รวบเพิ่ม-สารภาพสิ้น "ไปป์บอมบ์ 41 ลูก" แฉส่งจากเพื่อนบ้านเข้าไทย
มีความคืบหน้าคดีสกัดจับระเบิดไปป์บอมบ์ 41 ลูก พร้อมชุดวงจรตั้งเวลา คารถกระบะใน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 มิ.ย.61 ที่ผ่านมา โดยล่าสุดตำรวจตามรวบตัวผู้ต้องสงสัยได้เพิ่มเติม ขณะนี้โชเฟอร์ที่ถูกจับในวันเกิดเหตุ ยอมสารภาพและซัดทอดผู้เกี่ยวข้องทั้งขบวนการ
พล.ต.ต.มนัส ศิกษมัต ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส (ผบก.ภ.จว.นราธิวาส) เปิดเผยกับ "ทีมข่าวอิศรา" ว่า คดีมีความคืบหน้าไปมาก โดยตำรวจได้ขออนุมัติหมายจับ นายอับดุลอาซิ สามะ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 133 หมู่ 1 ต.บางขุนทอง อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นผู้ต้องหาที่อยู่ในรถขณะโดนสกัดจับ แต่หลบหนีไปได้
นอกจากนั้น จากการสอบสวน นายซานูซี ยาแต อายุ 39 ปี ชาว ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ซึ่งรับหน้าที่โชเฟอร์ และถูกจับกุมได้ในวันเกิดเหตุ ปรากฏว่าให้การเป็นประโยชน์มาก
"เขาบอกหมดเลยว่าคนสั่งชื่ออะไร มีใครเกี่ยวข้องบ้าง จะเอาระเบิดไปให้ใคร มีใครบ้างที่ร่วมทีม ใครทำหน้าที่อะไร เขาสามารถบอกชื่อได้หมด ทำให้สามารถควบคุมตัว ผู้ต้องสงสัยมาได้เพิ่มอีก 2 คน รวมทั้งหมดจับมาแล้ว 3 คน ตอนนี้ควบคุมตัวตามอำนาจกฎอัยการศึก ยังไม่ได้แจ้งข้อหา" ผบก.ภ.จว.นราธิวาส กล่าว
พล.ต.ต.มนัส บอกด้วยว่า กลุ่มที่ปฏิบัติการครั้งนี้เป็นขบวนการก่อความไม่สงบ นายซานูซียืนยันด้วยว่า วัสดุที่ใช้และการประกอบระเบิด ทำในประเทศเพื่อนบ้านทั้งหมด จากนั้นก็นำเข้ามาในบ้านเรา
"เขายืนยันแบบนั้น ทุกอย่างทำในประเทศเพื่อนบ้านทั้งหมด วันไปรับระเบิด เขาไปกับนายอับดุลอาซิที่หลบหนีไปได้ ใช้รถยนต์กระบะคันที่บรรทุกระเบิดมาเป็นพาหนะ ไปรับบริเวณริมคลองตะเข็บชายแดนไทย-มาเลเซีย บริเวณช่องทางเถื่อน บ้านปะคาดอ ต.นานาค อ.ตากใบ มีชาย 4 คนขี่รถจักรยานยนต์ 2 คันซ้อนท้ายกันมาส่งระเบิด แล้วทั้งสองคนก็ขนระเบิดขึ้นรถกระบะ ปลายทางเอาไปให้กับคนร้ายในพื้นที่ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส แต่ระหว่างทางถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงตรวจจับได้เสียก่อน"
ผู้การนราธิวาส ยังแสดงความเป็นห่วงกรณีที่คนร้ายฝั่งไทยใช้พื้นที่ของประเทศเพื่อนบ้านในการหลบซ่อนกบดาน ทั้งสนับสนุนการก่อความไม่สงบและการก่ออาชญากรรมต่างๆ]
