'หมอเกษม-ประมนต์'ปลุกคนไทยต้านโกง-ACT ให้รางวัล รื่นวดี ยึดคืนทรัพย์ทุจริต3แสนล.รวดเร็ว

ACT จัดงาน"คนไทย ตื่นรู้สู้โกง" มอบรางวัล 7 บุคคลตัวอย่างสู้ทุจริต 'อธิบดีกรมบังคับคดี' ได้ด้วยยึดคืนทรัพย์สินทุจริต3แสนล.รวดเร็วโปร่งใส 'หมอเกษม-ประมนต์' ปลุกคนไทยสามัคคีต้านโกง ชี้ปราบทุจริตผู้ใหญ่ต้องสร้างค่านิยมให้ผู้น้อย แนะระบบการศึกษาสอนเด็กมีคุณธรรม 

สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่าเมื่อเวลา 9.00 น. วันที่ 6 ก.ย.2561 ที่ศูนย์ประชุมไบเทค บางนา องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย)หรือ ACT ได้จัดงานวันต่อต้านคอร์รัปชัน ชูแนวคิด “คนไทย ตื่นรู้สู้โกง”

โดยนายประมนต์ สุทธีวงศ์ ประธาน ACT กล่าวว่า การจัดอันดับทุจริตประเทศไทยนั้นที่ผ่านมาไม่เคยอยู่เกินระหว่างอันดับที่ 35-38 ดังนั้นการปราบการทุจริตจึงเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ประเทศไทยต้องดำเนินการ

"นับเป็นเรื่องดีที่สังคมไทยมีการต่อต้านการทุจริตอยู่ในสำนึก สื่อต่างๆช่วยกันนำเสนอข่าวทุจริตอย่างสม่ำเสมอ แต่อย่างไรก็ตาม การปราบปรามการทุจริตนั้นก็ยังขาดการปราบปรามอย่างเป็นรูปธรรม ขาดความกล้าของคนไทยที่จะออกมาเปิดโปง ทั้งๆที่ผ่านมา ก็เป็นที่ประจักษ์ในสังคมไทยแล้วว่าถ้าคนไทยมีความสามัคคีกันจะทำเรื่องอะไร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการช่วยเหลือ 13 ชีวิตที่ถ้ำหลวง หรือปรากฎการณ์ระดมทุนเพื่อช่วย ตูน บอดีแสลม เราก็สามารถที่จะทำสิ่งนั้นได้สำเร็จ ดังนั้นผมเชื่อว่าถ้าเรามีความสามัคคีในการปราบทุจริต นำเอาการตื่นรู้สู้โกงเผยแพร่ไปสู่หมู่คนไทย ทำไมการทุจริตในสังคมไทยจะหายไปไม่ได้"  

นายประมนต์กล่าวต่อว่า "ดังนั้นก็หวังว่าในการปราบปรามการทุจริตในปีถัดจากนี้ คนไทยจะมีความตื่นรู้ มารวมตัวกันและเห็นความสำคัญของการปราบปรามการทุจริตกันให้มากขึ้น และทุกหน่วยงานทั้งข้าราชการ สื่อมวลชนจะมีความตั้งใจจริงในการให้ความสำคัญและปราบทุจริตกันยิ่งกว่านี้"

