โกงสัญชาติไทย
วันนี้คนต่างชาติสามารถหาซื้อบัตรประชาชนและทะเบียนบ้าน ‘ของแท้’ ใบต่างด้าว วีซ่าทำงาน จนมีสิทธิ์ซื้อบ้านซื้อคอนโดได้หากจ่ายเงิน 1 - 3 แสนบาท จึงไม่แปลกอะไรที่เราจะพบเห็นการอยู่อาศัยรวมตัวกันของคนแขกขาวแถวนานาเหนือ คนจีนคนอุยกูร์แถวสาทรบางรัก คนเวียดนามที่รังสิต รวมทั้งมีคนอินเดีย ปากีสถาน เกาหลี ฝรั่งผิวขาว แอฟริกันผิวดำ ที่อาศัยใน กทม. และเมืองท่องเที่ยวทั่วประเทศ
นายอุดม จวง นายกสมาคมการค้าสัมพันธ์ ไทยจีน ถูกจับกรณีเป็นชาวต่างชาติสวมบัตรประชาชนสัญชาติไทย
คนเหล่านี้จะทำสารพัดวิธีรวมถึง ‘ติดสินบน’ เพื่อให้ได้สัญชาติไทย บัตรประชาชน บัตรคนต่างด้าวหรือวีซ่าที่ทำให้สามารถอยู่อาศัย หากินและซื้อทรัพย์สินในเมืองไทย ด้วยความร่วมมือของกลุ่มข้าราชการขี้โกงและมักง่ายกับเครือข่ายมาเฟียหรือกลุ่มธุรกิจสีดำ ที่วิ่งเต้นให้มีการออกเอกสาร ‘ถูกกฎหมาย’ โดยใช้เอกสารปลอม สวมสิทธิ์ หรือมีพฤติกรรมหลอกลวงเป็นเท็จ
โดยทั่วไปคนต่างชาติอาจได้สัญชาติไทย สิทธิ์อยู่อาศัยและทำงานตามเงื่อนไขของกฎหมายหลายประการ ในที่นี้ขอรวมเป็น 4 กลุ่มหลัก คือ ครอบครัว ประกอบธุรกิจ ทำงาน และการศึกษา
1. การอ้างความเป็นครอบครัว เช่น สวมทะเบียนคนตาย อ้างว่าตกสำรวจ แจ้งเด็กเกิดโดยคนไทยรับสมอ้างเป็นพ่อแม่ ปลอมแปลงเอกสารแจ้งเกิด คนไทยเอาชื่อคนในครอบครัวที่อยู่ต่างประเทศไปขายจากนั้นก็เอาเงินประกันสังคมหรือสวัสดิการจากรัฐอีกต่อ ปลอมแปลงเอกสารการตรวจดีเอ็นเอ เป็นต้น
การจดทะเบียนสมรสหลอกๆ กับคนไทย กำลังนิยมทำกันในหมู่ชาวอินเดียและปากีสถาน เห็นได้จากข่าวกวาดจับของตำรวจและมีคดีเข้าสู่ ป.ป.ท. จำนวนมาก เช่น ช่วงปี 2554 - 2556 พบว่าที่สระบุรีมีการใช้บัตรประชาชนหญิงไทยไปจดทะเบียนสมรสมากถึงกว่า 2 พันราย ยังมีที่ อ.โนนสังข์ 611 ราย ในปี 2560 ที่ อ.บางเลน นครปฐม พบมากกว่า 700 ราย มีทั้งที่ถูกแอบอ้างและเจ้าตัวรู้เห็น ผ่านนายหน้าในท้องที่อีกทอดหนึ่ง โดยการจดทะเบียนหลอกๆ นี้ จะถูกหย่าร้างภายในไม่กี่วัน หลังจากคนต่างชาตินำทะเบียนสมรสไปเดินเรื่องของตนแล้ว
2. การทำงาน คือเป็นลูกจ้างพนักงานตามโรงเรียน โรงแรม ภัตตาคารและบริษัทต่างๆ ที่พบบ่อย คือ ครูสอนภาษา สอนดำน้ำ สอนคอมพิวเตอร์ แต่ส่วนหนึ่งไม่ได้ทำจริงเพียงแต่ให้สถานประกอบการออกเอกสารรับรองให้ นอกจากนี้ยังมีคนถือขอวีซ่านักท่องเที่ยวแต่แอบทำงาน วิธีนี้ทำให้นายจ้างจ่ายค่าแรงถูกลง แต่มักต้องแลกกับการจ่ายส่วยให้กับเจ้าหน้าที่ที่พบเห็นการกระทำ
