มานะ นิมิตรมงคล : ทำไมหน่วยงานราชการชอบจัดตีกอล์ฟการกุศล-เตรียมทหารมีทริปดูพระ?
".. กิจกรรมทริปดูพระนั้นจะมีรายได้ที่สูงกว่ากิจกรรมตีกอล์ฟมาก โดยเฉพาะถ้าจัดโดยนักเรียนเตรียมทหาร รายละเอียดการจัดดูพระนั้นเมื่อก่อนรายได้หลักของการจัดทริปก็คือเอาพระมาให้ดู แล้วก็จะเสียค่าดูพระประมาณ 300-500 บาท แต่ว่าทุกวันนี้กลับมีรายได้เพิ่มเติมนอกเหนือจากการดูพระขึ้น ก็คือรายได้จากบริษัทเอกชน องค์กรต่างๆ..."
หมายเหตุ สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org : เมื่อวันที่ 3 ก.ย.2561 ที่ผ่านมา นายมานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ได้ไปบรรยายที่สถาบันพระปกเกล้า โดยมีเนื้อหาบางส่วนระบุวิพากวิจารณ์การจัดกิจกรรมการกุศลของหน่วยงานราชการบางแห่ง สำนักข่าวอิศรา เห็นว่ามีข้อมูลสำคัญหลายส่วนน่าสนใจ จึงนำมาเสนอให้สาธารณชนได้รับทราบกันอีกครั้ง
นายมานะ ระบุว่า ตั้งแต่ผ่านช่วงเวลาของนักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 13 หน่วยงานราชการของประเทศไทย มีการจัดกิจกรรมการกุศลต่างๆ อาทิการจัดกิจกรรมโบว์ลิ่ง การทริปดูพระ ซึ่งหน่วยงานราชการในประเทศไทยมักจะชื่นชอบการจัดกิจกรรมในลักษณะเหล่านี้กันมาก
โดยรายได้จากการจัดกิจกรรมโบว์ลิ่งนั้นอาจจะอยู่ที่ประมาณ 2-3 แสนบาท แต่ถ้าเป็นกิจกรรมตีกอล์ฟจะอยู่ที่ประมาณ 2-3 ล้านบาท ถ้าบางหน่วยงานที่มีความสามารถจัดงานกันเก่งๆก็อาจจะจัดงานไปตีกอล์ฟกันจนได้เงินไปประมาณ 5 ล้านบาท หรืออาจจะสูงจนถึง 7 ล้านบาทก็มี
นายมานะ ระบุว่า "ก่อนหน้านี้ปรากฏข้อมูลว่ามีสำนักงานเขตการศึกษาไปจัดกิจกรรมตีกอล์ฟแล้วก็ขายไปด้วย ก็มีคนท้วงติง เขาก็ชี้แจงกลับมาว่า ถ้าใครไม่มาตีกอล์ฟก็ไม่ต้องมาเป็นสปอนเซอร์ แต่ความเป็นจริงมันเป็นแบบที่เขาชี้แจงหรือไม่"
"เมื่อก่อนนั้นกรมสรรพสามิตจัดตีกอล์ฟการกุศล แต่ต่อมาพอมีระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีสั่งห้ามในเรื่องการจัดเรื่องนี้ ก็มีการจัดงานในนามของชมรมกอล์ฟทุกปี ถ้าหากไปค้นในอินเตอร์เน็ต ก็จะพบว่ามีการแชร์ข้อมูลในเฟสบุ๊กเลยระบุว่า ภาคหนึ่งตอนนี้ได้แล้ว 20 ทีม ภาคห้าตอนนี้ได้สปอนเซอร์แล้ว 8 แสนบาท"
"ถามว่าคนที่ไปซื้อสปอนเซอร์ตีกอล์ฟเหล่านี้ เขาคิดอะไรอยู่ ทำไมถึงต้องจ่ายแพงขนาดนี้ แล้วสนามกอล์ฟเวลาเขาให้บริการ เขาก็คิดราคาถูกๆหรือไม่ก็ให้ฟรี ซึ่งเหตุผลก็เพราะว่าสนามกอล์ฟต้องเสียภาษีสรรพสามิตร 10 เปอร์เซ็นต์"
"ถ้าหากสืบค้นข้อมูลบนอินเตอร์เนต ก็จะพบเลยว่าคนที่ประกอบธุรกิจสนามกอล์ฟเขาออกมาพูดเลยว่า เวลาฤดูฝน ไม่มานั่งตรวจนับว่ามีลูกค้าเท่าไร แล้วจะมาประเมินภาษี 10 เปอร์เซ็นต์ แต่พอเวลาวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ช่วงที่อากาศดีๆ กลับมาตรวจนับลูกค้าในช่วงเวลาแน่นๆ ทำอย่างนี้จะเป็นอย่างไร ซึ่งคำพูดนี้แหละถือว่าเป็นตัวอธิบายการใช้หลักธรรมาภิบาล (Good Governance) ของเจ้าหน้าที่รัฐว่าเป็นอย่างไร ถูกต้องหรือไม่ ในเรื่องของการใช้ดุลยพินิจ”
นายมานะ ยังระบุด้วยว่า อย่างไรก็ตาม กิจกรรมทริปดูพระนั้นจะมีรายได้ที่สูงกว่ากิจกรรมตีกอล์ฟมาก โดยเฉพาะถ้าจัดโดยนักเรียนเตรียมทหาร รายละเอียดการจัดดูพระนั้นเมื่อก่อนรายได้หลักของการจัดทริปก็คือเอาพระมาให้ดู แล้วก็จะเสียค่าดูพระประมาณ 300-500 บาท แต่ว่าทุกวันนี้กลับมีรายได้เพิ่มเติมนอกเหนือจากการดูพระขึ้น ก็คือรายได้จากบริษัทเอกชน องค์กรต่างๆ
"การจัดงานดูพระล่าสุดมีบริษัทขายน้ำเมาความเงินสปอนเซอร์จำนวน 5 ล้านบาท บริษัทขายสินค้าการเกษตรควักเงินอีก 5 ล้านบาท กลายเป็นว่าการจัดดูพระนั้นมีรายได้ทำลายสถิติการจัดกิจกรรมอื่นๆ"