สร้างเสร็จใช้ปย.ไม่ได้2ปีครึ่ง! สตง.ชี้ประปา-ไฟฟ้าชุมชนกาญฯเหลว-ส่งป.ป.ช.ฟันผู้เกี่ยวข้อง
สตง. ยันส่งเรื่อง ป.ป.ช.สอบผู้เกี่ยวข้องงานระบบนำร่องประปา-ไฟฟ้าชุมชนกาญจนบุรีแล้ว เผยผลตรวจสอบการดำเนินงานชี้ชัดปัญหาเพียบ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านโบอ่อง สร้างเสร็จผลิตกระแสไฟฟ้าได้ 2 เดือน หลังจากนั้นไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้นาน 2 ปี 6 เดือน เช่นเดียวโครงการอื่น ชี้รัฐสูญงบประมาณหลายล้าน ต้องเสียเงินซ่อมแซมอีก
สืบเนื่องจาก สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำเสนอข้อเท็จจริงการดำเนินงานโครงการนำร่องการนำเทคโนโลยีพลังงานทดแทนมาใช้ในระบบสูบน้ำ เพื่อผลิตน้ำประปาหมู่บ้าน และผลิตไฟฟ้าสำหรับชุมชน ของ สำนักงานพลังงานจังหวัดกาญจนบุรี สำนักงานปลัดกระทรวงพลังงาน กระทรวงพลังงาน วงเงินหลายล้านบาท ถูกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจสอบพบปัญหาผู้บริหารระดับสูงในสำนักงานพลังงานจังหวัดกาญจนบุรี และเจ้าหน้าที่อีก 2 ราย จัดทำเอกสารอันเป็นเท็จเพื่อเบิกจ่ายเงินเดินทางไปราชการ ติดตามงานโครงการ จำนวนเงิน 92,520 บาท และยังถูกตรวจสอบพบปัญหากรณีคณะกรรมการตรวจรับงานเซ็นรับงานก่อน ทั้งที่การดำเนินงานโครงการก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จด้วย (อ่านประกอบ : ตรวจรับงานก่อนสร้างเสร็จ! เปิดผลสอบ สตง.มัดโครงการประปา-ไฟฟ้าชุมชนกาญจนบุรี-ส่ง ป.ป.ช.แล้ว,ยันไปดูงานจริงแต่ สตง.ไม่เชื่อ! เปิดชื่อบิ๊กพลังงานกาญจนบุรี-พวก ถูกสอบเบิกเงินเท็จ 9.2 หมื่น)
โดยในรายงานผลการตรวจสอบสตง.ระบุว่า การดำเนินงานโครงการนี้ ตามสัญญาจ้างเลขที่ 327/2557 ลงวันที่ 31 ก.ค.2557 สำนักงานพลังงานจังหวัดกาญจนบุรี ได้ว่าจ้าง ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) ทีที แคมป์ กรู๊ป เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้างโครงการนำร่องการนำเทคโนโลยีพลังงานทดแทนมาใช้ในระบบสูบน้ำเพื่อผลิตน้ำประปาและผลิตกระแสไฟฟ้าสำหรับชุมชน จำนวน 4 แห่ง ประกอบด้วย สถานีสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ พร้อมถังบรรจุน้ำและระบบท่อ จำนวน 2 แห่ง คือ หมู่ที่ 2 และหมู่ที่ 9 ตำบลลุ่มสุ่ม อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี และระบบผลิตไฟฟ้าด้วยพลังน จำนวน 2 แห่ง คือ หมู่ที่ 2 และหมู่ที่ 4 ตำบลปิล๊อก อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ขณะที่ปัจจุบันห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) ทีที แคมป์ กรู๊ป แจ้งเปลี่ยนสถานะและชื่อใหม่เป็น บริษัท เคอร์เรนท์ เอ็นเนอร์จี จำกัด (อ่านประกอบ : ตรวจรับงานก่อนสร้างเสร็จ! เปิดผลสอบ สตง.มัดโครงการประปา-ไฟฟ้าชุมชนกาญจนบุรี-ส่ง ป.ป.ช.แล้ว, เปิดตัว 'ทีทีแคมป์' รับเหมาระบบประปา-ไฟฟ้าชุมชนกาญจนบุรี เบ็ดเสร็จได้ 2 สัญญา 13ล.)
