คืบหน้าแจง ACT ปมสารเคมี ‘วิวัฒน์’ คาดอยู่ระหว่างอธิบดีกรมวิชาการเกษตรดำเนินการ
อ.ยักษ์-วิวัฒน์ รมช.กษ. เผยยังไม่ทราบคืบหน้า หนังสือชี้แจงกลับองค์กรต้านโกง ปมยกเลิกสารเคมีพิษ หลัง ‘กฤษฎา’ สั่งการ คาดอยู่ระหว่างอธิบดีกรมวิชาการเกษตรดำเนินการ หนุนปลุกพลังคนรุ่นใหม่ขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์
วันที่ 16 ก.ย. 2561 ที่ลานเซ็นทรัลคอร์ต ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ นายวิวัฒน์ ศัลยกำธร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (รมช.กษ.) เปิดเผยภายหลังร่วมเสวนาในหัวข้อ “Good society สังคมดี ต้องไม่มีสารพิษ” จัดโดยมูลนิธิเพื่อคนไทย และภาคีเครือข่าย ถึงความคืบหน้าการดำเนินการทำหนังสือชี้แจงองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) หรือ Anti-Corruption Organization of Thailand:ACT เกี่ยวกับสารเคมีทางการเกษตร พาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซต ตามที่นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (รมว.กษ.) สั่งการไว้
(อ่านประกอบ:กฤษฎา บุญราช สั่งตอบคำถามองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน เรื่องสารเคมีทางการเกษตร)
นายวิวัฒน์ กล่าวว่า รมว.กษ.เอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้ แต่เบื้องต้นยังไม่ทราบความคืบหน้า ซึ่งรายละเอียดน่าจะอยู่ระหว่างที่อธิบดีกรมวิชาการเกษตรดำเนินการ จากนั้นก็จะแจ้งให้รมว.กษ. ทราบอีกครั้งหนึ่ง อย่างไรก็ตาม กระทรวงเกษตรฯ ได้ขับเคลื่อนการทำเกษตรอินทรีย์ ซึ่งเรามีประสบการณ์ตรงในเรื่องนี้ และยืนยันว่า การทำเกษตรอินทรีย์สามารถให้ผลผลิตสูงขึ้นกว่าเดิม ดังนั้นที่ระบุให้ผลผลิตต่ำ จึงไม่เป็นความจริง
“เรายืนยัน เพราะทำมาแล้ว เพียงแต่ไม่มีความรู้ทางวิชาการในการนำเสนอ ดังนั้น จึงต้องแต่งตั้งคณะกรรมการวิชาการ โดยมีที่ปรึกษาจบด้านเกษตรมาทำงาน เพื่อช่วยอธิบายเป็นวิทยาศาสตร์”
ส่วนที่กล่าวว่า ต่อไปจะเลิกหวังกับคนรุ่นเก่าในการลดใช้สารเคมีพิษนั้น รมช.กษ. ระบุว่า อย่าไปคาดหวังกับคนรุ่นเก่ามากนัก เพราะเปลี่ยนพฤติกรรมยากแล้ว ไม้แก่ดัดยาก ดังนั้น จะสร้างชาติ สร้างแผ่นดิน ให้ปราศจากสารพิษทุกชนิดได้ ต้องเอาจริงเอาจังกับคนรุ่นใหม่ ทั้งนี้ ต้องใช้ระยะเวลา เพราะไม่เชื่อว่า จะแก้ปัญหาได้ภายใน 1-2 ปี จึงต้องผลักดันกันอย่างเต็มกำลัง
“พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงงานมา 70 ปี ซึ่งพระองค์ฝากว่า งานยังไม่เสร็จ แม้จะประสบความสำเร็จ แต่ยังต้องสานต่อ ต้องอดทนทำ เศรษฐกิจพอเพียงและทฤษฎีใหม่จะทำให้ประเทศเจริญรุ่งเรืองได้ แต่ต้องมีความเพียร อดทน ไม่พูดมาก ไม่ทะเลาะกัน หากมีความเพียรและสามัคคีกันจะทำให้บ้านเมืองเจริญและมั่นคงยั่งยืนได้” นายวิวัฒน์ กล่าวในที่สุด