x-files (15): พลิกแฟ้มมติ ป.ป.ช.ฟันทุจริต ร.ต.อ. ‘ก’ แจ้งข้อกล่าวหาคดีเช็คไม่ครบถ้วน
“...นาย ก. ขณะมียศร้อยตำรวจเอกในฐานะพนักงานสอบสวนคดีที่ นาย ว. ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 จำนวน 2 คดี คดีแรกสั่งจ่ายเงิน 500,000 บาท คดีที่สองสั่งจ่ายเงิน 2,000,000 บาท โดยทั้ง 2 คดี มีนาย พ. เป็นผู้เสียหาย เมื่อนาย ก. จับกุมผู้ต้องหาได้ นาย ก. สอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 2 คดี แต่ดำเนินคดีและนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังเฉพาะคดีแรก ซึ่งมีจำนวนเงินในเช็คน้อย โดยไม่ระบุในคำร้องฝากขังให้ศาลทราบว่าผู้ต้องหายังตกเป็นผู้ต้องหาคดีอื่นอีก...”
x-files :พลิกแฟ้มมติ ป.ป.ช.ฟันทุจริตคดีดังในอดีต ที่สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำข้อมูลมาเสนอต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 15 เพื่อเป็นประโยชน์ให้แก่ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายนำไปใช้เป็นแนวทาง ในการตรวจสอบคดีทุจริตต่างๆ ทั้งในปัจจุบันและอนาคต ว่า รูปแบบพฤติการณ์การทุจริต รวมไปถึงข้อกฎหมายสำคัญที่ใช้ในการตัดสินคดีของ ป.ป.ช. ในสัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์สุดท้ายของตัวอย่างคดีทุจริตในหมวดการทุจริตช่วยเหลือผู้กระทำความผิดจะมีคดีสำคัญอะไรบ้างไปติดตามกันได้เลย (การเผยแพร่ข้อมูลระบุชื่อผู้เกี่ยวข้อง เป็นตัวอักษรย่อ เพื่อปกป้องสิทธิ์ของผู้ถูกกล่าวหา เพราะบางคดียังอยู่ระหว่างการพิจารณาในชั้นศาล)
@ แจ้งข้อกล่าวหาและส่งตัวผู้ต้องหาไม่ครบถ้วน
ข้อเท็จจริง นาย ก. ขณะมียศร้อยตำรวจเอกในฐานะพนักงานสอบสวนคดีที่ นาย ว. ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 จำนวน 2 คดี คดีแรกสั่งจ่ายเงิน 500,000 บาท คดีที่สองสั่งจ่ายเงิน 2,000,000 บาท โดยทั้ง 2 คดี มีนาย พ. เป็นผู้เสียหาย เมื่อนาย ก. จับกุมผู้ต้องหาได้ นาย ก. สอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 2 คดี แต่ดำเนินคดีและนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังเฉพาะคดีแรก ซึ่งมีจำนวนเงินในเช็คน้อย โดยไม่ระบุในคำร้องฝากขังให้ศาลทราบว่าผู้ต้องหายังตกเป็นผู้ต้องหาคดีอื่นอีก กับไม่คัดค้านการประกันตัวและไม่ขออายัดตัวผู้ต้องขังต่อผู้บัญชาการเรือนจำ เนื่องจากนาย ก. ได้แถลงต่อศาลขอนำตัวผู้ต้องหาขังที่ สน.หัวหมาก ต่อมาเมื่อสอบสวนเสร็จทั้ง 2 คดี ผู้ถูกกล่าวหากลับส่งสำนวนคดีแรกให้พนักงานอัยการเพียงคดีเดียว โดยไม่แจ้งให้พนักงานอัยการทราบว่านาย ว. ตกเป็นผู้ต้องหาอีกคดีหนึ่ง เป็นเหตุให้พนักงานอัยการยื่นฟ้องผู้ต้องหาเพียงคดีเดียว ซึ่งผู้ต้องหาได้ยื่นขอประกันตัวและหลบหนีประกันในชั้นศาลไม่สามารถนำตัวมาลงโทษจนถึงปัจจุบัน การกระทำของนาย ก. จึงเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย
มติคณะกรรมการ ป.ป.ช. การกระทำของนาย ก. เป็นความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรงตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2535 มาตรา 85 วรรคสอง และมาตรา 98 วรรคสองประกอบพระราชบัญญัติข้าราชการตำรวจ พ.ศ. 2521 มาตรา 45 และพระราชบัญญัติว่าด้วยวินัยตำรวจ พ.ศ. 2477 มาตรา 5 (12) และเป็นความผิดอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
@ กระทำการประมาทเป็นเหตุให้ผู้ต้องคุมขังหลบหนี