3. การศึกษา คือทำวีซ่ามาเรียนหนังสือแต่ไม่ได้เรียนจริง กรณีนี้พบว่า มีนายหน้าจัดหาสถานที่เรียนให้โดยไม่ต้องเข้าเรียนได้ค่าจ้างประมาณหมื่นห้าพันบาท บางรายจ่ายแพงหน่อยยังได้ปริญญาบัตรติดมือกลับไปด้วย
4. การประกอบธุรกิจ เรื่องนี้กำลังลุกลามมาก ยิ่งมีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นอย่างกรณีเรือท่องเที่ยวล่มที่ภูเก็ต บริษัทนำเข้าขยะอิเล็คทรอนิกส์และร้านหมูกะทะเวียดนาม ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า ทำไมจึงปล่อยให้คนเหล่านี้มาใช้ทรัพยากรของเรา กอบโกยเงินทองโดยไม่คำนึงถึงศักดิ์ศรีและความเสื่อมโทรมเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับประเทศไทย เกิดเป็นกลุ่มแก๊งค์มาเฟียตามจังหวัดท่องเที่ยว ตั้งนอมินีทำธุรกิจผิดกฎหมาย ขายของปลอม ผูกขาด จนน่ากังวลว่าคนเหล่านี้อาจเป็นภัยร้ายต่อความสงบสุข สังคมและเศรษฐกิจไทยได้ตลอดเวลา
จังหวัดที่พบพฤติกรรมเหล่านี้มากมักเป็นเมืองท่องเที่ยว หรือจังหวัดที่อยู่ติดกับเมืองใหญ่ เช่น สมุทรปราการ สมุทรสาคร สระแก้ว นครปฐม พังงา ขอนแก่น อุดร ลพบุรี และเชียงราย เพื่อมิให้ตกเป็นเป้าหมายในการตรวจสอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมากนัก เว้นแต่จังหวัดใดที่นักการเมืองย่ามใจว่าตนมีอำนาจ อิทธิพลและสายสัมพันธ์เหนือกลไกการตรวจสอบ ก็จะลงมืออย่างไม่เกรงกลัว ดังที่พบในเชียงใหม่ และ กทม. บางเขต
หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องมีตั้งแต่ กรมการปกครอง กทม. กำนันผู้ใหญ่บ้าน อปท. ตรวจคนเข้าเมือง สันติบาล ตำรวจท้องที่ กอ.รมน. สมช. กรมการกงศุล ป.ป.ท. ดีเอสไอ ประกันสังคม และแรงงาน
ผลประโยชน์เถื่อนจากกรณีเหล่านี้ จะตกแก่เจ้าหน้าที่ที่มีส่วนร่วมในขั้นตอนต่างๆ ของการปลอมแปลงหรือแก้ไขข้อมูลราชการ กลุ่มนายหน้าที่นำคนเข้าเมือง จัดหาที่พักพิงและเดินเรื่อง จากนั้นจึงเป็นการจ่ายส่วยของคนต่างชาติและนายจ้างเพื่อแลกกับการดูแลคุ้มครองในพื้นที่
นับวันการปราบปรามจะทำได้ยากขึ้น เพราะการที่พวกเขาร่วมมือกันมานานจนพัฒนาเป็นเครือข่ายเข้มแข็งใหญ่โต มีผลประโยชน์และคนเกี่ยวข้องจำนวนมาก สามารถปฏิบัติการได้ครอบคลุมและมีการช่วยเหลือคุ้มครองกันได้มากขนาดนี้ ย่อมต้องมีเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานคอยช่วยเหลืออำนวยความสะดวกอยู่ ดังนั้นคนไทยจึงต้องแสดงพลังกระตุ้นเตือนทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเร่งทำงานเชิงรุกให้จริงจังก่อนที่จะสายไปกว่านี้
ดร. มานะ นิมิตรมงคล
เลขาธิการ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย)
7 ก.ย. 2561
หมายเหตุ : ภาพประกอบจากไทยรัฐ