กรณี TUCL: เมื่อจินตนาการอยู่เหนือข้อเท็จจริง
ขออภัยที่ผมต้องขอขัดจังหวะและชวนทุกท่านหยุดไม่ไปตามกระแส หันมามองและเข้าใจภาพที่เห็นตามความเป็นจริง หยุดใช้จินตนาการเกินเลยไปกว่าสิ่งที่ปรากฎตรงหน้า “ข้อเท็จจริงเรื่องนี้มีแต่เพียงว่านักศึกษาเผยแพร่ภาพ Headshot ที่ไม่ผิดมาตรฐานทางกฎหมายหรือศีลธรรมจรรยา เพื่อเป็นการโปรโหมดกิจกรรมของ TUCL” สิ่งที่ท่านเห็นจะถูกจริตหรือต้องรสนิยมของท่านหรือไม่ก็เรื่องหนึ่ง ท่านจะนำภาพที่เห็นไปผสมกับจินตนาการของท่านก็ไม่ว่า แต่จะใช้จินตนาการมาเป็นฐานในการวิจารณ์โดยไม่ให้เกียรติกับศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของนักศึกษา และเกินเลยไปกว่าข้อเท็จจริงก็ไม่ใช่เรื่องที่สมควรกระทำเป็นอย่างยิ่ง
ผมเพ่งมองภาพของ TUCL ซ้ำ ๆ หลายครั้งก็เห็นแต่เพียงภาพ Headshot ที่ปรากฏศรีษะใบหน้าลำคอ และอกด้านบนเล็กน้อยที่ไม่ใกล้เนินอกด้วยซ้ำไป ผมจึงไม่สามารถเข้าใจกระแสเสียงวิพากษ์วิจารณ์ทั้งหลาย เพราะไม่ว่าจะด้วยมาตรฐานทางกฎหมายหรือศีลธรรมจรรยาใด ๆ ภาพเหล่านั้นก็ไม่ใกล้เคียง “ภาพโป๊ เปลือย” อย่างที่พูดกันแม้แต่น้อย
เมื่อได้อ่านข้อวิจารณ์ครั้งแรกยังเข้าใจว่านักศึกษา “ปั้นแต่ง" เรื่องขำ ๆ ให้เป็นกระแสตามประสา การสร้าง Viral ในโลกออนไลน์ แต่ปรากฏว่ากลายเป็นเสียงวิจารณ์จริงจังที่ส่วนใหญ่เกินเลยไปจากข้อเท็จจริงที่ปรากฏ บ้างก็ใช้ถ้อยคำเสียดสีเปรียบเปรยไปในทางขายบริการทางเพศซึ่งถือเป็นการหมิ่นศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ทั้งของนักศึกษา และของคนที่อยู่อาศัยในพื้นที่บางย่านของกทม. บ้างก็ไปหยิบยกเอารูปท่านผู้ประศาสน์การมาใช้โดยส่อเจตนาสร้างความรู้สึกย้อนแย้งและติดลบกับนักศึกษา บ้างก็ถึงขั้นว่าทำให้มหาวิทยาลัยตกต่ำ บ้างก็เลยเถิดไปว่าเป็นการแสดงออกของเจนเนอเรชั่นใหม่ๆที่จะทำลายวัฒนธรรมอันดีงามของประเทศ
ขออภัยที่ผมต้องขอขัดจังหวะและชวนทุกท่านหยุดไม่ไปตามกระแส หันมามองและเข้าใจภาพที่เห็นตามความเป็นจริง หยุดใช้จินตนาการเกินเลยไปกว่าสิ่งที่ปรากฎตรงหน้า “ข้อเท็จจริงเรื่องนี้มีแต่เพียงว่านักศึกษาเผยแพร่ภาพ Headshot ที่ไม่ผิดมาตรฐานทางกฎหมายหรือศีลธรรมจรรยา เพื่อเป็นการโปรโหมดกิจกรรมของ TUCL” สิ่งที่ท่านเห็นจะถูกจริตหรือต้องรสนิยมของท่านหรือไม่ก็เรื่องหนึ่ง ท่านจะนำภาพที่เห็นไปผสมกับจินตนาการของท่านก็ไม่ว่า แต่จะใช้จินตนาการมาเป็นฐานในการวิจารณ์โดยไม่ให้เกียรติกับศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของนักศึกษา และเกินเลยไปกว่าข้อเท็จจริงก็ไม่ใช่เรื่องที่สมควรกระทำเป็นอย่างยิ่ง
อย่างไรก็ตาม แม้นักศึกษาจะช่วยกันดูอย่างรอบคอบดีแล้วว่าภาพที่เผยแพร่อยู่ใน Safe Zone ที่ไม่ผิดกฎหมาย หรือศีลธรรม แต่เรื่องนี้ถือเป็นบทเรียนสำคัญของการสื่อสารในโลกที่ประกอบไปด้วยคนหลากหลายเจนเนอเรชั่นที่มีช่องว่างทางความคิด ความเชื่อ ค่านิยม และพฤติกรรมที่แตกต่างกันอย่างมโหฬาร ถือเป็นบททดสอบความกล้าหาญที่เลือกทำในสิ่งที่อาจเข้าใกล้เส้นแบ่งแห่งความควร-ไม่ควรในสายตาของคนที่หลากหลายในสังคม และเป็นบททดสอบความอดทนยืนหยัดเมื่อเห็นว่าสิ่งที่ทำนั้นไม่ใช่สิ่งผิด ซึ่งก็ถือเป็นส่วนหนึ่งของการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีทั้งเรื่องที่ต้องต่อสู้ยืนหยัด และเรื่องที่ต้องปรับตัวให้เข้ากับสังคมที่เราเลือกจะเป็นส่วนหนึ่งในสังคมนั้น ผมขอยกคำของท่านศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย แห่งคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชีมาเป็นกำลังใจให้กับนักศึกษา “สิ่งที่ถูกคือถูก แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น สิ่งที่ผิดคือผิด แม้ทุกคนทำสิ่งนั้น” คนที่ไม่ได้ทำอะไรผิด ต่อให้ทุกคนหันมารุมด่าว่าให้เสียหาย แม้มีคนคล้อยตามมากเท่าไหร่ ก็ไม่อาจทำให้สิ่งที่ถูกกลายเป็นสิ่งที่ผิดได้
เหนือสิ่งอื่นใด ผมคิดว่านี่เป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ของเสรีภาพในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ของเราว่ายังมีพื้นที่ให้กับการแสดงออกของนักศึกษาที่แม้ว่าจะไม่ต้องตามจริตของคนทั่วไปหรือไม่