พี่น้องมุสลิมชายแดนใต้ร่วมละหมาดขอพรให้ 13 ชีวิตติดถ้ำได้กลับบ้าน
พี่น้องมุสลิมชายแดนใต้ร่วมละหมาดฮายัต ขอพรให้เยาวชนทีมฟุตบอลพร้อมโค้ชรวม 13 ชีวิตที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย ได้กลับออกมาอย่างปลอดภัย
ท่ามกลางการส่งแรงใจและร่วมภาวนาให้กับเด็กๆ นักฟุตบอลทีม "หมูป่า อะคาเดมี" แห่ง อ.แม่สาย จังหวัดเหนือสุดของประเทศ ที่เข้าไปเที่ยวในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน และติดอยู่ภายในถึง 5 วัน ขณะที่การช่วยเหลือจากทุกฝ่ายที่ระดมกันเข้าไปตั้งแต่วันเสาร์ที่ 23 มิ.ย.61 ยังคงพยายามกันอย่างเต็มที่ แต่ก็ยังไม่เจอเยาวชนผู้เคราะห์ร้าย
ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายของวันพุธที่ 27 มิ.ย. ที่มัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี อาจารย์ประสาน ศรีเจริญ รองประธานผู้ทรงคุณวุฒิ สำนักจุฬาราชมนตรี พร้อมด้วย นายคัมภีร์ ดิษฐากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักจุฬาราชมนตรี ผู้แทนจากคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย ผู้แทนจากกระทรวงมหาดไทย คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี ผู้นำศาสนา และประชาชนชาวไทยมุสลิมกว่า 100 คน ร่วมกันละหมาดฮายัต และขอพรอัลลอฮ์ เพื่อให้เยาวชนและผู้ฝึกสอนทีมฟุตบอลหมูป่า ได้กลับออกจากถ้ำทุกคนด้วยความปลอดภัย ถือเป็นความความห่วงใยที่ส่งตรงจากจังหวัดชายแดนภาคใต้
พร้อมกันนี้ คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี ยังได้ออกแถลงการณ์ส่งกำลังใจให้ผู้ประสบภัย และเจ้าหน้าที่ที่เป็นทีมช่วยเหลือทุกคนด้วย
หลังเสร็จพิธีละหมาดขอพร มีเจ้าหน้าที่กู้ภัยซึ่งเป็นนักประดาน้ำของเทศบาลเมืองปัตตานี ได้นำเสนอข้อมูลผ่าน อาจารย์ประสาน ศรีเจริญ ว่า จากประสบการณ์ที่เคยปฏิบัติงานด้านการกู้ภัย เมื่อพบปัญหาหรืออุปสรรค โดยเฉพาะการช่วยชีวิตบุคคลผู้สูญหายหรือจมน้ำ หรือหาคนไม่พบ มักจะใช้วิธี "อาซาน" ตามหลักศาสนาอิสลาม คือ การประกาศเพื่อไห้ได้รับรู้ถึงการเข้าเวลาละหมาดด้วยถ้อยคำเฉพาะ เพื่อให้ผู้ที่สูญหายได้ยิน และได้กลับมา
อาจารย์ประสาน ศรีเจริญ กล่าวตอบเจ้าหน้าที่กู้ภัยว่า เป็นข้อเสนอที่ดี และทุกศาสนาสอนให้ทำในสิ่งที่ดี ดังนั้นจะแจ้งให้ทางคณะกรรมการอิสลามจังหวัดเชียงรายให้ช่วยกันหาช่องทางใดช่องทางหนึ่งที่สามารถช่วยเหลือเพื่อมนุษย์ด้วยกัน แม้ว่าจะนับถือศาสนาต่างกัน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ค้นพบและช่วยเหลือทั้ง 13 ชีวิตออกมาจากถ้ำได้ในที่สุด
-----------------------------------------------------------------------------------
ขอบคุุณ : ภาพจากสำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี