ย้ายก่อนก็ไม่พ้น! สั่งสอบ ปธ.ตรวจการจ้างโครงการเขื่อนป้องกันตลิ่งพังยะลา
รมว.เกษตรและสหกรณ์ ยืนยัน สั่งสอบประธานกรรมการตรวจการจ้างโครงการก่อสร้างอาคารป้องกันตลิ่งยะลา ลั่นย้ายไปก่อนแล้วก็ไม่พ้นพงหนาม ขีดเส้น 30 วัน ขณะที่เลขาธิการ ป.ป.ท. จี้ย้ายข้ามภาค แฉ ผู้เกี่ยวข้องมีอิทธิพลในวงการก่อสร้างที่ฝังรากลึกมานาน อาศัยสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่กระทำทุจริต
ความไม่ชอบมาพากลในโครงการก่อสร้างอาคารป้องกันตลิ่ง หรือเรียกง่ายๆ ว่า "เขื่อนป้องกันตลิ่งพัง" ที่ จ.ยะลา ยังคงไม่จบง่ายๆ หลังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท.ลงพื้นที่ตรวจสอบโครงการ 2 แห่ง 2 พื้นที่ใน 2 อำเภอ คือ อ.บันนังสตา กับ อ.รามัน พบว่าก่อสร้างผิดสเปคเกือบทั้งหมด จึงฟันธงว่าเป็นการทุจริตแน่นอน ขณะที่กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะผู้รับผิดชอบโครงการ ได้สั่งย้ายนายช่างชลประทาน 3 คนที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับโครงการฯ ไปประจำที่สำนักงานชลประทานที่ 17 เพื่อรอการสอบสวน ซึ่งมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาแล้วเช่นกัน
แต่ปัญหาคาใจอยู่ตรงที่นายช่างชลประทาน 3 คนที่ถูกย้ายนั้น คนหนึ่ง คือ นายวินัย ไชยม่อม เป็นผู้ควบคุมงานก่อสร้าง และอีก 2 คนเป็นคณะกรรมการตรวจการจ้างและตรวจรับงาน แต่จริงๆ แล้ว คณะกรรมการตรวจการจ้างมี 3 คน "ทีมข่าวอิศรา" ตรวจสอบรายชื่อตามเอกสารไทม์ไลน์โครงการ พบว่าคณะกรรมการตรวจการจ้าง 3 คน คือ นายสุทิน รามแก้ว นายนิมะยากี นิฮะ และ นายเกรียงศักดิ์ ศรีเทพ โดยในคำสั่งย้ายก่อนหน้านี้ นายนิมะยากี กับ นายเกรียงศักดิ์ ถูกย้ายไปแล้ว แต่ นายสุทิน รามแก้ว ไม่มีชื่อในคำสั่ง
เรื่องนี้ทางกรมชลประทานชี้แจงไปยัง นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่า นายสุทิน รามแก้ว เป็นประธานกรรมการตรวจการจ้างโครงการนี้ สาเหตุที่ไม่ถูกย้าย เพราะแต่เดิม นายสุทิน สังกัดโครงการชลประทานยะลา ตำแหน่งหัวฝ่ายจัดสรรน้ำและปรับปรุงระบบชลประทาน แต่ถูกย้ายไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยย้ายไปสังกัดโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาปัตตานี ในตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายวิศวกรรม เมื่อย้ายไปแล้ว จึงไม่ต้องย้ายซ้ำอีก
แม้กรมชลประทานจะชี้แจงแบบนี้ แต่หลายฝ่ายก็ยังไม่หายคาใจ เพราะตามคำชี้แจงระบุว่า นายสุทิน ย้ายจากโครงการชลประทานยะลาไปปัตตานี เมื่อวันที่ 17 ต.ค.60 ส่งตัวไปเมื่อวันที่ 8 พ.ย.ปีเดียวกัน แต่คณะกรรมการตรวจการจ้างที่มี นายสุทิน เป็นประธาน ได้ตรวจรับงานโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่้งพังที่่มีปัญหา เมื่อวันที่ 27 ก.ย.60 ถ้าการตรวจรับงานถูกตั้งข้อสงสัยว่าผิดพลาด บกพร่อง เพราะงานก่อสร้างผิดสเปคหลายรายการ ก็ต้องถือว่าเป็นการลงนามตรวจรับงานไปก่อนที่จะมีคำสั่งย้ายไปปัตตานี จึงเกิดคำถามว่า นายสุทิน ต้องร่วมรับผิดชอบด้วยหรือไม่
