สธ.ตั้งเป้าปี 58 ดันสมุนไพรเข้าบัญชียาหลัก 100 รายการ ลดการนำเข้ายานอก
สธ.เดินหน้าแพทย์แผนไทย ปี 58 เพิ่มสมุนไพร 100 รายการเข้าบัญชียาหลักลดการนำเข้ายาแผนปัจจุบัน ปี 56 ผู้ป่วยนอกใช้ยาไทยร้อยละ 20 สปสช.บรรจุสิทธิรักษาแผนไทยในบัตรทองแล้ว
เร็วๆนี้ นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(รมว.สธ.) กล่าวในการเปิดงานรวมพลังการแพทย์แผนไทยและการแพทย์พื้นบ้านใน 16 จังหวัดภาคกลาง ซึ่งจัดโดยกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ว่า สธ.เร่งสนองนโยบายรัฐบาลในการลดค่าใช้จ่ายยารักษาโรคของประเทศซึ่งมีมูลค่าการนำเข้ายาแผนปัจจุบันสูงถึงปีละกว่า 130,000 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 35 ของค่าใช้จ่ายสุขภาพทั้งหมด ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่สูงกว่าประเทศพัฒนาแล้ว ที่ใช้เพียงร้อยละ 20 เท่านั้น
โดยกระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายส่งเสริมให้โรงพยาบาลในสังกัดทั่วประเทศทุกระดับกว่า 10,000 แห่ง ให้บริการตรวจรักษาผู้ป่วยนอกด้วยแพทย์แผนไทยและใช้ยาสมุนไพรแทนยาแผนปัจจุบันอย่างน้อย 20 รายการ ซึ่งขณะนี้ได้บรรจุในบัญชียาหลักแห่งชาติ พ.ศ.2554 แล้ว 71 รายการ ในระยะเริ่มต้นในปี 2555 จะให้บริการผู้ป่วยนอกร้อยละ 10 ของผู้ป่วยทั้งหมดที่ใช้บริการ และเพิ่มเป็นร้อยละ 20 ในปีหน้า
รมว.สธ. กล่าวต่อว่าขณะนี้ได้มอบให้กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยฯ ศึกษาวิจัยยาสมุนไพรอีก 4 รายการเข้าในบัญชียาหลักแห่งชาติภายในปี 2555 และจะเพิ่มปีละประมาณ 5-10 รายการ โดยมีเป้าหมายจะเพิ่มให้ได้ทั้งหมด 100 รายการภายในปี 2558 ซึ่งจะทำให้คนไทยมียาสมุนไพรที่ได้มาตรฐานคุณภาพและความปลอดภัย ใช้รักษาอาการเจ็บป่วยหลากหลายทดแทนยาแผนปัจจุบันมากยิ่งขึ้น
ในส่วนของบริการประชาชนด้านการแพทย์แผนไทยมีนโยบายให้โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป และโรงพยาบาลชุมชน เป็นศูนย์บริการด้านการแพทย์แผนไทย ซึ่งจะมีนักการแพทย์แผนไทยประจำการ มีรายการยาสมุนไพรใช้มากกว่า 20 รายการ มีบริการรักษาด้วยการนวด อบ ประคบ บรรเทาอาการปวดเมื่อย และดูแลหญิงหลังคลอดด้วยวิธีการทับหม้อเกลือ ซึ่งผ่านการศึกษาวิจัยแล้วได้ผลทำให้มดลูกเข้าอู่เร็ว และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.)ได้บรรจุเป็นสิทธิประโยชน์ของโครงการบัตรทองในอัตราไม่เกิน 2,500 บาท/1 ชุดบริการ( 5 ครั้ง) เรียบร้อยแล้วในปี 2555 และดำเนินการแล้วในโรงพยาบาล 200 แห่ง มีเป้าหมายจะเพิ่มให้ได้ 800 แห่งภายในปี 2558