อิศราคว้าช่อสะอาดปี61 ข่าว‘ขบวนการปลอมบัญชีรถ ขส.ทบ.-เปิดเครือข่ายธุรกิจเสี่ยกำพล’
‘อิศรา’ คว้ารางวัล ‘ช่อสะอาด’ ของ ป.ป.ช. ปี’61 โล่เกียรติยศสาขาข่าว-สารคดีเชิงข่าว ปมผ่าขบวนการปลอมบัญชีขายทอดตลาดรถชำรุด ขส.ทบ. 1,136 คัน ป.ป.ช.รับลูกไต่สวนต่อ-ทลายเครือข่ายวิคตอเรียซีเครท โยงคดีปั่นหุ้น จุดจบ ‘เสี่ยกำพล’ กับพวก ก.ล.ต.สั่งปรับ 890 ล้าน ชงอัยการฟ้องแพ่งด้วย
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 6 ก.ย. 2561 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ประกาศผลการพิจารณารางวัลช่อสะอาด ประจำปี 2561 โดยรางวัลนี้จัดทำขึ้นเพื่อสร้างขวัญกำลังใจ สนับสนุนยกย่องบุคคล กลุ่มบุคคล หรือหน่วยงานที่มีส่วนสนับสนุนหรือส่งเสริมในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ด้วยการสร้างสรรค์ผลงานด้านสื่อที่มีเนื้อหาในการปลูกฝังและส่งเสริมคุณธรรม ตลอดจนป้องกันและปราบปรามการทุจริต
สำหรับผลงานรางวัลช่อสะอาด สาขาข่าวหรือสารคดีเชิงข่าวประจำปี 2561 สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ได้รับรางวัลโล่เกียรติยศ ผู้เผยแพร่ข่าวหรือสารคดีเชิงข่าว จำนวน 2 ชิ้น ได้แก่
1.ผ่าขบวนการปลอมบัญชีขายทอดตลาดรถชำรุด ขส.ทบ. 1,136 คัน
สำหรับข้อเท็จจริงกรณีนี้โดยสรุปคือ สำนักข่าวอิศราเป็นผู้รายงานข่าว การประมูลรถยนต์ขายทอดตลาดรถยนต์ชำรุดของ ขส.ทบ. รถที่ถูกนำมาประมูลขาย มีทั้งรถบรรทุก รถยนต์นั่งส่วนบุคคลหลายยี่ห้อ บางยี่ห้อไม่มีใช้งานใน ขส.ทบ. หรือมิใช่รถยนต์ทหาร แต่กลุ่มบุคคลใช้วิธีเอารถจากบุคคลภายนอกที่จัดเตรียมไว้มาสวมบัญชีผ่านการประมูลของทางราชการและเป็นบัญชีเท็จ โดยมีกลุ่มนายทหารระดับยศ ‘พันเอก-พันโท’ และกลุ่มเอกชนเข้าไปเกี่ยวข้อง
ภายหลังสำนักข่าวอิศราเผยแพร่ข่าว และสารคดีเชิงข่าวหลายชิ้นเกี่ยวกับกรณีนี้ออกไป ส่งผลให้ พ.อ.ภพกฤต พันธ์ยศ รอง ผอ.กองคลัง ขส.ทบ. ถูก พล.อ.เทพพงศ์ ทิพยจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม (ขณะนั้น) รับคำสั่ง รมว.กลาโหม (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ปลดออกจากราชการ ส่วน พ.ท.หญิง ศิริโสภา จันทรรุกขา หัวหน้าแผนกทะเบียนกองคลัง ขส.ทบ. ก็ถูกปลดออกจากราชการเช่นเดียวกัน
ต่อมาเมื่อเดือน มี.ค. 2561 คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้รับเรื่องร้องเรียนกล่าวหากรณีดังกล่าวมาไต่สวนข้อเท็จจริงแล้ว โดยมีผู้ถูกกล่าวหา ได้แก่ พ.อ.ภพกฤต พันธ์ยศ รองผู้อำนวยการกองคลัง กรมการขนส่งทหารบก กระทรวงกลาโหม พ.ท.