มวลชนนับพันร่วมพิธีฝังศพ 2 อส.สุไหงปาดี
พิธีฝังศพตามหลักศาสนาอิสลามของอาสารักษาดินแดน (อส.) ประจำ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ทั้ง 2 นาย ที่ถูกคนร้ายดักซุ่มยิงและเผารถจักรยานยนต์ซ้ำเมื่อ 2 วันก่อน เป็นไปอย่างยิ่งใหญ่ มีมวลชนไปร่วมงานคับคั่งกว่าครึ่งพันคนต่องาน ยืนยันเป็นคนดีที่ชาวบ้านรัก เสียดายต้องมาตายเพราะสถานการณ์
วันพุธที่ 8 ส.ค.61 นายรุ่งเรือง ธิมาบุตร นายอำเภอสุไหงปาดี จ.นราธิวาส พ.ต.ต.กิตติศักดิ์ ศรีวิจิตร สารวัตรปราบปราม สภ.สุไหงปาดี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทหาร กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และกลุ่มพลังมวลชนในพื้นที่จำนวนกว่า 500 คน ไปร่วมพิธีฝังศพ อส.มูฮัมหมัดฮาฟีซี มือลี อส.ประจำฐานปฏิบัติการชุดคุ้มครองตำบล (ชคต.) โต๊ะเด็ง อ.สุไหงปาดี หลังปฏิบัติหน้าที่ รปภ.โรงเรียนบ้านโผลง ต.โต๊ะเด็ง และถูกคนร้ายซุ่มยิงเสียชีวิตขณะขี่รถจักรยานยนต์กลับฐานพร้อมกับ อส.เจ๊ะยูนัย เจ๊ะบือราเฮงเมื่อช่วงเย็นของวันอังคารที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา
หลังเสร็จพิธีทางศาสนา ญาติได้เคลื่อนศพ อส.มูฮัมหมัดฮาฟีซี ไปฝังที่กูโบร์บ้านกูวา หมู่ 5 ต.ริโก๋ ซึ่งเป็นบ้านเกิด พร้อมประกอบพิธีละหมาดที่มัสยิด บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า เนื่องจาก อส.มูฮัมหมัดฮาฟีซี เป็นที่รักของชาวบ้าน ขณะที่เมื่อปี 48 และปี 54 นายดอรอนิง มือลี บิดาของ อส.มูฮัมหมัดพีซี ซึ่งเป็นอดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ก็เคยถูกกลุ่มผู้ไม่หวังดีตามประกบยิงมาแล้วถึง 2 ครั้ง จนได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ก็เอาชีวิตรอดมาได้
ช่วงเช้าวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่และกลุ่มพลังมวลชนจำนวนกว่า 500 คน ได้เคลื่อนย้ายศพ อส.เจ๊ะยูนัย เจ๊ะบือราเฮง ไปยังกุโบร์ (สุสาน) บ้านลูโบะบาตู หมู่ 4 ต.ปะลูรู อ.สุไหงปาดี เพื่อร่วมกันประกอบพิธีฝังศพ โดย อส.เจ๊ะยูนัย เป็นเสาหลักของครอบครัว ต้องหารายได้เลี้ยงภรรยาและลูกอีก 2 คน โดยเฉพาะลูกคนที่ 2 คือ ด.ญ.อารียา เจ๊บือราเฮง อายุ 7 ปี เป็นเด็กพิการตั้งแต่กำเนิด ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ขณะที่ภรรยามีอาชีพรับจ้างทั่วไป ความเป็นอยู่จึงค่อนข้างอัตคัด เมื่อ อส.เจ๊ะยูนัย ต้องมาจากไปแบบนี้ ยิ่งทำให้ครอบครัวลำบากมากขึ้น
------------------------------------------------------------------------------------------
อ่านประกอบ : ซุ่มยิง "อส.ปาดี" ดับ 2 เผารถซ้ำ ชิงปืน-เสื้อเกราะ