จีสด้าเผยภาพจากดาวเทียม แสดงพื้นที่ได้รับผลกระทบจากการระบายน้ำถ้ำหลวง
GISTDA เผยข้อมูลภาพดาวเทียม Sentinal-1 แสดงให้เห็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการระบายน้ำถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย เทียบ สีฟ้าแสดง น้ำในทุ่งที่อยู่ระหว่างทำนา พื้นที่น้ำขังจากฝนตกตามปกติ 22 มิ.ย. ส่วนพื้นที่ชมพู คาดได้รับผลกระทบ ตั้งแต่วันที่ 27 มิ.ย.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA ได้เปิดเผยข้อมูลภาพจากดาวเทียม Sentinal-1 แสดงให้เห็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการระบายน้ำออกจากถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย
โดยพื้นที่สีฟ้าแสดงให้เห็นถึงน้ำในทุ่งที่อยู่ระหว่างการทำนา และพื้นที่น้ำขังจากภาวะฝนตกตามปกติ เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2561 และพื้นที่ชมพู (วงรีสีเหลือง) แสดงให้เห็นบริเวณที่คาดว่าจะเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการระบายน้ำออกจากถ้ำหลวงฯ ตั้งแต่วันที่ 27 มิถุนายน 2561
ทั้งนี้ จิสด้าได้ส่งข้อมูลให้กับทางสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ สทนช. และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อใช้ประโยชน์ในบริหารจัดการต่อไป
สำหรับการช่วยเหลือเกษตรกรจากการระบายน้ำออกจากถ้ำหลวง-นางนอน ส่งผลให้ปริมาณน้ำท่วมนานั้น มีรายงานด้วยว่า เกษตรกรได้รับความเสียหาย จำนวน 101 ราย พื้นที่นาในอำเภอแม่สายได้รับความเสียหายจำนวน 3 ตำบล 7 หมู่บ้าน เสียหาย 1,397.50 ไร่ โดยข้าวนาปีที่ได้รับผลกระทบมีอายุระหว่าง 15-20 วัน ซึ่งกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย ได้ประกาศ เป็นพื้นที่ประสบสาธารณภัยในพื้นที่อำเภอแม่สาย ตั้งแต่วันที่ 24 มิถุนายน 2561 เพื่อประโยชน์ในการจัดการสาธารณภัยให้เป็นไปตามแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ.2558 และต่อมาผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายได้ประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติแล้ว จึงเข้าหลักเกณฑ์การได้รับความคุ้มครองจากกรมธรรม์ประกันภัยข้าวนาปีในทันที ดังนั้น นอกจากที่เกษตรกรได้รับการช่วยเหลือเยียวยาจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แล้ว ยังจะได้รับเงินสินไหมทดแทนจากกรมธรรม์ประกันภัยข้าวนาปีวงเงินความคุ้มครองสูงสุด 1,260 บาทต่อไร่อีกด้วย (ที่มา:http://www.thaigov.go.th/news/contents/details/13577)