"ปลอดภัย-ไม่สองมาตรฐาน" ความต้องการไทยพุทธชายแดนใต้
แม่ทัพภาคที่ 4 ประเดิมงานแรก เดินสายเยี่ยมพระสงฆ์และพี่น้องชาวไทยพุทธทั้งสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะสร้างสันติสุขในพื้นที่
สถานที่ที่ พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 คนใหม่ เดินทางไปนมัสการพระสงฆ์และพบปะพูดคุยกับกลุ่มคนที่นับถือศาสนาพุทธ คือ ที่วัดเมืองยะลา จ.ยะลา วัดประชุมชลธารา อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส และ วัดมุจลินทวาปีวิหาร หรือวัดตุยง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี
ประเด็นที่พระและพี่น้องไทยพุทธเสนอให้แก้ไข และแสดงความกังวลต่อแม่ทัพภาคที่ 4 มีคล้ายๆ กัน คือ การสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน โดยเฉพาะชุมชนไทยพุทธซึ่งตกเป็นเป้าความรุนแรง, ลดความหวาดระแวงระหว่างคนต่างศาสนา, สนับสนุนความเข้มแข็งของวัดและชุมชน รวมทั้งการสนับสนุนความเข้มแข็งและการดำเนินงานของกองกำลังภาคประชาชน เช่น อรบ. หรือราษฎรอาสารักษาหมู่บ้าน
ที่ จ.ยะลา มีการพูดคุยแสดงความคิดเห็นค่อนข้างหลักหลาย ประชาชนบางรายเสนอว่า ทุกวันนี้ยังมีการปฏิบัติสองมาตรฐาน จะทำอย่างไรไม่ให้ล้ำเส้นระหว่างกัน เพราะเมื่อพูดเรื่องศาสนา ก็จะกลายเป็นการแบ่งแยก ทั้งๆ ที่อยากให้มีความเท่าเทียมกัน เช่น ครัวในโรงพยาบาล น่าจะมีครัวพุทธด้วย
อีกเรื่องหนึ่งที่มีคนฝากให้แม่ทัพภาคที่ 4 จัดการ คือ การทุจริตในหน่วยงานรัฐบางแห่ง โดยเฉพาะงบประมาณที่ควรจะถูกส่งถึงมือประชาชน
ก่อนหน้านั้น เมื่อวันอาทิตย์ที่ 30 ก.ย. ในโอกาสเตรียมเข้ารับตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 4 พล.ท.พรศักดิ์ ได้เข้าเยี่ยมคารวะ นายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี พร้อมเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจัง จะขจัดทั้งผู้เสพและผู้ค้าโดยไม่มียกเว้น หากเจ้าหน้าที่รัฐมีส่วนเกี่ยวข้องจะดำเนินการอย่างเฉียบขาด โดยการทำงานจะเน้นแนวทางสันติวิธีและใช้กฎหมายเป็นหลัก นอกจากนั้นจะใช้ "ศูนย์ปฏิบัติการอำเภอ" หรือ "ศปก.อำเภอ" เป็นศูนย์กลางในการกระจายการแก้ไขปัญหาลงสู่ตำบล หมู่บ้าน โดยเจ้าหน้าที่จะปฏิบัติหน้าที่ตลอด 24 ชั่วโมง
แม่ทัพภาคที่ 4 คนใหม่บอกตอนหนึ่งว่า "ถ้าพื้นที่ไม่สงบ ยาเสพติดไม่หมด เราจะพัฒนาพื้นที่ ได้อย่างไร"
-------------------------------------------------------------------------------------------------
อ่านประกอบ : ลุยปราบยา 7,000 เป้าหมาย - รื้อระบบลาดตระเวนใหม่...ดับไฟใต้สไตล์ "บิ๊กเดฟ"