ข้อเท็จจริง จ่าสิบตำรวจ ก. ปฏิบัติหน้าที่สิบเวรควบคุมผู้ต้องหา สภ.ต. ภ. ได้นำตัวผู้ต้องคุมขังรายหนึ่งซึ่งถูกคุมขังตามอำนาจศาลจังหวัดเชียงใหม่ ในความผิดฐานมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) จำนวน 40,000 เม็ด ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายออกจากห้องควบคุม เพื่อให้ทำความสะอาดอาคารสถานีตำรวจภูธรตำบล ภ. โดยไม่ได้ขออนุญาตจากผู้บังคับบัญชาแล้วปล่อยผู้ต้องคุมขังรายนี้ไว้ตามลำพัง ไม่ระมัดระวังควบคุมดูแลเพื่อป้องกันการหลบหนี เป็นเหตุให้ผู้ต้องคุมขังรายนี้หลบหนีไป
มติคณะกรรมการ ป.ป.ช. การกระทำของจ่าสิบตำรวจ ก. มีความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรงและมีความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 204
@ ปลอมแปลงเอกสารและช่วยเหลือผู้ต้องหามิให้รับโทษหรือรับโทษน้อยลง
ข้อเท็จจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธร ได้จับกุมนาย ว. ผู้ต้องหาพร้อมของกลางยาเสพติด นำส่งพันตำรวจตรี ก. ซึ่งทำหน้าที่ร้อยเวร ได้ปลอมเอกสารคำให้การของเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้จับกุมผู้ต้องหา แล้วส่งสำนวนไปยังพนักงานอัยการจังหวัด โดยไม่ผ่านผู้บังคับบัญชาตามลำดับขั้น จนพนักงานอัยการมีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องคดี การกระทำของพันตำรวจตรี ก. เป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบทำให้ราชการไม่ได้รับความเสียหาย และเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ช่วยเหลือผู้ต้องหาให้ไม่ต้องรับโทษหรือรับโทษน้อยลง และอาศัยโอกาสที่ตนมีหน้าที่กระทำการปลอมเอกสาร
มติคณะกรรมการ ป.ป.ช. การกระทำของพันตำรวจตรี ก. เป็นความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 มาตรา 161 และมาตรา 200
@ เรียกรับเงินเพื่อไม่นำส่งผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน
ข้อเท็จจริง จ่าสิบตำรวจ ก. และสิบตำรวจตรี ข. มีอำนาจหน้าที่สืบสวน จับกุมผู้กระทำความผิดกฎหมาย ได้ร่วมจับกุมนาย ค. พร้อมของกลางเป็นซีดีลามก และจ่าสิบตำรวจ ก. และสิบตำรวจตรี ข. ไม่นำผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานส่งพนักงานสอบสวนท้องที่ที่เกิดเหตุ แต่เรียกรับเงินจากผู้ต้องหา เพื่อแลกเปลี่ยนกับการไม่ส่งตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางไปดำเนินคดี และจะคืนของกลางให้ โดยนาย ค. ได้โทรหานางสาว จ. เพื่อขอยืมเงิน นางสาว จ. เมื่อทราบเรื่องได้ติดต่อกับ พันตำรวจตรี ธ. เพื่อร้องเรียน และวางแผนจับกุม โดยให้นางสาว จ. ขอต่อรองลดจำนวนเงินจากจ่าสิบตำรวจ ก. และสิบตำรวจตรี ข. ซึ่งทั้งสองยินยอม แต่มีเงื่อนไขต้องส่งตัวผู้ต้องหาไปดำเนินคดีและให้เปลี่ยนตัวผู้ต้องหาเป็นบุคคลอื่นพร้อมลดจำนวนของกลาง หลังจากนางสาว จ. ส่งมอบเงิน จ่าสิบตำรวจ ก และสิบตำรวจตรี ข. ได้ปล่อยตัวนาย ค. พร้อมของกลางบางส่วน และนำตัวนาย ง. มาเปลี่ยนตัว ส่งพนักงานสอบสวนท้องที่ โดยขณะเดินทางจ่าสิบตำรวจ ก. และสิบตำรวจตรี ข. ถูกตำรวจเข้าตรวจค้นพบธนบัตรตามที่นางสาว จ. เข้าแจ้งความและลงบันทึกประจำวันไว้