ล่าสุด รมว.เกษตรและสหกรณ์ ชี้แจงประเด็นนี้กับ "ทีมข่าวอิศรา" ว่า ถึงแม้ นายสุทิน จะย้ายไปก่อนแล้ว แต่ก็ต้องถูกตั้งกรรมการสอบสวนด้วยเช่นเดียวกัน ไม่ถือว่าพ้นความผิด ฉะนั้นหลังจากนี้คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงที่กรมชลประทานตั้งขึ้น ก็ต้องสอบสวนนายสุทิน พร้อมกับนายช่างชลประทานอีก 3 คนที่โดนย้ายจากกรณีนี้ด้วย โดยมีระยะเวลาการสอบสวน 30 วัน
เลขาฯป.ป.ท.แฉอิทธิพลฝังรากลึก-จี้ย้ายข้ามภาค
ด้านความเคลื่อนไหวของ ป.ป.ท. ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่ตรวจสอบโครงการนี้ ได้เตรียมเสนอเรื่องให้บอร์ด ป.ป.ท. ตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนความผิด เพราะพบหลักฐานน่าเชื่อว่ามีการทุจริตจริง
สำนักข่าวเนชั่น และสื่อในเครือเนชั่น รายงานอ้างคำกล่าวของ พ.ท.กรทิพย์ ดาโรจน์ เลขาธิการ ป.ป.ท. สรุปว่า สำนักงาน ป.ป.ท.เขตพื้นที่ 9 ได้ตรวจสอบโครงการก่อสร้างอาคารป้องกันตลิ่งเสร็จสิ้นไปแล้ว 2 แห่ง คือ ใน อ.รามัน กับ อ.บันนังสตา จ.ยะลา งบประมาณรวมเกือบ 50 ล้านบาท ฉะนั้นในวันที่ 2 ส.ค.นี้ จะเสนอสำนวนเข้าสู่การพิจารณาของบอร์ด ป.ป.ท. เพื่อพิจารณาลงมติตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนความผิดต่อไป เนื่องจากผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่าโครงการนี้มีการตรวจรับงานและเบิกจ่ายงบประมาณไปหมดแล้ว ทั้งที่การก่อสร้างไม่เป็นไปตามสัญญา
การก่อสร้างที่อ้างว่าเสร็จแล้ว แต่ ป.ป.ท.ลงไปตรวจ พบว่าผิดสเปคทั้งเรื่องความยาว ความสูงของเขื่อนป้องกันตลิ่ง ขั้นบันไดคล้ายๆ สันเขื่อนก็มีไม่ครบ แถมเสาคอนกรีตเสริมเหล็กร้อยกว่าต้นที่ต้องปักเอาไว้เพื่อความมั่นคงแข็งแรง ก็ไม่มีสักต้น
เลขาธิการ ป.ป.ท. ยังบอกถึงปัญหาการสั่งย้ายนายช่างชลประทาน และเจ้าหน้าที่ชลประทาน 3 คน กับอีก 1 คนที่อ้างว่าย้ายไปก่อนแล้วด้วยว่า หากบอร์ด ป.ป.ท.มีมติตั้งอนุกรรมการไต่สวนความผิด สำนักงาน ป.ป.ท.จะมีหนังสือถึงกระทรวงเกษตรฯ ให้ย้ายเจ้าหน้าที่เหล่านี้ทั้งหมดออกนอกพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะกรณีส่อทุจริตโครงการชลประทานใน จ.ยะลานั้น มีข้อมูลเบาะแสว่าผู้เกี่ยวข้องเป็นผู้มีอิทธิพลในวงการก่อสร้างที่ฝังรากลึกมานาน อาศัยสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่กระทำทุจริต เพราะเชื่อว่าเป็นโครงการก่อสร้างในพื้นที่สีแดง ทำให้หน่วยงานตรวจสอบทุจริตลงพื้นที่ไปตรวจสอบยาก ฉะนั้นการสั่งย้ายเจ้าหน้าที จึงควรย้ายออกนอกจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือย้ายข้ามภาค หรือย้ายเข้ามาประจำกรม เพื่อให้คณะกรรมการสอบสวนทำงานได้อย่างเต็มที่ และสอบหาความผิดได้ชัดเจน
--------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : (ซ้าย) กฤษฎา บุญราช (ขวา) พ.ท.กรทิพย์ ดาโรจน์
ขอบคุณ : ภาพทั้ง 2 ภาพจากศูนย์ภาพเนชั่น รวมภาพโดยทีมข่าวอิศรา
อ่านประกอบ :
ลามหลายอำเภอ! สร้างแนวป้องกันตลิ่งยะลาส่อโกง ส่งมอบงานผิดสเปค แต่เบิกงบฉลุย
สั่งเด้ง! 3 นายช่างชลประทานยะลาเซ่นโครงการป้องกันตลิ่งพัง
เปิดข้อมูลก่อสร้างอาคารป้องกันตลิ่งยะลา ผิดสเปคอื้อ!
เคลียร์มั้ย? รมว.เกษตรฯแจงปม "ย้ายไม่ครบ" จนท.เอี่ยวเขื่อนป้องกันตลิ่งฉาว