ขณะที่ นายยุทธการ มากพันธุ์ กรรมการและผู้ถือหุ้นใหญ่ ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) ทีที แคมป์ กรุ๊ป หรือชื่อใหม่ บริษัท เคอร์เรนท์ เอ็นเนอร์จี จำกัด ชี้แจงสำนักข่าวอิศรา ว่า การดำเนินงานของบริษัทไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตทุกประการ และได้ปฏิบัติตามระเบียบขั้นตอนการทำงานราชการ โดยเบื้องต้น สตง. ได้เข้ามาตรวจสอบการดำเนินโครงการดังกล่าวเมื่อประมาณเดือน ก.พ.2560 ที่ผ่านมา เบื้องต้นได้เข้าชี้แจงพร้อมส่งข้อมูลเอกสารการดำเนินการทุกอย่างไปให้ตรวจสอบแล้ว และในช่วงเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา ก็ได้ชี้แจงพร้อมส่งเอกสารการดำเนินการให้กับ ป.ป.ช. เช่นกัน และปัจจุบันทางสำนักงานพลังงานจังหวัดกาญจนบุรี ได้สั่งรื้อถอนทั้ง 2 โครงการแล้ว (อ่านประกอบ : ถูกสั่งรื้อถอน2โครงการ-แบกหนี้1ล.! ทีทีแคมป์ฯ ยันไร้ทุจริตรับสร้างประปา-ไฟฟ้าชุมชนกาญฯ)
ล่าสุด แหล่งข่าวจากสตง. กล่าวยืนยันสำนักข่าวอิศรา ว่า สตง. ได้ส่งรายงานผลการตรวจสอบเรื่องนี้พร้อมเอกสารหลักฐานไปให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) รับไปดำเนินการสอบสวนผู้เกี่ยวข้องตามขั้นตอนทางกฎหมายแล้ว หลังจากพบความไม่ชอบมาพากลในการดำเนินงานหลายประเด็น แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดส่วนนี้
อย่างไรก็ตาม ในส่วนผลการดำเนินงานโครงการนำร่องนำเทคโนโลยีพลังงานทดแทนมาใช้ในระบบสูบน้ำเพื่อผลิตน้ำประปาหมู่บ้านและผลิตไฟฟ้าสำหรับชุมชน 4 โครงการ ที่ดำเนินการไปแล้ว จากการลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่า มีปัญหาจำนวนมาก ไม่สามารถใช้ประโยชน์ให้บรรลุวัตถุประสงค์โครงการ ประชาชนไม่ได้รับการพัฒนาด้านพลังงานเพื่อให้เกิดการประหยัดพลังงานอย่างแท้จริงและยั่งยืน รัฐต้องสูญเสียงบประมาณในการบริหารประเทศเป็นจำนวนเงินหลายล้านบาท และยังต้องจัดหางบประมาณเพื่อมาซ่อมแซมอุปกรณ์ของระบบสูบน้ำด้วยไฟฟ้าที่มีการสูญหายและชำรุดให้อยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ด้วย ทั้งที่ก่อสร้างมาได้ไม่นาน
โดยในส่วนข้อมูลในส่วนงานการก่อสร้างสถานีสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์พร้อมถังบรรจุน้ำและระบบท่อ งบประมาณ จำนวน 5,600,000 บาท เป็นการสูบน้ำจากแม่น้ำแควน้อยไปยังสระเก็บน้ำเดิมใกล้หอถังประปาของ อบต.ลุ่มสุ่มและสูบน้ำจากสระเข้าหอถังประปา ระยะทางจากแม่น้ำแควน้อยถึงหอถังประปามีความยาว 5 กิโลเมตร โดยก่อสร้างจุดพักน้ำจำนวน 13 จุด เพื่อทยอยสูบน้ำไปยังปลายทาง จากการตรวจสังเกตการณ์งานก่อสร้างเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2560 พบว่าสถานีสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้ นับตั้งแต่วันที่คณะกรรมการตรวจรับงานจ้าง เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2557 ถึงวันที่สังเกตการณ์รวมเป็นระยะเวลา 2 ปี 6 เดือน
