต.ไปใช้ส่วนตัวนอกเวลา ราชการ เช่น ไปดื่มเหล้าตามร้านค้าต่าง ๆ อีกทั้ง ได้ขับรถยนต์ไปชนต้นไม้ ทำให้รถยนต์เสียหาย
13.ผู้บริหารระดับสูง เทศบาลตำบลปากนคร จ.นครศรีธรรมราช ถูกกล่าวหา นำรถยนต์ หมายเลขทะเบียน กต 8254 นครศรีธรรมราช ของเทศบาลฯ ไปใช้ส่วนตัวนอกเวลาราชการ อีกทั้งเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ผู้ถูกกล่าวหาได้นำรถยนต์ดังกล่าวไปซ่อม โดยไม่มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนตามระเบียบแต่อย่างใด
14.อดีตเกษตรจังหวัดเลย ถูกกล่าวหา นำรถยนต์ราชการ ทะเบียน กค 856 เลย ไปใช้ส่วนตัว และเบิกจ่ายค่าเบี้ยเลี้ยงพนักงานขับรถยนต์ ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง และค่าเบี้ยเลี้ยงของตนเองโดยมิชอบ
15.ผู้บริหารระดับสูงสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดชลบุรี และเจ้าหน้าที่ ถูกกล่าวหานำรถยนต์ส่วนกลางไปใช้ส่วนตัว
16.ผู้บริหารระดับสูงเทศบาลตำบลหัวนา จ.อุบลราชธานี ถูกกล่าวหา นำรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า ของทางราชการไปให้ภรรยาใช้ส่วนตัว และเบิกจ่ายเงินค่าซ่อมรถดังกล่าวในระหว่างที่นำรถไปใช้
17.หัวหน้าหมวดการทางอรัญประเทศที่ 2 กระทรวงคมนาคม ถูกกล่าวหา นำรถยนต์ของทางราชการไปใช้ส่วนตัว และเบิกจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงของทางราชการไปเติมรถยนต์ส่วนตัว
18.หัวหน้าสถานีอนามัยตำบลเขาชะงุ้ม จ.ราชบุรี ถูกกล่าวหา นำทรัพย์สินของทางราชการ เช่น รถยนต์ รถจักรยานยนต์และคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค ไปใช้ส่วนตัว
19.ผู้บัญชาการเรือนจำ (เจ้าหน้าที่บริหารงานราชทัณฑ์ 8) ถูกกล่าวหา นำรถยนต์ส่วนกลาง หมายเลขทะเบียน กข 9750 บุรีรัมย์ ไปใช้ส่วนตัว โดยใช้น้ำมันเชื้อเพลิงของทางราชการ
20.ผู้อำนวยการสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ ถูกกล่าวหา นำรถยนต์และน้ำมันเชื้อเพลิงของทางราชการไปใช้ส่วนตัว
21.ผู้บริหารระดับสูงเทศบาลตำบลบ้านโตนด จ.สุโขทัย ถูกกล่าวหานำรถฟอร์ด 4 ประตู หมรเลขทะเบียน กข 8220 ของเทศบาลตำบลบ้านโตนด ไปใช้ส่วนตัว และเมื่อวันที่ 15 ธ.ค.50 ได้นำไปใช้ส่วนตัวจนประสบอุบัติเหตุ แต่ได้ปกปิดความผิด โดยแอบนำไปซ่อม
22.ผู้บริหารระดับสูงเทศบาลตำบลสังคม จ.หนองคาย ถูกกล่าวหานำรถยนต์และน้ำมันเชื้อเพลิงของทางราชการไปใช้ส่วนตัว
23.ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดสุทธิวราราม ถูกกล่าวหา นำรถของโรงเรียนไปใช้ส่วนตัว ไม่อยู่ปฏิบัติหน้าที่ที่โรงเรียน ใช้เงินนอกระบบของโรงเรียนไปจ้างผู้เชี่ยวชาญทำผลงาน เพื่อเลื่อนระดับเป็น ซี 10 และเรียกรับเงินจากการฝากเด็กนักเรียนเข้าชั้น ม.1
นี่คือข้อมูลเบื้องต้นที่อาจเรียกได้ว่า ‘ส่วนยอด’ ของภูเขาน้ำแข็งเท่านั้น เชื่อได้ว่าจำนวนที่แท้จริงของบรรดาข้าราชการ-นักการเมือง-ผู้บริหารที่นำ ‘ของหลวง’ ไปใช้ ‘ส่วนตัว’ น่าจะมีมากกว่านี้อีกเยอะ
ประเด็นที่น่าสนใจคือ บางคดีที่อยู่ระหว่างการไต่สวนในชั้น ป.ป.ช. ถูกกล่าวหามาตั้งแต่หลายปีก่อน แต่ปัจจุบันผ่านมานับสิบปีแล้ว ยังไม่มีการแถลงผลความคืบหน้าคดีดังกล่าวให้แก่สาธารณชนรับทราบเลย ทำให้ยังไม่รู้ว่า ตกลงคดีเหล่านี้ถึงที่สุดแล้วหรือยัง และผู้ถูกกล่าวหากระทำความผิดจริงหรือไม่ ?