ขณะที่ นพ.เกษม วัฒนชัย องคมนตรี กล่าวว่า นับตั้งแต่ที่ ACT ได้ทำงานมาจะเห็นว่าคนทุจริตนั้นจะมีวิธีพิสดารกันมาก เพราะเป็นผู้ที่มีความรู้สูง ดังที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ได้เคยตรัสว่า หากบุคคลใดมีความรู้สูง แต่ขาดหริโอตตัปปะ คือไม่มีความละอายต่อบาป นำความรู้ไปใช้ในทางมิชอบ ก็จะทำให้สังคมเดือดร้อน ดังนั้นการอบรมคุณธรรม จริยธรรม การอบรมสร้างพลเมืองดีนั้นจึงเป็นสิ่งที่ควรกระทำ ว่าจะเป็นทั้ง พ่อแม่ ก็ควรจะอบรมลูกของตัวเอง ครู อาจารย์ ก็ควรจะอบรมลูกศิษย์ หรือแม้แต่ผู้บังคับบัญชาในหน่วยงานต่างๆก็ควรจะอบรมผู้ใต้บังคับบัญชาให้เป็นคนดี เพราะการโกงนั้นก็เริ่มกันแต่ตอนเป็นเด็กเลย คือโกงลอกการบ้านก่อน ต่อมาก็โกงข้อสอบ โกงรายงาน ซื้อธีสิสกัน จนนำไปสู่การทุจริตที่ใหญ่ขึ้น ดังนั้นการจะแก้ไขปัญหาการทุจริตนั้น สิ่งสำคัญที่จะต้องดำเนินการก็คือการเริ่มสอนเด็กในระบบการศึกษาให้มีคุณธรรม รู้ว่าการทุจริตเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องด้วย"

ต่อมาภายในงานมีการมอบรางวัล 7 บุคคลตัวอย่างที่ตื่นตัวเข้ามาต่อสู้การทุจริตได้แก่ 1. น.ส.ปณิดา ยศปัญญา หรือน้องแบม 2.น.ส.ณัฐกานต์ หมื่นพล หรือเกมส์ ผู้เปิดโปงการทุจริตเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อยและคนไร้ที่พึ่ง กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ 3.นายปรารภ เหมทานนท์ ผู้เปิดโปงการทุจริตภาครัฐ มากกว่า 270 กรณี รวมถึงกรณีขนมจีนคลุกน้ำปลา 4.พ.ต.ท. พงศ์พร พรามหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนา ซึ่งมีส่วนในการ กวาดล้างการทุจริตเงินทอนวัด 5. นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ที่มีบทบาทในการปราบทุจริตในกระทรวงศึกษาธิการ 6.น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งมีบทบาทในการสร้างวัฒนธรรมการต่อต้านทุจริตในกระทรวงพาณิชย์ และ 7.น.ส.รื่นวดี สุวรรณมงคล อธิบดีกรมบังคับดี กระทรวงยุติธรรม ซึ่งมีบทบาทในการยึดคืนทรัพย์สินที่ได้มาจากการทุจริตจำนวนมากถึง 3 แสนล้านบาท รวดเร็วและโปร่งใส

หลังจากการเสวนา นายประมนต์ได้ให้สัมภาษณ์ถึงยุทธศาสตร์การปราบการทุจริตว่า ทาง ACT ได้ดำเนินการมาตลอดทั้งการเปิดโปงการทุจริต หาทางป้องกันการทุจริต และปลูกฝังให้กับเยาวชน การเปิดโปง ที่ผ่านมา ACT ก็มีการฝึกอบรมณ์หมาเฝ้าบ้าน ให้ไปเฝ้าระวังโครงการต่างๆที่เพื่อไม่ให้เกิดการทุจริต หากมีอะไรไม่ชอบมาพากลก็ขอให้รายงานเข้ามา ในกระบวนการป้องกันนั้น ทาง ACT ก็ได้มีการส่งความเห็น ข้อเสนอแนะไปให้กับรัฐบาลหลายเรื่องเพื่อป้องกันการทุจริต อาทิ เรื่อง พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้าง ACT ก็ได้ให้ข้อเสนอแนะและรัฐบาลก็ได้รับฟังและนำไปปรับปรุงแล้ว โดยให้ภาคประชาชนเข้ามานั่งเป็นผู้ตรวจสอบโครงการต่างๆได้ ก็ถือเป็นกลไกหนึ่งที่จะช่วยสร้างความโปร่งใส 

นายประมนต์กล่าวว่าถึงโครงการโครงการดาวเทียม THEOS-2 มูลค่า 7,000 ล้านบาทของ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ สทอภ. ว่าทาง ACT คงไม่ตั้งผู้สังเกตุการณ์ชุดใหม่เข้าไปแทนชุดเก่าที่ลาออกไป เพราะถือว่ากระบวนการนั้นเสร็จสิ้นแล้ว