เครือข่ายชาวพุทธฯ แถลงประณามบึ้มในสวนยาง
เครือข่ายชาวพุทธเพื่อสันติภาพ ออกแถลงการณ์ในหัวข้อ "ประณามการก่อเหตุอย่างโหดร้ายและไร้มนุษยธรรม" กรณีคนร้ายก่อเหตุในสวนยางพารา จ.ยะลา 6 จุดในรอบ 1 สัปดาห์ ทำให้มีชาวบ้านได้รับบาดเจ็บหลายราย
แถลงการณ์ระบุว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีข้อสังเกตว่า ผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดเป็นชาวไทยพุทธในพื้นที่สวนยางพาราที่ชาวบ้านประกอบสัมมาอาชีพตามปกติ การกระทำดังกล่าวอาจมีเจตนาแอบแฝง ไม่ใช่แต่เพียงสร้างความเดือดร้อนเสียหายแก่ชาวพุทธในพื้นที่ซึ่งเป็นประชากรส่วนน้อย แต่ยังอาจหมายถึงการสร้างความแตกแยกในหมู่ประชาชนในพื้นที่เพื่อหวังผลในการสร้างความเกลียดชังทางชาติพันธุ์ต่อกัน
เครือข่ายชาวพุทธเพื่อสันติภาพ ขอประณามการก่อเหตุที่โหดร้ายและไร้มนุษยธรรม พร้อมมีข้อเสนอดังต่อไปนี้
1.กลุ่มผู้ก่อการ หรือกลุ่มใดๆ ควรยุติการกระทำอันโหดร้ายและไร้มนุษยธรรมต่อพลเรือน
2.กลุ่มผู้ก่อการ หรือกลุ่มใดๆ ควรยุติการใช้ทุ่นระเบิดต่อการสังหารบุคคลและยุติการโจมตีพลเรือนทันที "การวางทุ่นระเบิดบนพื้นที่ปลูกยางพาราและเส้นทางที่ชาวบ้านใช้เป็นสิ่งที่โหดร้าย"
3.กลุ่มผู้ก่อการ หรือกลุ่มใดๆ ควรปฏิบัติตามสนธิสัญญาห้ามใช้ทุ่นระเบิดในปี พ.ศ. 2540 ซึ่งประเทศไทยได้ให้สัตยาบันเมื่อปี พ.ศ. 2544 ห้ามมิให้มีการสังหารหมู่เนื่องจากไม่สามารถแยกแยะระหว่างพลเรือนและพลรบ
(สนธิสัญญาที่อ้างถึงในแถลงการณ์ คือ อนุสัญญาว่าด้วยการห้ามใช้ สะสม ผลิต และโอน และการทำลายทุ่นระเบิดสังหารบุคคล หรืออนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล (Mine Ban Convention) ลงนามเมื่อปี 2540 หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า อนุสัญญาออตตาวา)
พร้อมกันนี้ ขอเรียกร้องให้
1.ให้นักสิทธิมนุษยชนลงพื้นที่เพื่อเยี่ยมเหยื่อผู้ได้รับผลกระทบ พร้อมรับข้อร้องเรียนโดยด่วน
2.ให้รัฐบาล และคู่พูดคุย เร่งดำเนินงานให้กลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับการพูดคุยทั้งสองฝ่าย เข้าร่วมกระบวนการพูดคุยโดยด่วน
3.ให้องค์กรภาคประชาสังคม ออกมาแสดงถึงการไม่เห็นด้วยต่อการกระทำอันโหดร้ายและไร้มนุษยธรรมต่อพลเรือน
4.หน่วยงานของรัฐ และภาคประชาสังคมที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการป้องกันและปกป้องไม่ให้การกระทำดังกล่าวเกิดซ้ำ โดยการสร้างพื้นที่การพูดคุยระหว่างกัน เพื่อเป็นการลดอคติต่อกัน
5.รัฐเร่งนำผู้กระทำผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมอย่างโปร่งใสและเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย
