พยานหลักฐานไม่พอ! ดีเอสไอสั่งยุติสอบเครื่องตรวจระเบิด3.7พันล.-BusGate ภูเก็ต ส่ง ป.ป.ช.
กลุ่มธรรมาภิบาลฯ เผย 'ดีเอสไอ' แจ้งผลดำเนินการสืบสวนงานก่อสร้าง BusGate สนามภูเก็ต-เครื่องตรวจระเบิด สุวรรณภูมิ วงเงิน 3.7 พันล้าน ของ ทอท.ให้ทราบเป็นทางการแล้ว ระบุโครงการแรกเป็นเรื่องขอให้ตรวจสอบจนท.รัฐ อาจมีพฤติการณ์ทุจริตต่อหน้าที่ ส่งให้ ป.ป.ช.พิจารณาตามอำนาจหน้าที่ต่อ ส่วนโครงการสอง ไม่พบพยานหลักฐานเพียงพอ เห็นควรสั่งยุติเรื่อง
นายวิวัฒน์ สมบัติหลาย ประธานกลุ่มธรรมาภิบาลเครือข่ายประชาชนต้านทุจริตและคอร์รัปชั่น เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า สืบเนื่องจากที่กลุ่มธรรมาภิบาลฯ ได้ยื่นเรื่องให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตรวจสอบ 2 โครงการลงทุนขนาดใหญ่ของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ได้แก่ โครงการก่อสร้างอาคารที่พักคอยผู้โดยสารเครื่องบินรอขึ้นรถบัสรับ-ส่ง (Bus Gate) สนามบินภูเก็ต และงานจัดซื้อพร้อมติดตั้งระบบสายพานลำเลียงกระเป๋าและระบบตรวจจับวัตถุระเบิด โครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ วงเงิน 3,798,716,176.38 บาท (อ่านประกอบ : ทอท.งานเข้า! ดีเอสไอลุยสอบ 2 โครงการรวด จ้างBusGate ภูเก็ต-ซื้อเครื่องตรวจระเบิด3.7พันล., DSI เรียก 'กลุ่มธรรมาฯ' สอบมัดปม BusGate-เครื่องตรวจระเบิดแล้ว! ทอท.ขอเวลาหาเอกสารเพิ่ม30วัน) ในช่วงเดือนมี.ค.2561 ที่ผ่านมา
ล่าสุดดีเอสไอ ได้ทำหนังสือแจ้งผลการดำเนินการสืบสวนทั้ง 2 โครงการให้กลุ่มธรรมาภิบาลฯ รับทราบเป็นทางการแล้ว โดยระบุว่า โครงการก่อสร้างอาคารที่พักคอยผู้โดยสารเครื่องบินรอขึ้นรถบัสรับ-ส่ง (Bus Gate) สนามบินภูเก็ต นั้นเป็นการร้องขอให้ตรวจสอบเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อาจมีพฤติการณ์ทุจริตต่อหน้าที่ จึงได้ส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) พิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่
ส่วนกรณีโครงการจัดซื้อพร้อมติดตั้งระบบสายพานลำเลียงกระเป๋าและระบบตรวจจับวัตถุระเบิด โครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ วงเงิน 3,798,716,176.38 บาท ในชั้นนี้ ไม่ปรากฎพยานหลักฐานเพียงพอที่จะเห็นว่าการจัดซื้อดังกล่าวมีการกระทำความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 แต่อย่างใด จึงได้ยุติเรื่อง
อย่างไรก็ดี ดีเอสไอ ระบุว่า หากกลุ่มธรรมาภิบาลฯ มีพยานหลักฐานเพิ่มเติมที่เห็นว่ามีการกระทำความผิด ขอให้แจ้งดีเอสไอทราบเพื่อดีเอสไอ จะได้ดำเนินการต่อไป
"ขั้นตอนจากนี้ ทางกลุ่มธรรมาภิบาลฯ จะตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกต่อ โดยเฉพาะในส่วนของโครงการก่อสร้างอาคารที่พักคอยผู้โดยสารเครื่องบินรอขึ้นรถบัสรับ-ส่ง (Bus Gate) สนามบินภูเก็ต นั้น จะมีการส่งเรื่องให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. รับไปพิจารณาตรวจสอบต่อไป" นายวิวัฒน์ ระบุ (ดูหนังสือดีเอสไอประกอบ)
อนึ่งก่อนหน้านี้ นายวิวัฒน์ ให้ข้อมูลสำนักข่าวอิศราว่า ได้เข้าให้ถ้อยคำต่อดีเอสไอ เกี่ยวกับการสืบสวนทั้ง 2 โครงการ โดยโครงการก่อสร้างอาคารที่พักคอยผู้โดยสารเครื่องบินรอขึ้นรถบัสรับ-ส่ง (Bus Gate) สนามบินภูเก็ต นั้น มีข้อสังเกตสำคัญอยู่ที่การว่าจ้างเอกชนเข้ามาทำงานโดยไม่ผ่านการประกวดราคาและไม่ได้ทำสัญญาว่าจ้างเป็นลายลักษณ์อักษร อาจเข้าข่ายการกระทำผิดต่อ พ.ร.บ. จัดซื้อจัดจ้างและบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานภาครัฐ พ.ศ. 2542 หลักฐานที่ปรากฎชัดเจนคือ ข้อมูลในบันทึกการประชุมวาระลับของทอท. (อ่านประกอบ : โชว์หลักฐานประชุมวาระลับทอท.!กลุ่มธรรมาภิบาลร้องสอบปมสร้างสนามบินภูเก็ตไร้ประกวดราคาจ้าง)
ส่วนโครงการจัดซื้อพร้อมติดตั้งระบบสายพานลำเลียงกระเป๋าและระบบตรวจจับวัตถุระเบิด โครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ วงเงิน 3,798,716,176.38 บาท นั้น มีประเด็นเกี่ยวกับการถูกตั้งข้อสังเกตในประเด็นเรื่องการเสนอราคาประมูลงานของเอกชนรายหนึ่ง ที่เสนอราคางานสูงกว่าราคากลางจำนวน 300 ล้านบาท ทำให้ถูกมองว่าขัดวิสัยของผู้เสนอราคาทั่วไป ที่โดยปกติการเสนองานหากต้องการจะชนะการประมูลงาน จะต้องเสนอราคาต่ำกว่าราคากลางเท่านั้น ถึงจะมีโอกาสเป็นผู้ชนะ ซึ่งโดยส่วนตัวมองว่า ถ้าดีเอสไอ มีการเชิญตัวแทนผู้มีอำนาจบริษัทเอกชนมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม จะช่วยทำให้เห็นภาพข้อมูลการดำเนินงานโครงการนี้ชัดเจนมากขึ้น