ขณะที่ การก่อสร้างระบบผลิตไฟฟ้าด้วยพลังน้ำ งบประมาณ 750,000 บาท จำนวน 2 แห่ง ได้แก่ 1. ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านโบอ่อง หมู่ที่ 2 ต้าบลปิล๊อก อำเภอทองผาภูมิ งบประมาณ 375,000 บาท ก่อนที่สำนักงานพลังงานจังหวัดกาญจนบุรี จะก่อสร้างระบบผลิตไฟฟ้าด้วยพลังน้ำ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กฯ และประชาชนหมู่ที่ 2 จำนวน 541 ครัวเรือน ตำบลปิล๊อก ใช้กระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาลที่จัดสรรงบประมาณในการติดตั้งแผงโซลาเซลล์ เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าให้กับครัวเรือนทีไฟฟ้ายังเข้าไม่ถึง ในปี 2557 สำนักงานพลังงานจังหวัดกาญจนบุรี ได้รับงบประมาณในการก่อสร้างระบบผลิตไฟฟ้าด้วยพลังน้ำ โดยก่อสร้างบริเวณฝายน้ำล้นของแหล่งน้ำธรรมชาติ เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าส่งไปยังศูนย์พัฒนาเด็กเล็กฯ เพียงแห่งเดียว และในปีเดียวกันภาคเอกชนได้เข้ามาแก้ไขปัญหาโดยรวบรวมเงินเพื่อติดตั้งแผงโซลาเซล์สำหรับผลิตกระแสไฟฟ้าใช้ที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กฯ ซึ่งโครงการของเอกชนทำให้ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กฯ ได้มีไฟฟ้าใช้จนกระทั่งปัจจุบัน จากการสัมภาษณ์ ได้ข้อมูลว่าหลังจากการก่อสร้างแล้วเสร็จ สามารถผลิต กระแสไฟฟ้าได้ 2 เดือน หลังจากนั้นไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้จนถึงวันที่สังเกตการณ์ รวมเป็นระยะเวลา 2 ปี 4 เดือน และจากการสังเกตการณ์ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2560 พบว่าระบบผลิตไฟฟ้าไม่มีน้ำไหลผ่าน อุปกรณ์ชำรุด จึงไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้
ส่วนโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านปิล๊อกคี่ หมู่ที่ 4 ต้าบลปิล๊อก อ้าเภอทองผาภูมิ งบประมาณ 375,000 บาท ก่อนที่สำนักงานพลังงานจังหวัดกาญจนบุรี จะก่อสร้างระบบผลิตไฟฟ้าด้วยพลังน้ำรร.ตชด.บ้านปิล๊อกคี่ ใช้กระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งผลิตกระแสไฟฟ้าใช้เพียงพอสำหรับ โรงเรียน เมื่อโครงการก่อสร้างกระแสไฟฟ้าด้วยพลังน้ำ ก่อสร้างแล้วเสร็จปรากฏว่าแหล่งน้ำที่จะนำมาในการผลิตกระแสไฟฟ้าเป็นแหล่งน้ำจากประปาภูเขาที่โรงเรียนฯ นำมาเก็บกักไว้ในถังเก็บกักน้ำขนาด 30 ลบ.ม. เพื่อที่จะให้ครูและนักเรียนในโรงเรียนฯ ใช้ในการอุปโภคบริโภค มีไม่เพียงพอสำหรับนำมา
ผลิตกระแสไฟฟ้า จึงไม่มีการใช้ประโยชน์ตั้งแต่วันที่คณะกรรมการตรวจรับงานจ้าง จนถึงวันที่ สังเกตการณ์ 23 พฤษภาคม 2560 รวมเป็นระยะเวลา 2 ปี 6 เดือน