"ผู้ต้องหาใน จ.นราธิวาส มีเป็นจำนวนมาก ทั้งคดีความมั่นคง คดียาเสพติด คดีอาชญากรรมต่างๆ ทำในพื้นที่แล้วกลับไปอยู่ประเทศเพื่อนบ้าน โดยเจ้าหน้าที่ไทยไม่สามารถเข้าไปจับได้ เคยขอความร่วมมือไปก็ไม่ได้ทำอะไร เขาเหล่านั้นก็เลยอยู่สบาย"
"เฉพาะผู้ต้องหาคดีความมั่นคงของ จ.นราธิวาส แยกออกเป็น 2 ส่วน คือส่วน อ.ระแงะ ศรีสาคร สุคิริน เจาะไอร้อง จะอยู่บนภูเขา แต่ส่วน สุไหงโก-ลก ตากใบ อ.เมือง โซนนี้จะไปอยู่ประเทศเพื่อนนบ้าน แถมพวกเขามี 2 สัญชาติ อีกอย่างบางคนก็เป็นเครือญาติ เป็นสามีภรรยากันระหว่างคนไทยบ้านเรากับคนของประเทศเพื่อนบ้าน มันจึงยากที่จะควบคุม แต่มันจะง่ายถ้าเพื่อนบ้านช่วยเข้มงวดเรื่องการผ่านเข้า-ออก การข้ามแดน และปราบปรามคนที่มีคดีแล้วหลบไปอยู่ทางโน้น แต่ที่ผ่านมาเขาไม่ทำอะไร ไม่ช่วยเลย เชื่อว่านราธิวาสสงบแน่ ถ้าเพื่อนบ้านเข้มงวดการเข้าออกตามแนวชายแดน"
"แต่สถานการณ์ปัจจุบันนี้ ฝังระเบิดฝั่งไทย ไปยืนกดระเบิดอีกฝั่งได้เลย ก็ต้องรอดูว่าสภาความมั่นคงแห่งชาติ และคณะกรรมการชายแดนของสองประเทศ จะแสวงหาความร่วมมืออย่างไรได้บ้าง" พล.ต.ต.มนัส กล่าว
ด้าน พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) กล่าวว่า ทางหน่วยยังไม่มีเอกสารที่เป็นทางการยืนยันว่าระเบิดมาจากประเทศเพื่อนบ้าน จึงยังไม่สามารถแสดงความเห็นอะไรได้
อนึ่งการยึด "ไปป์บอมบ์" ล็อตใหญ่ครั้งนี้ เป็นฝีมือของตำรวจทางหลวง 3 นาย คือ ด.ต.กมล ทองคำ, ด.ต.เอนก เต็มพร้อม และ ด.ต.วัชระ บุญรัตพันธ์ ขณะขับรถออกลาดตระเวนพื้นที่ บนเส้นทางสายสุไหงโก-ลก - ตากใบ และพบรถต้องสงสัยในพื้นที่ ต.โฆษิต อ.ตากใบ เป็นรถกระบะแบบแค็บ สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน บท 2788 ปัตตานี เมื่อเห็นรถของเจ้าหน้าที่ได้พยายามขับรถหนี เจ้าหน้าที่จึงขับไล่ติดตาม จนสามารถสกัดจับรถคันดังกล่าวเอาไว้ พบระเบิดแสวงเครื่องแบบ "ไปป์บอมบ์" ประกอบใส่ท่อเหล็ก 41 ลูก ชุดวงจรวิทยุ 2 กล่อง ชุดวงจรตั้งเวลา 5 นาที 36 กล่อง ชุดวงจรตั้งเวลา 10 นาที 1 กล่อง และชุดวงจรตั้งเวลา 30 นาทีอีก 2 กล่อง ทั้งยังมีไฟฉายอีก 4 กระบอก
------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : ระเบิดแสวงเครื่องแบบไปป์บอมบ์ ประกอบใส่ท่อเหล็กที่ใช้กันในประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งตำรวจยึดได้ถึง 41 ลูก
อ่านประกอบ : ยึดไปป์บอมบ์ 41 ลูกคาดใช้ป่วนย่านศก. - แฉก่อเหตุแล้ว 83 ลูก