ใช้หนังสือทำเอกสารแจกผู้อบรมไม่อ้างอิง!สั่งสอบวินัย จนท.-ครู กศน.5 ราย-เด้ง ผอ.กทม.
โครงการอบรมประวัติศาสตร์ชาติไทยเกิดปัญหาใหม่ ก.ศึกษาฯ สั่งตั้งคกก.สอบวินัยไม่ร้ายแรง จนท.-ครู กศน.สังกัดกทม. 5 ราย เหตุนำเนื้อหาหนังสือไปผลิตซ้ำเป็นคู่มือมอบแจกผู้เข้ารับการอบรมโดยไม่อ้างอิงแหล่งที่มา สะพัดชนวนเหตุโยกย้ายผอ. ไปอยู่นครปฐมด้วย
การจัดทำโครงการอบรมประวัติศาสตร์ชาติไทย เพื่อน้อมรำลึกบุญคุณของพระมหากษัตริย์ไทย และการจัดกระบวนการเรียนการสอน ในการเรียนรู้เรื่องประวัติศาสตร์ชาติไทย ที่สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ในฐานะผู้ร่วมจัดทำโครงการ ยืนยันกับสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า ไม่มีปัญหาการผูกขาดตัววิทยากร ส่วนการใช้จ่ายงบประมาณในโครงการก็มีความถูกต้องตามระเบียบกรมบัญชีกลางทุกประการ (อ่านประกอบ : กอ.รมน.-กศน.แจง'อิศรา'เพิ่ม วิทยากรโครงการประวัติศาสตร์ชาติ ไม่ได้รับค่าเดินทาง-ที่พัก) กำลังเกิดปัญหาการนำเนื้อหาในหนังสือประวัติศาสตร์ชาติไทย และบุญคุณพระมหากษัตริย์ไทย ไปดำเนินการผลิตซ้ำเป็นคู่มือการฝึกอบรมเพื่อมอบให้ผู้เข้ารับการอบรมของสำนักงาน กศน.กรุงเทพมหานคร จนส่งผลทำให้ต้องมีการออกคำสั่งกระทรวงศึกษาธิการ แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยไม่ร้ายแรง เจ้าหน้าที่สำนักงาน กศน. กรุงเทพฯ และครู กศน. 5 เขตในพื้นที่กรุงเทพฯ อยู่ในขณะนี้
สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. 2561 ที่ผ่านมา นายกฤตชัย อรุณรัตน์ เลขาธิการ กศน. ปฎิบัติราชการแทนปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ได้ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยไม่ร้ายแรง เจ้าหน้าที่สำนักงาน กศน.กรุงเทพฯ 1 ราย และครู กศน. จำนวน 4 ราย ในเขตจอมทอง เขตทุ่งครุ เขตพระโขนง และเขตบางกอกน้อย สังกัด กศน.กรุงเทพฯ รวมจำนวนทั้งสิ้น 5 ราย
ระบุพฤติการณ์ไม่ปฏิบัติหน้าที่ราชการให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบแบบแผนของทางราชการ และหน่วยงานการศึกษามติคณะรัฐมนตรี หรือนโยบายของรัฐบาลโดยถือประโยชน์สูงสุดของผู้เรียน และไม่ให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ และต้องประพฤติเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ผู้เรียน ชุมชน สังคม กรณีได้นำเนื้อหาในหนังสือประวัติศาสตร์ชาติไทย และบุญคุณพระมหากษัตริย์ไทยโดยไม่ได้อ้างอิงแหล่งที่มา ไปดำเนินการผลิตซ้ำเป็นคู่มือการอบรมมอบให้ผู้เข้ารับการอบรมของสำนักงาน กศน.กรุงเทพฯ
สำหรับคณะกรรมการสอบสวนวินัยไม่ร้ายแรงกรณีนี้ มีนายธีรยล แสงอำนาจเจริญ ผู้อำนวยการสำนักงาน กศน.จังหวัด วิทยฐานะผู้อำนวยการสำนักงาน กศน.จังหวัด ชำนาญการพิเศษ เป็นประธาน โดยกำหนดให้คณะกรรมการสอบสวนดำเนินการสอบสวนพิจารณาตามหลักเกณฑ์และวิธีการและระยะเวลาที่กำหนดในกฎ ก.พ.ว่า ด้วยการดำเนินการทางวินัย พ.ศ. 2556 แล้ว เสนอสำนวนการสอบสวนมาเพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป และถ้าคณะกรรมการสอบสวนเห็นว่า กรณีมีมูลว่า ผู้ถูกกล่าวหากระทำผิดวินัยในเรื่องอื่นนอกจากที่ระบุไว้ในคำสั่งนี้ หรือกรณีที่การสอบสวนพาดพิงไปถึงผู้อื่นให้ดำเนินการตามกฎ ก.พ.ว่าด้วยการดำเนินการทางวินัย พ.ศ. 2560 ด้วย
ทั้งนี้ มีรายงานข่าวแจ้งว่า เกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นในการจัดทำโครงการอบรมประวัติศาสตร์ชาติไทย เพื่อน้อมรำลึกบุญคุณของพระมหากษัตริย์ไทย และการจัดกระบวนการเรียนการสอน ในการเรียนรู้เรื่องประวัติศาสตร์ชาติไทย ของสำนักงาน กศน.กทม. ดังกล่าว เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ นางวิบูลผล พร้อมมูล ผู้อำนวยการสำนักงาน กศน.กทม. ถูกโยกย้ายไปดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ สำนักงาน กศน.จังหวัดนครปฐม เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.2561 ด้วย
ส่วนกรณีที่ กศน. และ กอ.รมน. ชี้แจงข้อเท็จจริงกับสำนักข่าวอิศรา ก่อนหน้านี้ว่า การจ่ายเงินค่าตอบแทนวิทยากรโครงการอบรมประวัติศาสตร์ชาติไทย จะจ่ายให้เฉพาะค่าวิทยากรเพียงอย่างเดียว เป็นการจ่ายค่าตอบแทนวิทยากรในการอบรมตามโครงการรวมทั้งหมดจำนวน 8 ครั้งของการจัดอบรม ตามโครงการ มีเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบในเรื่องการบริหารจัดการโครงการและการเบิกจ่ายเงินไปด้วยทุกครั้ง นั้น แหล่งข่าวจาก กศน. กล่าวกับสำนักข่าวอิศราว่า คำชี้แจงดังกล่าวกำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์จากกลุ่มข้าราชการและเจ้าหน้าที่ กศน.บางส่วนว่า มีความขัดแย้งกับข้อเท็จจริงที่ปรากฏในเอกสารเสนอเรื่องขออนุมัติโครงการอบรมที่ดำเนินการไปแล้ว ซึ่งมีการระบุถึงค่าที่พัก ค่าพาหนะเดินทาง รวมถึงค่าสื่อสำหรับประกอบการอบรม คือ หนังสือ ในราคาเล่มละ 1,200 บาท ร่วมอยู่ด้วย