หญิงศิริโสภา จันทรุกขา หัวหน้าแผนกทะเบียนกองคลัง กรมการขนส่งทหารบก นายจิรภัทร วรรัฐกฤติกร กับพวกอีก 2 คน รวมเป็น 5 คน ร่วมกันปลอมหนังสือกองคลัง และใบเสร็จรับเงิน กรมการขนส่งทหารบก เพื่อนำส่งบัญชียานพาหนะชำรุดที่ได้รับอนุมัติให้ขายทอดตลาดทั้งที่ไม่มีการขายทอดตลาดยานพาหนะ และใช้หนังสือปลอมดังกล่าวเป็นเหตุให้กรมการขนส่งทางบกหลงเชื่อว่ามีการขายทอดตลาดยานพาหนะและดำเนินการออกหนังสือรับรองหลักฐานให้แก่นายจิรภัทร วรรัฐกฤติกร นายณัฐวุฒิ สมสวย และนายคฑาสุรเชษฐ์ หรือณัชวงศักด์ โรจน์พุทธิภิญโญ ไปโดยผิดหลง (อ่านประกอบ : ปมปั้นบัญชีขายทอดตลาดรถทหาร 1.1 พันคัน ไฉน‘ลูกน้อง’ตายเดี่ยว (อีกแล้ว)?, โชว์หรา! ป.ป.ช.สอบ 2 นายทหาร -3 เอกชนคดีปลอมบัญชีรถประมูล 1.1 พันคัน)
2.ทลายเครือข่ายวิคตอเรียซีเครท โยงคดีปั่นหุ้น จุดจบ ‘เสี่ยกำพล’ กับพวก
สำหรับข้อเท็จจริงกรณีนี้โดยสรุปคือ ภายหลังนายกำพล วิระเทพสุภรณ์ หรือ ‘เสี่ยกำพล’ เจ้าของธุรกิจอาบอบนวดรายใหญ่ ‘วิคตอเรีย ซีเครท’ ถูกตำรวจสนธิกำลังกับหลายหน่วยงานบุกทลายแหล่งเครือข่ายโสเภณี จนกลายเป็นข่าวคึกโครมเมื่อต้นปี 2561 เป็นต้นมานั้น
สำนักข่าวอิศรา ทำการสืบค้นข้อมูลทางธุรกิจของนายกำพล บุตร และเครือญาติ พบข้อมูลเบื้องต้นว่า เป็นเจ้าของบริษัท และเงินลงทุนในบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 4 แห่ง มูลค่ารวม 413 ล้านบาท ต่อมาได้ขยายผลเพิ่มเติมจนพบว่า เครือข่ายธุรกิจของนายกำพล บุตร เครือญาติ รวมถึงคนใกล้ชิด ที่เข้าไปถือหุ้น และเป็นกรรมการ มีอย่างน้อย 34 แห่ง มีสินทรัพย์มากกว่า 2,500 ล้านบาท
ภายหลังสำนักข่าวอิศรา ทำการเผยแพร่ข่าว และสารคดีเชิงข่าวเกี่ยวกับข้อมูลทางธุรกิจของนายกำพล บุตร เครือญาติ และคนใกล้ชิดของนายกำพลไปหลายครั้ง ทำให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ก.ล.ต.) ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงการถือครองหุ้น และการเป็นกรรมการบริษัทเอกชนที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต. และพบว่า ช่วงปี 2556-2558 มีบุคคลรวม 25 ราย รวมถึงนายกำพล และบุตร รู้เห็นหรือตกลงร่วมกันในการซื้อขายหลักทรัพย์ โดยสลับกันเข้าซื้อขายหลักทรัพย์รวม 6 แห่ง ในลักษณะอำพรางหรือต่อเนื่อง ทำให้ราคาหรือปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ผิดไปจากสภาพปกติของตลาด เพื่อชักจูงให้บุคคลอื่นเข้าซื้อขายหลักทรัพย์ดังกล่าว พร้อมมีคำสั่งปรับเงินกว่า 890 ล้านบาท และเสนอให้อัยการฟ้องต่อศาลแพ่งแล้ว (อ่านประกอบ : เปิดขุมข่ายธุรกิจ ‘เสี่ยกำพล’ 34 บริษัท 2.5 พันล. - อสังหาฯ อาบอบนวด รร.กวดวิชา, ปรับเงิน890ล.! ก.ล.ต.ชงอัยการฟัน25ราย ปั่นหุ้น6หลักทรัพย์ 'เสี่ยกำพล-ลูกชาย' โดนด้วย)
ส่วนรางวัลอื่น ๆ อ่านต่อได้ที่ : https://www.nacc.go.th/download/article/article_20180824144212.pdf