มติคณะกรรมการ ป.ป.ช. การกระทำของจ่าสิบตำรวจ ก. และสิบตำรวจตรี ข. เป็นความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรงตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2535 มาตรา 82 วรรคสาม มาตรา 85 วรรคสอง และมาตรา 98 วรรคสอง พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการตำรวจ พ.ศ. 2521 มาตรา 45 และมาตรา 61 และพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดวินัยตำรวจ พ.ศ. 2477 มาตรา 5 (12) และเป็นความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 มาตรา 157 และมาตรา 200 ประกอบมาตรา 83
@ ไม่ดำเนินคดีกับผู้ต้องหา
ข้อเท็จจริง ร้อยตำรวจเอก ก. ขณะปฏิบัติหน้าที่ร้อยเวรสอบสวน ได้รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนคน จึงออกไปตรวจสถานที่เกิดเหตุพร้อมทั้งบันทึกการตรวจสถานที่เกิดเหตุและนำรถจักรยานยนต์คันที่เกิดเหตุไปเก็บไว้ที่สถานีตำรวจภูธร แต่ไม่ได้จัดให้มีการลงรายงานประจำวันเกี่ยวกับคดีตามอำนาจหน้าที่ ต่อมาญาติผู้เสียหายไปแจ้งความกล่าวโทษให้ดำเนินคดี ร้อยตำรวจเอก ก. ก็มิได้จัดให้มีการบันทึกคำกล่าวโทษ ทั้งที่ทราบดีว่าคดีดังกล่าวมีผู้ได้รับอันตรายสาหัส ต่อมาได้มีการสอบปากคำพยานและให้คู่กรณีเจรจาเรียกร้องค่าเสียหายแต่ตกลงกันไม่ได้ ร้อยตำรวจเอก ก. ก็มิได้จัดทำสำนวนคดีดังกล่าว ต่อมาร้อยตำรวจเอก ก. ได้รับคำสั่งให้ไปปฏิบัติราชการที่อื่น ก็มิได้ส่งมอบเอกสารหลักฐานที่ดำเนินการเกี่ยวกับอุบัติเหตุหรือรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ การกระทำของร้อยตำรวจเอก ก. แสดงให้เห็นว่ามีเจตนาที่จะไม่รับคดีอุบัติเหตุไว้ดำเนินการสอบสวนตามอำนาจหน้าที่ จึงเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด
มติคณะกรรมการ ป.ป.ช. การกระทำของร้อยตำรวจเอก ก. เป็นความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรงตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2535 มาตรา 82 วรรคสาม และมาตรา 98 วรรคสอง ประกอบพระราชบัญญัติว่าด้วยวินัยตำรวจ พ.ศ. 2477 มาตรา 5 (3) และ (12) และเป็นความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
------------
สัปดาห์หน้าจะเป็นสัปดาห์เริ่มต้น นำเสนอคดีสำคัญในหมวดใหม่ "การทุจริตเกี่ยวกับทะเบียนราษฎร์" จะมีคดีสำคัญอะไรบ้าง โปรดติดตามเช่นเดิม
อ่านประกอบ :
x-files (1) : พลิกแฟ้มมติ ป.ป.ช.ฟันทุจริต รมต.-ผอ.รพ.รัฐ เอื้อปยจัดซื้อจ้างบ.พวกพ้อง
x-files (2) : พลิกแฟ้มมติ ป.ป.ช.ฟันทุจริต บทลงโทษ พลเอก 'ก.' เลี่ยงระเบียบซื้อที่ดิน32ล.
x-files (3): พลิกแฟ้มมติ ป.ป.ช.ฟันทุจริต คดีใหญ่รถดับเพลิง-นายกอบจ.งาบมุ้งไข้เลือดออก
x-files (4):พลิกแฟ้มมติ ป.ป.ช.ฟันทุจริตที่ปรึกษารมต.จัดซื้อยา-เชือดอธิบดีงาบเรือขุด
x-files (5):พลิกแฟ้มมติ ป.ป.ช.ฟันทุจริต อบต.ตรวจงานเท็จ -ประปาร้อยเอ็ดเรียกเงินผู้รับจ้าง
x-files (6):พลิกแฟ้มมติ ป.ป.ช.ฟันทุจริต ร.ต.อ.ยักยอกATM ผู้ต้องหาคดียาบ้ากดเงินใช้ 7 แสน
x-files (7):พลิกแฟ้มมติ ป.ป.ช.ฟันทุจริต พันเอก พ. อมค่าโฆษณาวิทยุกองทัพภาคที่ 2
x-files (8): พลิกแฟ้มมติ ป.ป.ช.ฟันทุจริต สจ. 'ข.' เอารถหลวงจำนำร้านคาราโอเกะ
x-files (9): พลิกแฟ้มมติ ป.ป.ช.ฟันทุจริต พ.ต.ต. แก้ใบเสร็จยักยอกเงินซื้อรองเท้า 3แสน
x-files (10): พลิกแฟ้มมติ ป.ป.ช.ฟันทุจริต ดาบตำรวจ ‘ก.’ เรียกรับเงินงบซ่อมถนน 7 แสน
x-files (11): พลิกแฟ้มมติ ป.ป.ช.ฟันทุจริต บิ๊กตำรวจ ‘ก.’ รับเคลียร์หนี้พนันละเว้นจับกุม
x-files (13): พลิกแฟ้มมติ ป.ป.ช.ฟันทุจริต จ.ส.ต. ‘ส.’ รับสินบนละเว้นตรวจหนังสือเดินทางปลอม
x-files (14): พลิกแฟ้มมติ ป.ป.ช.ฟันทุจริต เจ้าพนักงานเรียกรับเงิน ช่วยลดโทษผู้ต้องหายาเสพติด