สำหรับองค์กรที่เข้าร่วมและออกแถลงการณ์กับเครือข่ายชาวพุทธเพื่อสันติภาพ ได้แก่ สมาคมไทยพุทธรักชาติ, สมาคมฟ้าใสส่งเสริมสุขภาวะเด็กและเยาวชนชายแดนใต้, ชมรมพุทธรักษาจังหวัดชายแดนใต้, กลุ่มรวมพลังไทยพุทธ, กลุ่มจ้าวสมุทร และกลุ่มพิทักษ์ไทย
รักชาติ สุวรรณ ประธานเครือข่ายชาวพุทธเพื่อสันติภาพจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า ระเบิดในสวนยางพาราทั้งหมดเกิดขึ้นในชุมชนเข้มแข็ง กลุ่มที่ก่อเหตุเป็นกลุ่มเก่าและกลุ่มใหม่ที่อยู่ในพื้นที่ โดยกลุ่มเก่าเป็นพี่เลี้ยงให้กับคนรุ่นใหม่ เพื่อต้องการข่มขวัญคนไทยพุทธให้ออกนอกพื้นที่
สิ่งที่กังวลคือ ความหวาดระแวงของคนในพื้นที่ที่จะตามมา และมือที่สามที่จะเข้ามาซ้ำเติมปัญหา ฉะนั้นรัฐควรจัดให้มีเวทีสร้างความเข้าใจทั้งสองฝ่าย ที่สำคัญรัฐต้องฟังชาวบ้าน ส่วนการช่วยเหลือเยียวยาของภาครัฐ ไม่เห็นด้วยหากจะให้เป็นเงินก้อน และช่วยเหลือเพียงระยะสั้น
"เรื่องการเยียวยารัฐก็เจอปัญหามาพอสมควร โดยเฉพาะการให้เงินเป็นก้อนแล้วสูญเปล่า ผู้ได้รับผลกระทบจริงได้รับส่วนน้อย ญาติและบุคคลในครอบครัวจะมาเอาไป การดูแลที่ดีที่สุดคือดูแลระยะยาว ฝึกอาชีพ และดูแลบุตรหลานให้เรียนจบ มีงานทำ เพื่อให้เขาสามารถมาดูแลครอบครัวต่อได้ ไม่ใช่แค่ให้เรียนแล้วจบกัน"
รักชาติ บอกด้วยว่า วันนี้ชาวสวนยางมีความเสี่ยงสูง รัฐควรเยียวยาชาวสวนยางที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง โดยเฉพาะกลุ่มคนพุทธที่เป็นเป้าหมายชัดเจน ส่วนมาตรการการดูแล รัฐควรมีเวทีให้ทั้งชาวบ้านที่เป็นพุทธและมุสลิมมาร่วมวางมาตรการดูแลพื้นที่ร่วมกัน ฟังเสียงชาวบ้านว่าเห็นควรจะทำอย่างไร
-----------------------------------------------------------------------------------------
ขอบคุณ : กราฟฟิกสรุปเหตุระเบิดในสวนยางพารา จ.ยะลา จากรายการ "ล่าความจริง" เนชั่นทีวี 22
อ่านประกอบ :
บึ้มสวนยางยะลารายวัน สัปดาห์เดียว 6 จุด ชี้สุดเลวร้าย-ซ้ำเติมชาวบ้าน
บึ้มสวนยางยะลารอบ 3 ใน 5 วัน ชาวบ้านสาหัส
ย้อนอดีต 8 ปี บึ้มสวนยางยะลา 15 ครั้ง ขาขาดเพียบ
บึ้มสวนยางยะลาซ้ำ ชายวัย 48 สาหัส
ระเบิดในสวนยางโผล่อีก หญิงวัย 34 ปีขาขาด สลดมีลูกป่วยเป็นโรคหัวใจ
“ไปกลางวันถูกระเบิด ไปกลางคืนถูกยิง” ชีวิตจริงของเหยื่อพิการคาสวนยางแดนใต้
ลบฝันวันร้าย..."ขาเทียม"กับชีวิตใหม่ของเหยื่อบึ้มในสวนยาง
ผ่า 2 ปมบึ้มถี่ที่ธารโต...ฮุบสวนยาง-เล่นงาน จนท.ซ้ำ
ถอดรหัสบึ้ม 6 ปีตากใบบรรลุ 5 เป้าหมาย จับตา 64 ชุมชนไทยพุทธสุดวิกฤติ!